ตร.แจ้งข้อหา "อรุณ ภาวิไล" เมาแล้วขับ ชี้แม้ไม่เป่าแอลกอฮอล์ แต่ กม.สันนิษฐานได้ว่าเมา

21 เม.ย. 66

ตำรวจแจ้งข้อหา "อรุณ ภาวิไล" เมาแล้วขับ หลังเสยท้ายคู่กรณีขณะติดไฟแดง ชี้แม้ไม่เป่าแอลกอฮอล์ แต่กฎหมายสันนิษฐานได้ว่าเมา

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปการโต้เถียงระหว่าง "อรุณ ภาวิไล" หรือ "ซูโม่ตุ๋ย" กับตำรวจ โดยนักแสดงรุ่นใหญ่มีลักษณะท่าทางคล้ายอยู่ในอาการมึนเมา และโวยวายเสียงดัง และบอกปฏิเสธไม่ยอมเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ โดยยืนยันว่าตนไม่ใช่คนขับ และไม่ได้เมา หลังขับรถไปชนคู่กรณีที่จอดติดไฟแดงอยู่ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีโทรสอบถามพูดคุยกับ "อรุณ ภาวิไล" ถึงประเด็นดังกล่าวว่า เจ้าตัวกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเองขับรถไปชนท้ายคู่กรณี และได้เดินทางไปขั้นโรงพักที่ สน.พญาไท ส่วนเเรื่องที่ตนทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องการเป่าแอลกอฮอล์นั้น เพราะตนเองมองว่าเหตุมันเกิดจากเรื่องรถเฉี่ยวชนกัน มันไม่ได้มีการตั้งด่านตรวจ และคู่กรณีของตนเองก็เคลียร์กันจบกันไปแล้วจะมาเป่าเพื่ออะไร

1682067919203

คือตนเองคิดว่า มันเป็นเรื่องของเทคนิคการเคลมประกัน ถ้าเราผิดไปชนท้ายเขา หากมีเกี่ยวกับการเป่าแอลกอฮอล์หรือว่ามีเรื่องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวประกันก็จะไม่จ่าย ไม่เคลมให้ เพราะฉะนั้นมันก็เป็นทริคที่จะเลี่ยง แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องยอมจ่ายซ่อมรถเองนั้นแหละเรื่องก็มีแค่นี้

เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนตี 3 และยื้อไปจนเช้า ตนเองคิดว่ามันไม่มีเหตุผลในการที่จะเป่าแอลกอฮอล์ รถเฉี่ยวชน เคลียร์กันก็จบ และรถเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยมีแต่รถตนที่พัง เพราะตนไปชนท้ายเขาเหตุการณ์คือเขาติดไฟแดงและตนก็สไลด์ไปโดนเขา และรถเขาก็ไม่ได้เป็นไรมีแต่รถเรานะที่เป็นเยอะ

ทั้งนี้ตนขอย้ำว่า ก็ไม่ได้เมาอะไร ใส่ชุดนอนกำลังจะกลับบ้านแล้ว แค่จะขับรถไปเอาเอกสารกับเพื่อน เป็นการขับรถโดยประมาทมากกว่า พื้นที่เกิดเหตุคือ สน. พญาไท

1682067992669

ซึ่งคลิปที่แชร์กันว่อนเน็ตตนได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ยืนยันไม่ได้ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่จะให้เป่าแอลกอฮอล์อย่างเดียวเลย กว่าจะได้กลับบ้านก็เวลาล่วงเลยไป 9-10 โมง ตำรวจก็ออกเอกสารให้ปั๊มพิมพ์ลายนิ้วมือ รับทราบข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทที่ตนเองไปชนเขา ก็เป็นผู้ต้องหาที่ไปทำให้ทรัพย์สินหาย และก็ประกันตัวออกมา 20,000 บาท รอขึ้นศาลรอทางศาลพิจารณาว่าคู่กรณีจะคิดเท่าไหร่ ส่วนที่ทางตนไม่เป่าแอลกอฮอล์จะคิดค่าขัดขืนเท่าไหร่ก็ว่ากันมา ก็คือโดนข้อหาขัดขืนเจ้าหน้าที่ ตนรู้ว่าพอเป็นข่าวคนมองก็ไม่ดีอยู่แล้ว

สุดท้ายก่อนที่จะวางสายกันไป นักข่าวถามอีกรอบว่าได้ดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ "อรุณ ภาวิไล" บอกว่า ดื่มไปเล็กน้อยไม่กี่กระป๋องหรอกเพราะกินกับข้าวเย็น ฝากขอโทษสื่อมวลชนและสน. ที่ทำให้วุ่นวาย

1682067975066

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ประมาณ 03.20 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนถนนพญาไท ขาเข้า มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พนักงานสอบสวนจึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบว่า “ซูโมตุ๋ย” ขับรถไปชนคู่กรณีที่จอดติดไฟแดงอยู่ พนักงานสอบสวนจึงเชิญทั้งคู่มาพูดคุยที่ สน.พญาไท และขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่นายอรุณไม่ยอมเป่า ตามคลิปที่ปรากฏ

อย่างไรก็ตาม แม้นายอรุณ ภาวิไล จะปฏิเสธว่าตนไม่ได้เมา และไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ แต่ตามกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นขับขี่รถในขณะเมาสุรา หรือของมึนเมาอย่างอื่น หย่อนความสามารถในอันที่จะขับรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และดำเนินคดี นายอรุณ ภาวิไล แจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถอื่นได้รับความเสียหาย ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่สั่งให้มีการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ โดยนายอรุณ หรือซูโม่ตุ๋ย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนคู่กรณี ตำรวจได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วยเช่นกันแต่ไม่พบ ก่อนให้บริษัทประกันภัยเข้ามาประเมินความเสียหาย และรับผิดชอบต่อไป

1682067962978

ทั้งนี้ นายอรุณ ภาวิไล เคยถูกตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับเมื่อปี 2552 ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้สั่งลงโทษจำคุก โทษฐานขับรถขณะมึนเมาสุรา จำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ไม่เป่าทดสอบแอลกอฮอล์ ปรับ 250 บาท ต่อสู้ขัดขวาง จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 3 เดือน ปรับ 7,250 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส