สลดสาวก่อสร้างมุดท่องมหอย เจอทางตันหาทางออกไม่เจอจมน้ำเสียชีวิตคาท่อ

16 เม.ย. 66

สาวก่อสร้างมุดท่องมหอย เจอทางตันหาทางออกไม่เจอจมน้ำเสียชีวิตคาท่อ นักประดาน้ำใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนนำร่างออกมาได้

เมื่อเวลา 15.30 น.วัยที่ 16 เม.ย. พ.ต.ต.สุนันต์ มณีเทศ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในท่อระบายน้ำ ริมถนนสาย36 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสง่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังยืนมุงกันอยู่ริมถนนข้างหนองน้ำ เข้าไปตรวจสอบ โดยทราบว่าร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในท่อปูนสี่เหลี่ยมระบายน้ำขนาดกว้าง 1 เมตร โดยมีระดับสูงประมาณ 50 ซม. ซึ่งอยู่ริมหนองน้ำภายในป่าหญ้า

ต่อมานักประดาน้ำ ได้มุดน้ำเข้าไปในท่อระบายน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของมารดาและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้หญิง ทราบชื่อคือ น.ส.เดือน อายุ 17 ปี สัญชาติกัมพูชา สภาพศพตัวซีดขาว ร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย จึงนำศพส่ง รพ.ระยอง เพื่อตรวจพิสูจน์

จากการสอบสวน นายเบิร์ด อายุ 17 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองกับเพื่อน 3 คน และ น.ส.เดือน ได้ออกมาหาหอยในหนองน้ำ น.ส.เดือน ได้มุดเข้าไปในระบายน้ำ ตนเองเห็นว่าหายไป จึงรีบมุดท่อ ตามเข้าไป แต่ปรากฎว่าหายใจไม่ออก เพราะภายในท่อมีน้ำสูงจนโผล่ได้แค่ศีรษะ และติดโคลนภายในท่อ จึงรีบออกมา และ แจ้งให้ มารดาของ น.ส.เดือนทราบเรื่อง ก่อนที่จะแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

ด้านบิดาและมารดา ของผู้เสียชีวิต ที่ยังทำใจไม่ได้ ร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา ได้เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า บุตรสาวเพิ่งเดินทางมาจากกัมพูชาเพียงครึ่งเดือน โดยตั้งใจมาทำงานก่อสร้างกับตนเอง ในจ.ระยอง  แต่ก็มาจากไปเสียก่อน ก่อนจะออกมาหาหอยก็ไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายเพราะมากับเพื่อนหลายคน มาบอกกับตนว่าจะไปหาหอยจึงอนุญาตให้ไป ไม่คิดว่าจะเป็นการพูดคุยและเจอหน้ากันครั้งสุดท้าย สงสารลูกมาก คงจะทรมานมาก

ด้านเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ ได้เปิดเผยว่า จุดที่พบศพ อยู่สุดปลายท่ออีกฝั่งมีการปิดกั้นด้วยตะแกรงเหล็ก ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 เมตร โดยคาดว่าผู้เสียชีวิตคงจะพยายามหาทางออกจากท่อ แต่กลับไปพบกับตะแกรงเหล็กที่ปิดปลายท่อไว้ จึงทำให้หมดแรงและจมน้ำเสียชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพยานหลักฐาน สรุปว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิต แต่ถึงอย่างไรจะสรุปอีกครั้งตามผลพิสูจน์ของแพทย์ ซึ่งทางญาติก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เตรียมติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส