จากกรณีที่นายบี แซ่โหล อายุ 33 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านซ้าย จับกุมตัวหลังก่อเหตุคุ้มคลั่ง บริเวณถนนพระแก้วอาสา หน้าที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย จ.เลย เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 62 เวลาประมาณ 13.00 น.
ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่านายบีป่วยเป็นโรคเกาต์ เดินทางด้วยรถกระบะมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ไปจอดอยู่ที่ไร่ข้าวโพดบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย แล้วหายตัวไป จนกระทั่งมาถึงตัวอำเภอด่านซ้าย เข้าไปขอความช่วยเหลือที่พักพิงจากเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลด่านซ้าย แต่ได้รับการปฏิเสธ จนกระทั่งออกมาเดินคลั่งอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ พลเมืองดีได้แจ้งให้ตำรวจมาจับเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ ซึ่งขณะนั้นมีผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ 3 คน แยกขังนายบีไว้คนเดียว เพราะเกรงว่าจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเวรที่ดูแลห้องขังได้เดินตรวจตราความเรียบร้อย พบนายบีได้ใช้เสื้อแขนยาวสีแดงที่สวมใส่มา แขวนคอตัวเองกับลูกกรงห้องสุขาในห้องขังเสียชีวิต สภาพภายในห้องขังไม่มีร่องรอยการต่อสู้ จ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย พร้อมแจ้งให้ญาติทราบ โดยญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าผู้ตายมีอาการเครียด เสพยาบ้าเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคเกาต์อยู่เป็นประจำ จนเกิดอาการคลั่ง
ล่าสุด วันที่ 16 ส.ค. 62 นางสาวสุกฤตา เคนบ้านเป้า เจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลตำบลด่านซ้าย เล่าว่า วานนี้ เวลาประมาณ 12.45 น. ช่วงพักกลางวัน มีเจ้าหน้าที่อยู่บนสำนักงาน 3 คน ตนนั่งอยู่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ นายบีได้เดินกะเผลกขึ้นมาบนสำนักงาน ขอความช่วยเหลือขอที่พักพิงอ้างว่าถูกไล่ยิงมา ขณะนั้นหัวหน้ากองช่างได้เดินขึ้นมาพอดี จึงปฏิเสธ เพราะมีท่าทีไม่น่าไว้วางใจ นายบีจึงเดินออกจากสำนักงานไป จนกระทั่งมาทราบว่านายบีถูกจับแล้วก็ผูกคอตายในห้องขัง
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายบีบนห้องขัง สภ.ด่านซ้าย เป็นครั้งแรก โดยมีการพูดถึงกันในหมู่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอาจจะเป็นเหตุอาถรรพ์ เพราะขณะนี้จะมีการรื้อตัวอาคารไม้ และย้ายศาลเพียงตาสถานีตำรวจเดิม เพื่อก่อสร้างอาคารหลังใหม่