ครอบครัวบัณฑิตวิศวะ ฟ้องแพ่งครอบครัวเด็ก 15 ขับรถชนดับ 16 ล้าน

14 มี.ค. 66

 

ครอบครัวน้องเต้ บัณฑิตวิศวะ ยื่นฟ้องแพ่งครอบครัวเด็ก15 ที่ขับรถฝ่าไฟแดงชนเสียชีวิต เป็นเงินมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

วันที่ 14 มี.ค. 66 ที่สำนักงานสภาทนายความภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนายธนพล แก้วมูล อายุ 24 ปี หรือน้องเต้ บัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานแก่นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 ,นายปัญญา ธีระรัตนานนท์ เลขานุการคณะกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3, นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และนางผกากรอง ทนหมื่นไวย กรรมการ เพื่อนำเอกสารหลักฐานดังกล่าวยื่นต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางคดีแพ่งกับครอบครัวของเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ขับรถฝ่าไฟแดงจนไปชนกับรถจักรยานยนต์ของน้องเต้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 จนทำให้น้องเต้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวมเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท

โดยนายรักษ์ แก้วมูล อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นพ่อ กล่าวว่า ตั้งแต่สูญเสียน้องเต้ไปก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ เพราะทุกวันนี้อยู่บ้านมองเห็นรูปและอัฐิของน้องเต้ทีไรน้ำตาจะไหลตลอดเวลา รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากตนได้ทุ่มเททุกอย่าง พยายามดิ้นรนหาเงินส่งเสียจนน้องเต้เรียนจบ โดยน้องเต้เคยบอกกับตนว่าจะเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งทำให้ตนและครอบครัวดีใจมาก

ก็คงเหมือนกับพ่อของเยาวชนอายุ 15ปี ที่ขับรถชนน้องเต้เสียชีวิต ซึ่งคงจะดีใจและภูมิใจกับลูกชายที่ได้เป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย เพราะฉะนั้นความสูญเสียในครั้งนี้ จึงไม่สามารถตีราคาออกมาเป็นจำนวนเงินได้ เพราะความฝันลูกของตนจะยังคงไปต่ออีกไกล วันนี้จึงได้มาขอให้สภาทนายความฯ ช่วยฟ้องคดีแพ่งกับคู่กรณี เพื่อชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเอง แม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนชีวิตของลูกชายตนที่เสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เพื่อให้ผู้ก่อเหตุได้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ถึงที่สุด สุดท้ายตนอยากขอบคุณทางสภาทนายความ บริษัทที่น้องเต้เคยทำงานด้วย และประชาชนคนไทยที่ยังคงเป็นกำลังใจให้กับตนตลอดมา

ด้านนายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 น้องเต้ถูกรถพุ่งชนเสียชีวิต ทางผู้ปกครอง และญาติของผู้เสียชีวิต ก็ได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ กับสภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่ง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชภูปถัมภ์ ก็ได้มอบหมายให้คณะกรรมการสภาทนายความภาค 3 รับเรื่องมาดำเนินการให้ความช่วยเหลือเรื่องคดี ซึ่งวันนี้ทางสภาทนายความภาคที่ 3 ก็ได้เตรียมที่จะยื่นฟ้องคดีแพ่งกับคู่กรณี ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเด็กที่ขับรถ และผู้ปกครอง เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมูลละเมิด

ประกอบด้วย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู และค่าขาดแรงงานรายได้ หลังจากที่น้องเต้ได้เสียชีวิตไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 16,600,000 ล้านบาท สาเหตุที่ต้องฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายตามเงินจำนวนนี้ เนื่องจากพิจารณาว่า หลังจากที่น้องเต้ศึกษาจบ ก็ได้เข้าทำงานที่มีความมั่นคงสูงมาก บริษัทแห่งนี้มีการเจริญเติบโตค่อนข้างสูง มีทั้งเงินโบนัสประจำปี การขึ้นเงินเดือนเป็นลำดับขั้น เมื่อคำนวณรายได้จากวันที่เสียชีวิตไปข้างหน้าอีก 25 ปี คาดการณ์ว่าน้องเต้จะได้รับเงินเดือนจากบริษัทแห่งนี้ถึงเดือนละกว่า 190,000 บาท ซึ่งตรงนี้เองทางสภาทนายความฯ คาดว่าเงินเดือนที่ได้รับสามารถแบ่งมาอุปการะครอบครัวได้อย่างน้อยจะเป็นตัวเลขครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด จึงเป็นที่มาของตัวเลขจำนวนเงินกว่า 16 ล้านบาทดังกล่าว

ถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่สูงเกินไป แต่เป็นจำนวนเงินที่มีความสมเหตุสมผลมากที่สุดแล้ว โดยหลังจากยื่นฟ้องในวันนี้แล้ว หากศาลพิจารณารับคำฟ้อง ศาลก็จะส่งสำเนาหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยทั้ง 4 คน หลังจากนั้นก็จะมีกำหนดระยะเวลาต่อสู้คดี จะมีข้อโต้แย้งที่จะต่อสู้ในคดี ก็จะมีกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การ หลังจากยื่นคำให้การแล้วศาลก็จะมีกำหนดระยะเวลาชี้สอบมาตรฐาน ศาลอาจจะมีการนัดไกล่เกลี่ยก่อน ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยานฝ่ายโจทก์ และฝ่ายจำเลย หลังจากนั้นศาลก็จะพิจารณาคดีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส