แฉพระปาท่องโก๋ซุกวิก-บิกินี อึ้งภาพหลุดเหตุจากรักสามเส้า (คลิป)

14 ก.พ. 66

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 ทีมขาวอมรินทร์ ทีวี พยายามตามหาชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ที่สลัดสบงแล้วทรงวิก ทราบชื่อภายหลังคือ “พระณัต” ที่มีภาพหวาน ๆ นอนกอดอยู่กับพระสงฆ์หนุ่มอีกรูปต้อนรับวาเลนไทน์ ทราบชื่อภายหลังคือ “พระบาส” จนถูกตั้งฉายาใหม่ให้เป็น “มนตร์รักปาท่องโก๋” แต่กลายเป็นว่าทั้งวัดที่มีการเปิดวาร์ปในตอนแรกอย่าง วัดเขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี เจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ในจังหวัดต่างก็ออกมายืนยันว่า พระสงฆ์ในภาพไม่ใช่สงฆ์ในสังกัด แค่มาช่วยงานชั่วคราวและได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 66

556730

ล่าสุดวันที่ 14 ก.พ. 66 เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้ออกมาโพสต์ภาพคลังเสื้อผ้าของ “พระณัต” ที่สลัดสบงทรงวิก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและชุดชั้นในของผู้หญิง พร้อมระบุข้อความว่า “ทั้งวิกผม ยกทรง ชุดชั้นใน เสื้อผ้าผู้หญิง ชุดบิกินีที่มีไว้ใส่เปลี่ยนแทนจีวรเวลาออกไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ เท่านั้นไม่พอในกุฎิมีอุปกรณ์เสริมหลากชนิดหลากไซส์ หลายขนาดเตรียมไว้ให้คู่นอนที่แวะเวียนมาแทบทุกคืน นี่คือเจ้าอาวาส? ผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในวัดคือทำแบบนี้นะหรอ บวชทำไมอยากรู้ เป็นคนเดียวกันกับข่าวมนต์รักปาท่องโก๋ที่อาจมีพระผู้ใหญ่ช่วยปกป้องเลยยังไม่เจอตัว”

998957

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่งในพื้น ที่ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งในอดีต “พระณัต” เคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นี่  “นายบุญ” (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าเดิมที “พระณัต” เป็นพระมาจากภาคอิสานเข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสช่วงต้นปี 2563 เนื่องจากตอนนั้นเจ้าอาวาสรูปเก่ามรณภาพพอดี

ต่อมาในช่วงกลางปี 2563 ก็มีการทอดกฐินสร้างกุฏิหลังใหม่จำได้ว่าเป็นมูลค่าประมาณ 400,000 บาท เป็นกุฎิไม้มีใต้ถุน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ตอนสร้างแรก ๆ จะเป็นสีฟ้า แต่ปัจจุบันหลังจาก “พระณัต” ออกจากวัดไปเมื่อปลายปี 2564 ชาวบ้านก็ทาสีใหม่ให้เป็นสีเหลืองครีมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

379772

และภาพบางภาพที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” เผยแพร่ออกไปเมื่อวานนี้ก็เกิดขึ้นภายในกุฎิหลังนี้ อย่างภาพที่ “พระณัต” นอนกอดกับพระรูปหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็น “พระบาส” หรือไม่เพราะไม่เห็นหน้าก็เป็นที่นอนภายในกุฏิ เนื่องจากตอนที่ตนกับชาวบ้านเข้าไปทำความสะอาดหลังจาก “พระณัต” ออกจากวัดจำได้ว่าผ้าปูที่นอนเป็นลายโดเรม่อนเหมือนกัน บวกกับเมื่อเทียบกับภาพเสื้อผ้าผู้หญิงล่าสุดที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ปล่อยออกมาก็เห็นผ้าปูที่นอนลายโดเรม่อนเหมือนกันด้วย

305746

ส่วนเหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้นนั้น เจ้าตัวยอมรับว่า รับรู้มาโดยตลอดเพราะหลังจาก “พระณัต” เข้ามาเป็นเจ้าอาวาส ตอนแรกชาวบ้านก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะท่าทีของ “พระณัต” เหมือนพระนักพัฒนาปฎิบัติกิจของสงฆ์ พูดคุยกับชาวบ้านได้ตามปกติ ทำให้ช่วงนั้นมีพระสงฆ์จากต่างถิ่นย้ายเข้ามาอยู่เยอะมาก ประมาณ 5-6 คน ส่วนใหญ่ “พระณัต” จะบอกว่าเป็นเพื่อน

523495

ต่อมาเมื่อประมาณปลายปี 2563 หลังกุฏิหลังใหม่สร้างเสร็จก็มีพระสูงวัยรูปหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี ทราบชื่อ “พระทศ” เดินทางมาจาก กทม. มาอยู่ที่วัดด้วย ซึ่ง “พระณัต” ใช้สรรพนามเรียกพระรูปนี้ว่า “ป๊า” และที่สำคัญคือทั้ง 2 รูปนอนในกุฏิเดียวกัน จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มเอะใจถึงความไม่เหมาะสม

จนกระทั่งต้นปี 2564 “พระบาส” ก็เข้ามาที่วัด แต่ตอนที่เข้ามายังเป็นฆราวาส แล้ว “พระณัต” มาบวชให้เป็นพระภายหลัง และอยู่คนละกุฏิกับ “พระณัต” และ “พระทศ” แต่ภายหลัง “พระทศ” ก็มาปรึกษากับตนว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “พระณัต” กับ “พระบาส” ไม่ค่อยเหมาะสมจะทำให้วัดเสื่อมเสีย พร้อมกับเปิดภาพที่ทั้งคู่ถ่ายด้วยกันเป็นภาพที่ “พระณัต” สวมชุดฆราวาสไปเล่นน้ำรวมถึงภาพเสื้อผ้าผู้หญิง เป็นเสื้อคู่ของพระทั้ง 2 รูป ระบุชื่อและวันที่คาดว่าจะคบหากันคือ 27-7-42 ให้ตนดู

ซึ่งตนก็จำได้ว่าเป็นภาพเซ็ตเดียวกับที่หลุดออกในปัจจุบัน และตอนนั้นก็มีเหตุการณ์ “พระทศ” ขับรถเก๋งไล่ชน “พระบาส” เกิดขึ้นที่หน้าวัดด้วยแต่ไม่บาดเจ็บ ตนกับชาวบ้านก็เลยมั่นใจว่าพระทั้ง 3 รูปต้องมีปัญหาเรื่องชู้สาวกันแน่นอน และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็มีภาพที่ “พระณัต” กับ “พระบาส” หลุดออกมารอบหนึ่งในตอนนั้น ดังนั้นภาพที่หลุดออกมาปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นภาพเก่าที่คาดว่าคงมีการออกมาแฉอีกรอบหรือเปล่า

หลังจากนั้นช่วงกลางปี 2564 “พระณัต” กับ “พระบาส” ก็ออกจากวัดไปโดยไม่บอกใคร ไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหน มาทราบอีกทีคือ 2 เดือนหลังจากออกจากวัดว่าทั้ง 2 รูปได้สึกที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ไปแล้ว ส่วน “พระทศ” หลังจากทั้ง 2 รูปออกจากวัดไปได้ 1 อาทิตย์ ก็ย้ายออกตามไปด้วย ทราบว่าปัจจุบันกลับไปอยู่ที่วัดใน กทม. แล้วพระรูปอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปทั้งหมด ดังนั้นพระที่อยู่ในวัดปัจจุบันจะเป็นพระชุดใหม่ ไม่ค่อยรู้เรื่องในตอนนั้นเท่าไหร่

350493

“นายบุญ” บอกว่าหลังจากพระทั้ง 3 รูปย้ายออกไป ตนกับชาวบ้านก็ช่วยกันทำความสะอาดกุฏิ แน่นอนว่าตอนนั้นพบเสื้อผ้า ชุดชั้นในผู้หญิง แผ่นแปะจุกอยู่ภายในกุฏิ และเจอวิกสีทองที่ปรากฎในรูปจริง ๆ 1 ชิ้น กระป๋องเบียร์หลายสิบกระป๋อง รวมถึงพบอาหารเสริมเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศหญิงในลักษณะแบบฉีดแต่ไม่พบของเล่นผู้ใหญ่ ตอนนั้นก็ได้เอาไปทิ้งพร้อมเผาทำลายทั้งหมด ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย เพราะกลัวว่าหากภาพหลุดไปวัดจะเสื่อมเสีย

สำหรับ “พระณัต” หลังจากหายออกไปจากวัด ตนก็มารู้อีกทีคือตอนที่เขาโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อต้นมกราคม 2566 หลังเขารับปริญญาตรี แล้วเดินทางมาถ่ายรูปกับเด็กวัดที่นี่ และต่อมาก็มีข่าวว่าไปช่วยงานที่วัดเขาวงพระจันทร์ จนมีภาพหลุดออกมาผ่านเพจล่าสุด ส่วนตัวก็ไม่ได้ติดต่อสอบถามเพราะ “พระณัต” เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม