คปภ.โคราชเผย บ.ประกันเตรียมจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้รอเพียงผลตรวจอัตลักษณ์ ขณะที่ผลการสืบสวนยังไม่พบหลักฐานว่ามีคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
จากกรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารไม่ประจำทางได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำชนกับการ์ดเรลจนทำให้มีน้ำมันรั่วไหลออกมาจนเกิดประกายไฟทำให้รถตู้ที่ประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงลุกไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด 11 ราย รอดชีวิต 1 ราย ที่บริถนนมิตรภาพขาเข้ากรุงเทพฯ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (31 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการจ่ายเงินประกันอุบัติเหตุให้กับญาติของผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถตู้ที่อำเภอสีคิ้ว
โดยนางสาวมณี ไวยภาษ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนของการจ่ายเงินประกันภัยให้กับญาติของทางผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้นั้นยังคงต้องรอผลการตรวจอัตลักษณ์จากทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจเพื่อนำผลตรวจดังกล่าวมายื่นขอใบมรณะบัตรกับทางเทศบาลสีคิ้วเพื่อนำหลักฐานใบมรณะบัตรพร้อมหลักฐานอื่นๆ ไปยื่นขอรับเงินประกันกับทางบริษัทมิตรแท้ประกันภัยซึ่งตอนนี้ทาง คปภ.ได้มีการประสานงานไปทางบริษัทมิตรแท้ประกันภัยสาขาอำนาจเจริญเรียบร้อยแล้วรอแค่เพียงผลพิสูจน์อัตลักษณ์เท่านั้นซึ่งไม่ต้องรอผลทางคดีความ
ขณะที่ทางด้าน ร.ต.ท.นันทพงศ์ ดวงแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในส่วนของการพิสูจน์อัตลักษณ์ อยู่ในระหว่างกระบวนการทำงานของสถาบันนิติเวชวิทยา โดยเบื้องต้นสถาบันนิติเวชแจ้งว่าจะใช้ระยะประมาณ 7 วัน ไม่รวมวันหยุดราชการ และตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งข้อมูลความคืบหน้าของการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งถ้าหากผลตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยาแจ้งผลให้ทราบแล้ว ทางญาติผู้เสียชีวิตจะต้องเดินทางมาดำเนินเรื่องเอกสารบันทึกประจำวัน และสอบปากคำในเรื่องของการได้รับชดใช้ของประกันภัยที่ สถานีตำรวจภูธรสีคิ้วและที่ว่าการอำเภอสีคิ้วเพื่อให้ฝ่ายทะเบียน ออกใบมรณะบัตร เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาและยื่นขอรับเงินประกันต่อไป
สำหรับในส่วนของความคืบหน้าของคดีตอนนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานใหม่ ยังคงต้องรอผลตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามที่จะสอบปากคำจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อให้มีความรัดกุมของรูปคดีมากที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตทั้งหมด แต่ถ้าหากยังไม่มีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุการสรุปคดีอาจลงความเห็นว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถตู้
