พิสูจน์รักแท้! หนุ่มใหญ่วิ่งข้ามจังหวัดขอสาวแต่งงาน ฝ่ายหญิงลั่นถ้ามาจริงจะร่วมหอตลอดชีวิต (คลิป)

วันที่ 20 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ขาล่องใต้ แยกเข้าเมืองชะอำ-หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุเทพ ล้อมจิต อายุ 52 ปี ชาว จ.ยโสธร ได้วิ่งไปตามหารักแท้ เพื่อไปขอ นางธนาภา เขียวอ่อน อายุ 56 ปี ที่อาศัยอยู่ จ.สตูล แต่งงาน ในวันที่ 14 ก.พ. 66 วันวาเลนไทน์

ตามที่ทั้ง 2 คน ได้พูดคุยมีการตกลงสัญญากันไว้ก่อนหน้านี้ โดยมี นายปัญญา ทับทิมหิน อายุ 20 ปี หลานชาย พร้อมรถจักรยานยนต์นำเต็นท์เสื้อผ้า ผ้าห่ม จำนวนหนึ่งติดตามมาดูแล นายสุเทพ ด้วย

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไปเจอสาวคนหนึ่งในติ๊กต้อกชื่อ คุณยุ จากนั้นตนได้ติดต่อพูดคุยกับยุมาประมาณ 5 เดือนแล้ว ก่อนที่จะขอเขาแต่งงาน แต่ยุได้ตอบกลับมาว่า ให้ตนทำอย่างไรก็ได้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ตนจึงตอบไปว่าถ้าจะเอาแบบนั้นตนก็จะทำให้ โดยตนจะพิสูจน์ตัวเองและจะให้ผู้อื่นรับรู้รับทราบไปด้วย

ตนจึงตัดสินใจออกวิ่งจาก จ.นครนายก ไปขอฝ่ายหญิงแต่งงานที่ จ.สตูล เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ระยะทาง 1,200 กิโล ใช้เวลาเตรียมตัวก่อนวิ่ง 3 เดือน โดยจะวิ่งวันละ 40-50 กิโล เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยเริ่มออกวิ่งตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 66 จากหน้าเขื่อนขุนด่านปราการชล มุ่งหน้าไป จ.สตูล ให้ได้ภายในวันที่ 14 ก.พ. 66 นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับการวิ่งและพิสูจน์ตัวเองในครั้งนี้ ตนอยากให้เป็นบทเรียนกับคู่รักคู่อื่น ๆ อยากให้รู้ว่าความรักนั้นมีความหมายมาก และสื่อให้เห็นว่าคนที่กำลังทะเลาะกันมีปัญหากัน หรือถึงขั้นจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายและฆ่ากัน ตามที่เป็นข่าวนั้น ตนไม่อยากให้มีความรุนแรงกับความรักเกิดขึ้นอีก หากอยู่ร่วมกันไม่ได้ก็พาไปส่งคืนพ่อแม่เขา หรือควรพูดคุยกันด้วยดี

สำหรับความยากลำบากในการเดินทาง ตนว่าไม่ยากเพราะเคยฝึกเดินมาแบบนี้อยู่แล้ว วันนี้เดินได้แล้วประมาณ 300 กิโลเมตร เข้าวันที่ 7 ของการเดินทาง ส่วนเรื่องที่พักค่ำไหนกางเต็นท์นอนนั้น หรือพักตามข้างทาง บางครั้งก็มีเพื่อน ๆ ที่ติดตาม ในติ๊กต็อกตนที่ทราบข่าวมารับไปพักที่บ้านตามริมทางบ้าง

ก่อนหน้านี้ ตนทำอาชีพนักวิทยุก่อนไม่ประสบความสำเร็จมีหนี้สินนับ 10 ล้าน ซึ่งตอนนั้นหาความรักจากใครไม่ได้ แต่หนี้สินก็ต้องใช้ ตนจึงต้องแสดงความเป็นนักสู้ของตัวเองเพื่อที่จะใช้หนี้ให้หมด ตนจึงค้นหาบุคคลที่อยู่ในโซเชียลฯ ว่ามีใครที่จะพอเป็นคู่ชีวิตเดินไปด้วยกันได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ถูกหลอกมามาก มีอยู่คำหนึ่งที่คุณยุพูดกับตน ก่อนที่ตนจะตัดสินใจออกวิ่งไปขอแต่งงานในครั้งนี้ว่า ไม่ต้องมีอะไร ไม่ต้องมีเงินมา ขอแค่พิสูจน์ใจตัวเองว่ารักเขาจริงไหม และเป็นคนมีสัจจะไหมแค่นั้นพอ ตนจึงตัดสินใจวิ่งจาก จ.นครนายก ไปขอคุณยุแต่งงานที่ จ.สตูล

ทีมข่าววิดีโอคอลไปพูดคุยกับ น.ส.ธนาภา เขียวอ่อน หรือ ยุ อายุ 56 ปี ว่าที่เจ้าสาว ซึ่งอาศัยอยู่ที่ อ.นาหว้า จ.สตูล เปิดเผยว่า ตนเจอกับพี่สุเทพเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน โดยขณะที่ตนไลฟ์สดติ้กต็อกพี่สุเทพก็เข้ามาชมไลฟ์สดด้วย รวมถึงมีการส่งดอกไม้ให้ในไลฟ์สด หลังจากนั้นตนก็ส่งกลับคืนให้เขาส่งกันไปส่งกันมาก็เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ พี่สุเทพจึงขอตนเป็นแฟน หลังจากนั้นก็คบกันแบบทางไกลตลอด เพราะพี่สุเทพอยู่ จ.นครนายก ส่วนตนอยู่ จ.สตูล

หลังจากที่คบกันมาสักกพัก พี่สุเทพก็บอกว่าอยากจะพิสูจน์รักแท้ด้วยการวิ่งมาหาตนที่ จ.สตูล ซึ่งตอนแรกตนก็คิดว่าพี่สุเทพพูดเล่น แต่เขาก็เริ่มซ้อมวิ่งเพื่อเพิ่มความฟิต จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 เขาก็เริ่มวิ่งออกจาก จ.นครนายก และจะวิ่งไปให้มาหาตนภายในวันที่ 14 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นวาเลนไทน์

สำหรับงานแต่งงาน คงจะไม่มีการจัดงานหรือจ่ายสินสอดเพราะพวกตนทั้ง 2 ก็อายุมากกันแล้ว เพียงแค่พี่สุเทพมาพบผู้ใหญ่ฝั่งตนให้เขาได้รับรู้เท่านั้น หลังจากที่พบกันก็จะเที่ยวเกาะหลีเป๊ะเพื่อเป็นการฮันนีมูน และหลังจากนี้ตนก็จะตามไปอยู่กับพี่สุเทพ เพื่อทำตามความฝันคือท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ

ยอมรับว่าตนรู้สึกเป็นห่วงที่พี่สุเทพ ที่วิ่งทางไกลเพื่อพิสูจน์รักแท้ให้กับตน ซึ่งตนก็เคยถามว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ เจ้าตัวก็บอกว่าเพื่อให้สังคมและโลกได้เห็นถึงพลังของความรักที่ทำให้คนทำได้ทุกอย่าง และพี่สุเทพยังประกาศกร้าวว่า ไม่กลัวสิ่งใด “มีเพียงตนเท่านั้น ที่มีผลต่อความรู้สึกเขา และทำให้หัวใจเขาหยุดเต้นได้” อย่างไรก็ตามตนรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่มีผู้ชายคนหนึ่งทำให้ตนได้ขนาดนี้ และคิดว่าหลังจากนี้จะหยุดที่พี่สุเทพและรักไปกันตลอดไป