เจ้าของร้านข้าวต้ม เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นสรรพากรให้กดลิงก์ ก่อนโดนสูบเงิน 6 แสน

12 ม.ค. 66

สาวเจ้าของร้านข้าวต้ม เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นสรรพากรให้กดลิงก์ ก่อนโดนสูบเงินในบัญชีหายเกลี้ยง 6 แสน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.สุนิสา อายุ 29 ปี ผู้เสียหายชาว จ.มหาสารคาม เจ้าของร้านข้าวต้มใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 ได้มีมิจฉาชีพได้โทรศัพท์เข้ามาหาหลอกลวงว่าเป็นกรมสรรพากร และให้ผู้เสียหายกดรับลิงก์ ต่อมาพบว่าเงินในบัญชีธนาคารของตน ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคารของคนอื่น ยอดเงินจำนวน 643,882 บาท หมดเกลี้ยงบัญชี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 เวลา 15.15 น. แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ดแต่คดีไม่คืบ

1673509579002

น.ส.สุนิสา กล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 8 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 14.45 น. มีเบอร์โทรศัพท์โทรเข้ามาหาตนอ้างว่าเป็นกรมสรรพากรและสอบถามว่าตนชื่อ-นามสกุลนี้ใช่มั้ย บอกว่ามีข้อมูลตนอยู่ในกรมสรรพากรเรื่องรายได้ไม่ถึงกำหนดที่ต้องชำระภาษี โดยอ้างว่าทางมิจฉาชีพจะทำการลดหย่อนได้ โดยตนสามารถไปติดต่อที่สำนักงานหรือหากไม่มีเวลาสามารถทำออนไลน์ได้เลย หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็ทักไลน์มาและสอนขั้นตอนการยืนยันตัวตนและให้ตนทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ให้ตนกดลิงก์ พอตนกดตามลิงก์ที่มิจฉาชีพให้มาขึ้นแอปกรมสรรพากร มิจฉาชีพให้ตนตรวจสอบชื่อ และใส่รหัส 6 ตัว โดยไม่ต้องบอกมิจฉาชีพ ให้พิมพ์ชื่อ-นามสกุล รายละเอียดต่างๆ และให้ติ๊กเครื่องหมายข้อ 1 ข้อ 2 โดยเมื่อตนติ๊กที่ข้อ 1 จะขึ้นอีกหน้านึงซึ่งเหมือนให้ตนปลดล็อก เป็นภาษาอังกฤษ ตนอ่านไม่ออก ตนเลยถามกลับไปว่าต้องทำเหรอ มิจฉาชีพบอกต้องทำเพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลได้

พอตนทำตามที่มิจฉาชีพแนะนำก็ขึ้นหน้ากำลังตรวจสอบข้อมูล มิจฉาชีพบอกให้ตนรอให้โหลดครบ 100% เพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบได้ ระหว่างนั้นคือไม่ได้วางสาย มิจฉาชีพโทรคุยกับตนตลอดโดยตนเปิดลำโพงฟังเสียงและให้ตนทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพบอก พอหน้าระบบขึ้นโหลดครบ 100% มิจฉาชีพบอกตนว่าโหลดครบแล้ว ต่อไปถ้ามีสรรพากรโทรมาจะเข้าโครงการคนละครึ่งได้เลยเพราะตนทำการลดหย่อนภาษีไปแล้ว ไม่ต้องไปเสียภาษีที่ไหนอีกแล้ว เพราะลดหย่อนไปแล้วเนื่องจากตนรายได้ไม่ถึง โดยทุกทีเราจะต้องเสีย หลังจากนั้นมิจฉาชีพวางสายไปแต่มือถือของตนยังค้างหน้าแอปอยู่ กดอะไรก็ไม่ได้ กดกลับไม่ได้อะไรไม่ได้เลย ตนเลยวางโทรศัพท์และไปเตรียมของเปิดร้านต่อ เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ คิดว่ามือถือของตนคงมีปัญหา สาเหตุที่ตนเชื่อเพราะก่อนหน้านี้หลายเดือนที่ผ่านมาแม่ตนโทรมาบอกว่ามีหนังสือจากกรมสรรพากรมาที่บ้าน เขาก็ไม่ได้ดูเพราะคนแก่อยู่บ้าน ตนเลยหลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพ

1673509653095

หลังจากเกิดเหตุตนปิดและเปิดมือถือใหม่ มันมีเด้งเตือนว่ายอดเงินของตนเหลือ 0.65 บาท โดยมียอดเงินโอนออก 643,882 บาท ไปยังบัญชีชื่อ น.ส.เบญจรงค์ ทั้งหมดบัญชีเลย ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้จักเขาเลย ขนาดแฟนของตน ตนยังไม่เคยโอนเงินให้เยอะขนาดนี้เลย เป็นใครก็ไม่รู้จัก ตอนที่แก๊งมิจฉาชีพโทรมาหาตนใช้เวลาในการรอโหลดหน้าแอปเพื่อแฮกข้อมูลประมาณครึ่งชั่วโมง ตนก็ไม่ได้สนใจมัวแต่ทำของต่อ พอหลังเกิดเหตุตนไปติดต่อธนาคารที่ตนเปิดบัญชี ตนแจ้งธนาคารว่ามียอดเงินโอนออกไปจากบัญชีซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้โอน ธนาคารสามารถดึงกลับมาได้มั้ย มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง ธนาคารบอกว่าดึงไม่ได้ต้องไปแจ้งความ และบอกให้ตนอายัดบัญชีไว้ไม่ให้เงินออก ตนจึงบอกไปว่าตนไม่มีเงินออกแล้ว มันเกลี้ยงบัญชีแล้ว ธนาคารสามารถตรวจสอบได้มั้ยว่าปลายทางเป็นอะไรยังไง ทางธนาคารที่ตนไปติดต่อก็โทรเข้าสำนักงานใหญ่ได้ข้อมูลมาว่าปลายทางที่โอนไปเป็นธนาคารแห่งหนึ่งมีชื่อบัญชีนี้ รู้แค่ 4 ตัวหลังของเลขบัญชีมิจฉาชีพที่รับโอน

น.ส.สุนิสา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนตั้งใจเก็บเงินนี้ไว้เป็นเงินเก็บของครอบครัว ตนทำงานหาเงินมาเก็บไว้มาตลอดเกือบ 10 ปี ตนตั้งใจจะทยอยเงินไปเก็บไว้บัญชีของแฟนบางส่วน ให้มันมีเงินเก็บทั้ง 2 บัญชี ตอนที่เกิดเหตุมีแจ้งเตือนมาตนนึกว่าข่าวแจ้งเตือนเลยไม่ดู แต่พอตนจะโอนเงินไปยังบัญชีแฟน 150,000 บาท กลับโอนไม่ได้ ตนเลยไปกดตั้งค่ายอดเงินที่จะทำโอนต่อวันใหม่เพราะคิดว่ามันเกินวงเงินที่ต้องโอนต่อวัน และหน้าแอปมันขึ้นว่าเงินในบัญชีของคุณไม่เพียงพอ ตนก็แปลกใจและเข้าไปดูหน้าบัญชีของตน พอต้นเห็นยอดเงินเหลือ 0.65 บาท ตนขาอ่อนไม่มีแรงเลย เรียกแฟนมาดูก็ตกใจมาก เสร็จแล้วก็ติดต่อไปที่ธนาคาร ความรู้สึกหลังจากนั้นคือไม่มีแรง เหนื่อย เหมือนหามาให้คนอื่นโกง แฟนก็ไม่มีแรงจะทำมาหากินต่อ ที่ทำมาเหมือนมันสูญไปที่หามาทั้งหมด ตนก็หมดกำลังใจแต่จะทำยังไงได้ ตนมีลูก 2 คนที่ต้องดูแล แม่โทรมาขอเงินซื้อนมให้ลูกก็ไม่มี

1673509296893

น.ส.สุนิสา บอกอีกว่าตอนแรกแม่ไม่รู้พอหลังๆ ตนก็เลยบอกเพราะปกติแฟนจะโทรหาแม่เขาทุกวัน แต่นี่เป็น 10 วันไม่เคยโทรไปเลยเพราะมันไม่อยากคุยกับใคร ตนไม่มีความเชื่อใจในธนาคารเลย กลัวและหวาดระแวงไปหมด จะโอนเงินเองแต่ละทีต้องปลดล็อก ต้องยืนยันตัวตน ต้องกำหนดวงเงินในการโอน ขนาดจะโอนซ้ำยังต้องกดยืนยัน แต่นี่คือตนไม่ได้ทำเองแต่เงินออกไปหมดบัญชีแบบนี้ ขนาดตนไปติดต่อธนาคารทั้งที่เป็นชื่อตนแท้ๆ ยังต้องรอให้ไปแจ้งความ ตนอยากฝากเตือนทุกๆ คนไม่ใช่แค่แม่ค้า อย่าไปไว้ใจคนง่ายๆ เขาไม่ใช่ญาติเรา ถ้ามีคนไม่รู้จักมาคุยเรื่องอื่นได้แต่ไม่ใช่เรื่องเงินทอง ทรัพย์สินของเรา ขนาดไม่ได้คุยเรื่องธุรกรรม คุยแค่รายรับจ่าย ตนยังเจอแบบนี้ ตนก็เสียใจไม่รู้จะทำยังไง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส