ลูกเรือหลวงสุโขทัยเผยนาทีท้าตายสู้คลื่น6ม. ใช้แผน3ชูชีพสละ1ศพ แลก11คนรอด

20 ธ.ค. 65

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 65 ที่เรือหลวงสุโขทัย เดินทางกลับออกจากฝั่งท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งห่างออกจากริมฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล ระหว่างการเดินทางมุ่งหน้ากลับไปยังท่าเรือสัตหีบ มีน้ำทะลักเข้าเรือ เนื่องจากคลื่นสูง ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับและเรือจม เป็นเหตุทำให้ทหารเรือที่โดยสารอยู่บนเรือประมาณ 106 ชีวิต ต้องใส่ชูชีพกระโดดออกจากเรือเพื่อเอาตัวรอด

เรือหลวงสุโขทัย

วันที่ 19 ธ.ค. 65 พันจ่าเอกสมศักดิ์ สิทธิทูล ผู้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจการในเรือ ซึ่งเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พกช้ำจากการถูกกระแทกจากคลื่นสูง พันจ่าเอกสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เส้นทางการเดินเรือหลวงสุโขทัย เริ่มออกเดินทางจากท่าเรือสัตหีบเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งออกเดินทางไปเพื่อที่จะร่วมงาน 100 ปีกรมมาหลวงชุมพรที่ จ.ชุมพร จนกระทั่งวันที่ 18 ธ.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. เดินทางไปถึงปลายทางเพื่อร่วมงาน แต่หลังจากนั้นเรือไม่สามารถเทียบจอดบริเวณจุดดังกล่าวได้

เรือหลวงสุโขทัย

จึงได้มีการเคลื่อนเรือหลวงสุโขทัยเพื่อที่จะมาเทียบจอดบริเวณท่าเรือบางสะพาน ทันทีที่มาถึงไม่สามารถเข้าเทียบได้ ผู้การเรือจึงได้มีการประเมินสถานการณ์และนำเรือกลับไปยังท่าเรือสัตหีบ ระหว่างที่เดินทางกลับนั้นปรากฏว่าเกิดคลื่นลมทะเลสูง จนทำให้เรือได้รับอุบัติเหตุ โดยมีน้ำไหลทะลักเข้าเรือ แต่ด้วยระบบของเรือหากระบบสูบน้ำใช้การไม่ได้ จะมีระบบประตูลิ้นกันกลับ ทำหน้าที่ในการปิดประตูเหมือนวาล์วน้ำ เมื่อมีการหมุนปิดประตูดังกล่าวแล้วจะเป็นการเสริมให้ตัวกลับเรือมีความแข็งแรงมากขึ้น ชื่อว่าแรงดันน้ำที่เข้ามาอย่างรวดเร็วจึงทำให้ปิดประตูไม่ทัน น้ำจึงทะลักเข้าในส่วนของรูต่าง ๆ ของเรือ

เรือหลวงสุโขทัย

ส่วนตัวหลังจากที่ได้รับฟังประกาศครั้งสุดท้ายจากผู้การเรือ ก็ได้มีการสวมใส่ชูชีพ และกลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วยกันอีก 2 คน ก็มีเสื้อชูชีพสวมใส่ แต่ด้วยในวันดังกล่าวมีจำนวนกำลังพลเพิ่มขึ้นในเรือ เนื่องจากมีทหารนาวิกขอขึ้นเรือหลวงสุโขทัยเพื่อเดินทางกลับไปด้วย จึงทำให้จำนวนชูชีพไม่เพียงพอ ดังนั้นจำนวนชูชีพเดิมประมาณ 70 ชิ้น จึงพอสำหรับบุคลากรหรือลูกเรือหลัก เมื่อตัดสินใจที่จะทิ้งเรือ จึงทำให้บางคนมีชูชีพบางคนไม่มีชูชีพ

แต่ในกลุ่มของตนเองพยายามที่จะจับกลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่ และจับมือกันเป็นวงกลม อย่างน้อยก็ไปไหนไปด้วยกัน และที่สำคัญ เวลาที่เรือที่มาช่วยเหลือรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ที่บินสำรวจจะได้มองเห็นชัด แต่ในบรรดาคนที่จับมือกันเป็นวงกลม 12 คนในกลุ่มของตนเอง พบว่าในขณะนั้นมีน้องคนที่ไม่ได้สวมใส่ชูชีพ คาดว่าน่าจะสำนักและหมดสติจากคลื่นสูง จนกระทั่งหมดชีพจร

เรือหลวงสุโขทัย

ซึ่งทุกคนพยามจับมือกันเอาไว้ แต่เจ้าตัวก็หมดแรงจนกระทั่งหลุดลอยหายออกไปจากกลุ่ม ประกอบกับในวันดังกล่าว ยังมีอุปสรรคเรื่องของคลื่นแรงที่จะทำให้พัดไป โดนกราบเรือแล้วได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ดังนั้น ทุกคนก็ต้องพยามดีดตัวให้ออกห่างจากเรือให้มากที่สุด และที่อุปสรรคก็คือเรื่องของความมืด ที่แทบจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากแสงไฟจากชูชีพ

เรือหลวงสุโขทัย

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะปกติเรือวิ่งออกทะเล เจอคลื่นสูงคลื่นแรงก็ไม่เคยเกิดเหตุ และสภาพเรือก็พร้อมสำหรับทางการทหารทะเล และที่สำคัญการที่เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้สูญเสีย ก็ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นเหมือนกัน

เพราะแม้ว่าอาจจะเห็นคนเสียชีวิตต่อหน้า แต่ก็อยากจะพาร่างของน้องและเพื่อนทุกคนกลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย แต่บางครั้งเนื่องด้วยการเอาตัวเองรอดจากคลื่นสูงหรืออุปสรรคต่าง ๆ อาจจะมีความยากลำบากแล้ว การที่จะขนเอาร่างคนเสียชีวิตขึ้นด้วยตอนนั้น อาจเป็นเรื่องที่น่าจะลำบากที่สุด ฉะนั้นการตัดสินใจในหลายเรื่องก็ต้องเลือกในกลุ่มคนที่รอดชีวิตด้วยกันก่อน

เรือหลวงสุโขทัยเรือหลวงสุโขทัยเรือหลวงสุโขทัยเรือหลวงสุโขทัย

จากข้อมูลของกองทัพเรือ ป็นเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ (2 ลำ) สังกัดกองเรือฟรีเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ สร้างโดย TACOMA BOATBUILDING COMPANY ที่เมือง TACOMA สหรัฐอเมริกา โดยเรือหลวงสุโขทัยมีชื่อเดิมว่า RTN 252 FT PSMM MK-16 #446 ที่ได้รับการติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบอำนวยการรบที่ทันสมัย มีขีดความสามารถและประสิทธิภาพสูงพร้อมปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติในเวลาเดียวกัน คือ การป้องกันภัยทางอากาศ ผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ

ภารกิจหลักของเรือหลวงสุโขทัยคือการปราบเรือดำน้ำ ลาดตระเวนตรวจการณ์ คุ้มกันกระบวนเรือ สนับสนุนการยิงฝั่ง ส่วนภารกิจรองคือสนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

เรือหลวงสุโขทัย

เรือหลวงสุโขทัยลำปัจจุบัน เป็นเรือลำที่ 2 หลังจากที่เรือลำแรกได้ปลดระวางไปแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเรือหลวงลำนี้ เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร ความกว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์ กำลังพลประจำเรือ 87 นาย

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส