พ่อคลั่งถือพิซซ่าบุกโรงเรียน จับลูกเป็นตัวประกันง้อเมียหลังเลิก 6 เดือน

14 ธ.ค. 65

พ่อถือของไปฝากลูกในโรงเรียนที่ ก่อนคุ้มคลั่ง ร่ำไห้เมียทิ้ง จับลูกเป็นตัวประกัน พลาดทำปืนลั่นใส่มือตัวเองเจ็บ เจ้าตำรวจรวบตัวได้ทันควัน

วันที่ 14 ธ.ค.65 เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.นางรอง ว่ามีคนคุ้มคลั่งอยู่ในห้องเรียนชั้น ป.2 เกรงว่าเด็กจะเป็นอันตราย จนท.จึงนำกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุตำรวจพบนายก้อง อายุ 35 ปี กำลังคุ้มคลั่งร่ำไห้กอด ด.ญ.เอ (นามสมมุติ)อายุ 8 ขวบ ลูกสาวของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตำรวจจึงเข้าชาร์จแยกตัวลูกออกมา เพราะเกรงจะได้รับอันตราย

จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายก้อง มาที่ สภ.นางรอง เพื่อระงับสติอารมณ์ ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่นั้น นายก้องมีอาการร้องไห้ คล้ายกับการคุ้มคลั่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อนำตัวเข้าห้องขัง ยังร่ำไห้ส่งเสียดัง ตำรวจต้องไปนั่งพูดคุยด้วยในห้องขัง เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยนายก้อง ให้การว่า ถูกภรรยาตัวเองบอกเลิก แยกกันอยู่กันนานกว่า 6 เดือน ตนไปเช่าบ้านอยู่ แต่อดคิดถึงภรรยาไม่ได้เพราะอยู่กินกันมานานถึง 11 ปี

พยายามตามง้อภรรยาหลายครั้งแต่ถูกปฏิเสธ ยอมรับว่าเครียดจึงตั้งใจจะมาระบายความในใจกับลูก ไม่คิดจะทำร้ายใคร ตอนนี้ยังหวังว่าภรรยาจะเห็นใจให้กลับไปอยู่ด้วยกันอีก

ต่อมาตำรวจได้เรียก น.ส.วรรณ ภรรยานายก้อง มาสอบถาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางวรรณ เล่าว่า สาเหตุที่บอกเลิกกับสามี เพราะชอบทำร้ายเวลาเมาสุรา พยายามเตือนแล้วหลายครั้ง จึงตัดสินใจบอกเลิก

ต่อมาสามีพยายามมาขอคืนดี แต่ตนไม่ยอมเพราะเข็ด และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา สามีถือปืนปากกามาขู่ บอกว่าจะยิง แต่ปืนเกิดลั่นใส่มือของตัวเองได้รับบาดเจ็บ ไม่คิดว่าจะมาหาลูกสาวที่โรงเรียน คาดว่าสามีน่าจะจับลูกออกจากโรงเรียนเพื่อเอาเป็นตัวประกันที่ต้องการจะคืนดีกับตน หลังจากนี้จะระวังมากขึ้น ยืนยันไม่เอาคืน

จากการสอบถามครูในโรงเรียน ทราบว่า ปกติโรงเรียนจะเข้มงวดบุคคลเข้าออกโรงเรียน ตามแผนเผชิญเหตุที่ร่วมซ้อมกันมากับตำรวจ สภ.นางรอง ตอนนั้นได้มีชาย 2 คน มาพบยามที่หน้าประตู บอกว่าจะมาหาลูกสาว

เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพ่อเด็กจริง ยามจึงให้เข้ามาเพียงคนเดียว โดยพ่อได้ถือพิชซ่า ติดมาด้วยบอกว่าจะเอามาฝากลูกสาว ช่วงนั้นเป็นเวลาพักเที่ยงของเด็ก เห็นนายก้อง นั่งคุยกับลูก ไม่นานได้ร้องได้ พร้อมกับกอดลูกสาว แล้วฟูมฟายเสียงดังขึ้น

จึงรีบต้อนเด็กในห้องเรียนออกจากห้องตามแผนฯ แล้วโทรแจ้ง ผอ.โรงเรียน ก่อนจะแจ้งตำรวจ ประมาณ 5 นาที ตำรวจจึงเข้ามาควบคุมตัวได้ทันการณ์

ด้าน พ.ต.อ. อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.นางรอง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเอาไว้แล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าครูทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถประสานตำรวจก่อนจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ส่วนสาเหตุมาจากปัญหาครอบครัว

 

ผู้อำนวยการโรงเรียน "ทีโอเอ" กล่าวว่า ครูต้องให้นายก้องเข้ามาเพราะเป็นผู้ปกครองเด็กแต่ครูต้องเฝ้าระวังซึ่งครูประจำชั้นก็ได้ทำตามขั้นตอนหลังจากพ่อของเด็กเริ่มมีอาการคุ้มคลั่ง

ครูประจำชั้นได้แยกเด็กออกไปจากห้องนั้นทันทีจากนั้นได้สั่งให้ครูนักเรียนชั้นอนุบาลเอาเด็กทั้งหมดไปรวมกันที่อาคารเอนกประสงค์โดยให้เหตุผลเด็กว่าจะไปทำกิจกรรมระหว่างนั้นได้มีการประสานกับตำรวจไว้แล้วเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง

แต่หากไม่มีการวางแผนหรือเกิดการล่าช้ามากกว่านี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้โดยเฉพาะคำพูดของเด็กที่พูดออกมาระหว่างที่พ่อฟูมฟายว่า”หนูยังไม่อยากตาย”คาดว่าพ่ออาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ลูกพูดคำนั้นออกมา

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส