วุ่นไม่เลิก! เอไอเอส ร่อนหนังสือ ยังถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่ได้ แม้กลุ่มทรูบอกไม่ขัดข้อง

13 ธ.ค. 65

ยังวุ่นไม่เลิก เอไอเอส ทำหนังสือถึง ผู้ว่า กกท. แจงยังถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไม่ได้ แม้กลุ่มทรูบอกไม่ขัดข้อง เหตุติดคำสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ที่มีคำสั่งห้ามฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2565 ตามที่กลุ่ม ทรู ได้ยื่นคำร้องขอห้ามไว้ โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มทรูเป็นผู้ได้รับสิทธิเด็ดขาดจาก กกท. ให้ใช้สิทธิเท่านั้น

ภายหลังจากที่ ผู้ว่าฯ กกท.เผย กลุ่มทรู ไม่ขัดข้องให้ IPTV ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกต่อได้ โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่คืนวันที่ 13ธ.ค. จนถึงนัดชิง

ล่าสุดวันนี้ (13 ธันวาคม 2565)​ บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด ได้ทำหนังสือ ถึง ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เรื่อง ขอเชิญแจ้งความประสงค์ร่วมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (FIFA World Cup Final 2022)

โดยอ้างถึง 1. หนังสือ กก 5102/ 14158 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2565 และหนังสือที่ กก 5102/13121 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 พร้อมแนบ คำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2585

ระบุว่าตามหนังสือที่อ้างถึง กกท. ได้แจ้งให้ บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด ทราบว่า หากบริษัทฯ มีความประสงค์ร่วมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ก็ขอให้เสนอสิทธิประโยชน์ให้กับ กกท. ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2565 รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น

บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ จาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมีหน้าที่ต้องนำรายการการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ออกอากาศ โดยผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป มาให้สมาชิกของบริษัทฯ ได้รับชมตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ ประกาศ Must Cary

และในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 บริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก กกท. ว่า กกท. ได้ทำบันทึกข้อตกลงการสนับสนุนการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

โดย บริษัท ทรูฯ ได้สนับสนุน งบประมาณเป็นเงิน 300 ล้านบาท และ กกท.ให้สิทธิประโยชน์ตอบแทน ด้วยการให้สิทธิในการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการดังกล่าว และเมื่อได้พิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องประกอบกับความเห็นของที่ประชุมร่วมกับ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติแล้ว เห็นว่า บริษัทฯ ในฐานะให้ผู้ให้บริการโครงชายระบบไอพีทีวี (IPTV) สามารถติดต่อขอรับสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022
(รอบสุดท้าย) ได้จาก บริษัท ทรูฯ

รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึง 2. โดยต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของกลุ่ม ทรู ห้ามบริษัทฯ แพร่เสียงแพร่ภาพถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก (FIFA World Cup Final 2022) นับตั้งแต่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นต้นไป รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

โดยในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ศาลทรัพย์สินทางบัญญาฯ ได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งห้ามฯ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 เช่นเดิม โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มทรูเป็นผู้ใด้รับสิทธิเด็ดขาดจาก กกท. ให้ใช้สิทธิงานแพร่เสียงแพร่ภาพ รายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022

ณ ขณะนี้ บริษัทฯ ยังคงไม่สามารถแพร่เสียงแพร่ภาพถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอสโลก (FIFA World Cup Final 2022) ได้ ตามคำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ที่กลุ่ม ทรู ได้ยื่นคำร้องขอห้ามไว้ ซึ่งในปัจจุบันศาลทรัพย์สินทางบัญญาฯ ก็ยังไม่มีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้ง กสทช. ในฐานะผู้กำกับดูแลการประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัทฯ ก็ยังมิได้มีคำสั่งในประการอื่นใด ภายหลังจากที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มีคำสั่ง ห้ามดังกล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม