ทักษิณ ซัด! ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เพื่อไทยทำได้-ถึงกล้าพูด

7 ธ.ค. 65

“ทักษิณ ชินวัตร” ลั่นอย่าดูแคลนเพื่อไทย ทำได้ทุกเรื่องที่พูด เผยต้อง “คิดใหญ่และทำเป็น”  ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ทำได้จริง  แต่ต้องพัฒนาและทำให้ถูกเพราะเป็นกฎธรรมชาติ หากเศรษฐกิจดี ตลาดก็พากันแย่งคนเก่งมีฝีมือด้วยเงินเดือนสูง

 

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  พูดคุยผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘Care คิด เคลื่อน ไทย’ ถึงการที่ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม กล่าวในที่ประชุม ใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2565 ว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ตนพร้อมคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ศึกษาและทำวิจัยพบว่า ประเทศถอยหลังไปมาก ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และไร้ที่ยืนบนเวทีโลก ซึ่งขณะที่ประชาชนจำนวนมากมีหนี้ท่วมท้น และสะสมเป็นเวลานาน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จำเป็นต้อง ‘คิดใหญ่’ เพราะหากคิดเล็กจะรับมือปัญหามากมายขนาดนี้ไม่อยู่ และต้อง ‘ทำเป็น’  เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ โดยได้ระบุ หากภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในปี 2570

 

1.คนไทยจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศเติบโตอย่างต่ำเฉลี่ยร้อยละ 5% ต่อปี ช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้วยแนวคิด “รดน้ำที่ราก”จะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เป็นพลังขับเคลื่อน

 

2.ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป 

 

3.นโยบายด้านการเกษตร นำเทคโนโลยีทางการเกษตรหรือ Agritech มาใช้ เช่น เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยในการเกษตร

 

4.นโยบายด้านการท่องเที่ยว ในปี 2570 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยจำนวนมาก รายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 3 ล้านล้านบาทต่อปี

 

5.นโยบายด้านนวัตกรรม สร้างโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ (Blockchain)  ของไทยเอง ที่เป็นช่องทางในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งสินทรัพย์ที่เกิดจากซอฟต์พาวเวอร์ ตลอดจนเป็นช่องทางเงินทุนให้กับนักธุรกิจรายย่อย ไม่ว่าจะเป็น Start up หรือ SME และส่งเสริมงานวิจัยอย่างจริงจัง จนทำให้ในปี 2570 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านนวัตกรรมของ Asean มีการใช้เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ( CBDC : Central Bank Digital Currency) แทนเงินสด   และมีกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)  ของตนเองทุกแห่งมี wifi ฟรี

 

6.นโยบายด้านสาธารณสุข ในปี 2570 หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคถูกอัพเกรด หรือยกระดับขึ้น  สามารถรักษาได้ทั่วประเทศ  ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว รับการรักษาได้ทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐถูกกระจายอำนาจในรูปแบบองค์การมหาชน มีการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ตามปริมาณงาน และเกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในการพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ให้ทันสมัยในทุกระดับตั้งแต่ตำบลถึงมหานคร รวมทั้งมีการฝึก อ.ส.ม. ให้เป็นพยาบาลระดับต้น  ประจำทุกหมู่บ้าน 

 

7.นโยบายด้านการศึกษา มีการกระจายอำนาจการศึกษาเหมือนในประเทศที่เจริญแล้ว มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น ซึ่งสอนภาษาต่างประเทศเช่น ภาษาอังกฤษและภาษาจีน ตั้งแต่ ป.1 มีการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและออนไลน์ โดยใช้ครูต่างประเทศมาสอนเสริมร่วมกับครูไทย 

 

8.ยาเสพติดต้องหมดไป ‘ยาเสพติดกับเพื่อไทยอยู่ร่วมกันไม่ได้’ จะปราบปรามยาเสพติดเต็มรูปแบบ 

 

9.นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน  ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จะถูกแก้ไขทั้งระบบทั่วประเทศ   มีการสร้างคลองน้ำเพื่อเชื่อมแม่น้ำหลักเข้าหากัน และมีอ่างเก็บน้ำเป็นแก้มลิงตามเส้นทางน้ำสายหลัก เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพ และป้องกันน้ำทะเลหนุนไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ ด้วยการถมทะเลด้านบางขุนเทียนจนถึงสมุทรปราการ สมุทรสาคร และเกิดแผ่นดินงอกจำนวนมาก

 

10.นโยบายด้านการคมนาคมและขนส่งมวลชน ในปี 2570 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค มีการลงทุนในระบบรางครั้งใหญ่ สร้างรถไฟรางคู่ในทุกเส้นทาง ทำให้รถไฟวิ่งได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากที่เคยใช้เวลา 10 ชั่วโมงเหลือเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น เส้นทางรถไฟสายใหม่ถูกสร้างขึ้นไปถึงจุดหมายสำคัญ เช่น เชียงราย เชียงของ มุกดาหาร นครพนม ภูเก็ต ส่วนรถไฟความเร็วสูงสร้างจากจีนลงมาถึงไทยแล้วต่อยาวไปถึงสิงคโปร์ เกิดขึ้นแน่นอน ส่วนรถไฟฟ้าสายต่างๆในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลถูกจัดระเบียบใหม่ เพื่อใช้ระบบตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสายได้ก่อนปี 2570 แน่นอน สนามบินสุวรรณภูมิ จะขยายพื้นที่รองรับผู้โดยสารมากขึ้นจาก 45 ล้านคน เป็น 100 ล้านคน

 

สุดท้ายที่นโยบายด้านพลังงาน โครงสร้างราคาพลังงาน ถูกปรับรื้อมาตั้งแต่ปี 2566  ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ลดลงทันที จะรณรงค์และส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน ทำให้ลดการพึ่งพาน้ำมันลง

 

นายทักษิณ  ยังได้พูดถึงประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ว่าทำได้จริง  ซึ่งจริงๆ จะทำค่าแรงขั้นต่ำให้ประชาชนมีเงินรายได้ 800 บาท ก็ยังได้ หากสร้างให้เกิดเศรษฐกิจที่ดี

 

“การที่ พล.อ.ประยุทธ์ แนะนำหนังสือ “ทุนนิยมในศตวรรษที่ 21 : Capital in the Twenty-First Century” เขียนโดย Thomas Piketty (โทมัส พิเก็ตตี) นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส มีคนอ่ายเยอะออกมาเมื่อปี 2014 คนอ่านแล้วก็ชื่นชม ตรงที่แกเป็นคนขยันไปหาข้อมูลในอดีต ตั้งแต่ปี 1920 กว่าๆ สังเกตสังกาว่า ทฤษฎีเศรษฐกิจที่ใช้มาตลอด มันเป็นอย่างไรบ้าง แล้วดูตัวเลขระหว่างคนที่เป็นเจ้าของ แคปปิตอล คือมีเงินทุนเยอะๆ ร่ำรวยเอาๆ แต่คนที่เกี่ยวข้องเช่น ผู้ใช้แรงงานหรือ ผู้ที่อยู่ระดับล่าง ไม่ได้ส่วนแบ่งที่เรียกว่า ‘แฟร์แชร์’ ก็เลยทำให้ช่องว่างของรายได้มันแยกไปเรื่อยๆ ถ้าประยุทธ์ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จริง แล้วไปเป็นแคนดิเดตนายกรวมไทยสร้างชาติ ท่านควรจะได้ออกนโยบายที่แมตชชิ่งกันกับสิ่งที่ท่านปลื้มและแนะนำหนังสือนี้ให้อ่าน"

 

“ถ้าท่านได้มาจริงเนี่ย ท่านจะชอบแล้วท่านก็จะเขียนนโยบาย ทำไมเขาพูดถึงเรื่องสิ่งที่คาร์ล มาคส์พูดไว้ในอดีต คือคนฝรั่งเศสจะมีนิสัยเข้าใจคนข้างล่าง คนหมู่มากพอสมควร ฉะนั้นแล้วนายพิเก็ตตี ก็เลยจะพูดเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบ ขณะที่คนข้างล่างมีรายได้ดีขึ้น มันเป็นปัญหาของเส้น Y เศรษฐศาสตร์ อันนี้แหล่ะคือที่มาของไทยรักไทย ที่ไทยรักไทยต้องเติมความเข้าใจของคนข้างล่าง คนหมู่มากเข้าไป เพื่อให้เกษตร รากหญ้า ได้มีโอกาสลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้รากหญ้า เพราะรากหญ้าไม่ใช่วัฒนธรรมรากหญ้าแล้วข้างบนจะไม่ได้รับ มันเหมือนรดน้ำที่ราก ยังไงน้ำก็ถึงยอดใบ แต่ใจเย็นๆ ยอดใบรอน้ำหน่อยได้ไหม แล้วมันจะขึ้นไปเอง แต่นี้ใจร้อนได้น้ำข้างบนตลอด  แต่รากไม่ได้ อีกหน่อยต้นไม้ต้นนี้เน่า ต้องอดทนรอ”

 

คล้ายกับการจะเคลื่อนพีระมิด ต้องดันที่ฐานรากแบบที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพูดในวันนี้  รายได้ที่มันจะลดช่องว่างระหว่าง คนที่มีทุนในการทำมาหากินกับคนที่ไม่ค่อยมีทุนต้องใช้แรงงานและต้องใช้ปัญญาอย่างเดียวหนังสือเล่มนี้ให้แนวคิดความเข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ จะรู้วิธีการสร้างรายได้ขั้นต่ำดังกล่าว

 

“ยังเข้าใจเศรษฐศาสตร์น้อยไป ยังเข้าใจและเห็นใจเพื่อนร่วมชาติน้อยไป ยังเข้าใจศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของพี่น้องคนไทยด้วยกันน้อยไป อย่างท่านประยุทธ์อยู่กับงบประมาณมาโดยตลอด ท่านเลยคิดว่าทุกอย่างมาจากงบประมาณ  สำหรับผมรวยมาจากคว้าอากาศมาเป็นเงิน เพราะฉะนั้นผมมองว่าเงินมีทุกที่ ถ้ามีปัญญาหาเงินได้หมด วันนี้ผมเลยคิดว่าที่วันนี้ที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพูดผมเข้าใจเลย นั้นก็คือการสร้างเศรษฐกิจให้มันดี ถ้าเศรษฐกิจมันดีมันบังคับเองว่าทุกอย่างมันก็ต้องเพิ่ม เงินเดือนมันก็ต้องเพิ่ม วันนี้ที่ท่านมาพูดนโยบาย 600 บาท จะเอาเงินมาจากไหนท่านไปอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะเข้าใจ ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดว่าจะทำเศรษฐกิจถึงแม้ว่าโลกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เราจะดันเศรษฐกิจประเทศไทย ให้โตเฉลี่ย  4 ปี ปีละ 5% ซึ่งปีแรกอาจจะได้ 7 % ก็ได้ ผมว่ามันมาจากฐานที่รัฐบาลทหารทำไว้ต่ำ ซึ่งตัวเลข 5% นี่เหมาะดูดคนที่จบการศึกษาเข้าสู่ระบบงานได้

 

“ไม่เช่นนั้นจะตกงานไปเรื่อยๆ รุ่นนี้จบมาตกงาน 3 แสนคน รุ่นหน้าตกอีก 3 แสนคน มันก็หมักหมมกันใหญ่ แล้วจะทำให้คนที่จบมาแล้วมีงานทำ แล้วทำไมมีงานทำแล้วจะให้ 600 บาท มันค่อยเป็นค่อยไป ปี 2570 จริงๆ เนียผมบอกให้เลยถ้าเพื่อไทยบริหารโดยไม่มีกระบวนก่อกวน รับรองเลย 800 บาทยังทำได้เลย เพราะถ้าบริษัทผมรายได้มันดีขึ้น ถ้าผมจ้างคนงานถูกๆ ก็ถูกบริษัทที่กำไรดีเหมือนก็ถูกดึงตัวไป เหลือคนไม่ค่อยมีคุณภาพให้เรา เศรษฐกิจดีมันจำเป็นต้องให้เงินคนมากขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ คีย์เวิร์ดก็คือปั่นเศรษฐกิจให้มันดี เศรษฐกิจโต 5% ไม่ถึง 600 บาท ก็แย่แล้ว แล้วไม่ใช่หลวงต้องจ่าย มันเป็นภาคเอกชนที่เศรษฐกิจดี แล้วมันเอื้ออำนวยให้เขาต้องจ่ายเงินให้สูงเอง”

 

อดีตนายกฯ ทักษิณ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายในประเด็นดังกว่าว่า วันนี้ที่ได้ฟังหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนำเสนอ คือการนำเทคโนโลยีมานั้นลิงค์ระหว่างเกษตรกรรากหญ้าไปจนถึงคนที่อยู่ต่างประเทศ ถ้ารัฐบาลเข้าใจคนรุ่นใหม่คิดอย่างไร และคนรุ่นเก่าคิดยังไง โลกมันพัฒนาตลอดเวลา ถ้าเราไม่พัฒนาไม่ได้ นโยบายเพื่อไทยถ้าไม่รู้จริง อย่าบอกว่าทำไม่ได้ อย่างนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคที่เคยทำ ทุกวันนี้นำไปพัฒนาปรับปรุงใช้กัน

 

1670395972812

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม