สั่งสอบวินัย นายตำรวจขับกระบะขวางรถฉุกเฉิน โดนเปรียบเทียบปรับ 500 บาท เจ้าตัวอ้าง ติดสัญญาณจราจรอยู่และสับสนคิดว่าจะหลบไปทางไหนดี
จากกรณี นายตำรวจขับรถยนต์กระบะขวางทางรถฉุกเฉิน ที่กำลังนำผู้ป่วยไปส่งให้รถพยาบาล เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยภายหลังพบว่า คนขับรถยนต์กระบะเป็นนายตำรวจ สังกัด สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิด พ.ร.บ.จราจร มาตรา 76(2) ขณะขับขี่เมื่อเห็นรถฉุกเฉินที่ใช้ไฟสัญญาณไฟวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือสัญญาณเสียงอย่างอื่น ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้ชิดขอบทางด้านซ้าย โดยได้ถูกสั่งเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงินจำนวน 500 บาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (6 ธันวาคม 2565) พลตำรวจตรี อิทธิพล นาคคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผู้กำกับการ สภ.ด่านขุดทด ให้ตรวจข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และดำเนินการทางวินัย โดยให้รายงานผลให้ทราบ ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2565
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพันตำรวจเอก ภูไท เชาว์สูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ด่านขุนทด ได้รับการเปิดเผยว่า คนขับรถยนต์กระบะคันที่ปรากฏในคลิป คือ ร้อยตำรวจเอก รองสารวัตรสืบสวน สภ.ด่านขุนทด ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียกเจ้าตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง โดยเจ้าตัวชี้แจงกับตนว่า ไม่ได้มีเจตนาขับรถขวางรถฉุกเฉิน ซึ่งขณะเกิดเหตุได้จอดรถติดไฟแดง และไม่เห็นสัญญาณไฟไซเรนของรถฉุกเฉินด้านหลัง
จากนั้นได้ยินเสียงทางเจ้าหน้าที่รถฉุกเฉินได้ประกาศบอกว่า ให้หลบรถฉุกเฉิน ซึ่งตอนนั้นตนสับสน และคิดว่าจะหลบไปทางไหนดี เนื่องจากจอดติดไฟแดงอยู่ด้วย โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะขวางทางรถฉุกเฉิน ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้เจ้าตัวไปเสียค่าปรับตามกฎหมาย และดำเนินการสอบวินัยด้วย โดยหลังจากนี้จะให้นายตำรวจคนขับรถกระบะติดต่อเข้าไปปรับความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่รถฉุกเฉิน และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
