นาทีตาย! หนุ่มช่างเดือดเพื่อนนักมวยเก่ายกกระถางต้นไม้ให้คนอื่น สู้ไม่ได้ ชักปืนปากกายิงดับ (คลิป)

วันที่ 16 มิ.ย. 62 ร.ต.อ.รัฐพงษ์ ศรีนอก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่โรงงานแห่งหนึ่ง ใน ซ.พุฒศรี แยก ซ.ย่อยประชาร่วมใจ ใกล้อบต.แพรกษา ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ป.สภ.เมือง พ.ต.ต.นพดล อินทศร สวป. ฯและ ตร.สืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานผลิตตาชั่งแป้งมัน บริเวณกลางโรงงาน พบศพ นายอาคม พิมพ์วัน อายุ 37 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดเข้าที่ หน้าอก 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายมงคลวาร แซ่เอี้ยว อายุ 35 ปี ชาว อ.พล จ.ขอนแก่น นั่งรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ หรือ ปืนปากกา ขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ และตรวจพบกระสุนปืน ขนาดเดียวกัน ที่ผู้ก่อเหตุนำไปโยนทิ้งในชักโครกห้องน้ำอีก 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึก ขณะที่นายมงคลวาร ผู้ก่อเหตุที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน เดินมาชักปืนปากกายิง นายอาคม ผู้เสียชีวิตที่สวมเสื้อสีแดง โดยนายอาคมได้แย่งปืนปากกา และชกเข้าที่หน้านายมงคลวาร ก่อนที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่ หลังจากนั้นมีคนงานมาช่วยแยกออกจากกัน แต่ทางนายอาคมได้นอนเสียชีวิต นอนแน่นิ่งกับพื้น

นายมงคลวาร สารภาพว่า เป็นก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้ตนและผู้ตายเป็นเพื่อนกันมานาน ก่อนที่ตนจะชักชวนผู้ตายมาทำงานที่โรงงานเดียวกันนี้ โดยตนเป็นช่างเชื่อมเหล็ก ซึ่งระหว่างที่ทำงานอยู่ตนก็นำพืชผักสวนครัวเข้ามาเพาะปลูกใส่ไว้ในกระถางต้นไม้ เพื่อเก็บไว้กิน แต่ต่อมาหลังผักเริ่มเจริญงอกงามเติบโต ผู้ตายกลับยกกระถางผักไปให้คนขายขายหมูปิ้งในซอย โดยอ้างว่า เกะกะ กีดขวาง ซึ่งตนเองก็เตือนไปแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ตายก็ยังกระทำ จนกระทั่ง วันนี้ ตนเข้ามาที่โรงงานจึงทราบว่า ผู้ตายยกกระถางต้นมะละกอไปให้คนขายหมูปิ้งอีกแล้ว จึงเข้ามาต่อว่า และเกิดมีปากเสียงถึงขั้นลงมือชกต่อยกัน ระหว่างล้มลงกับพื้น มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมาแต่ตนสู้ไม่ไหว เนื่องจากผู้ตายเคยเป็นนักมวยมาก่อน จึงชักอาวุธปืนปากกา ซึ่งพกติดตัวไว้ในกระเป๋ากางเกง ออกมาจ่อยิงที่หน้าอกของผู้ตายหนึ่งนัด จนทำให้เสียชีวิต เบื้องต้น พนักงานสอบสวน จึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลาง ไปที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป