กรณีชายถูกแทงเสียชีวิตภายในศาลาที่ทำการชุมชน เทศบาล ต.โคกหล่อ หมู่ 3 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ภายในศาลาดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่เปิดโล่ง พบร่างของนายอนุษชา กึ่งเลี่ยน หรือ นุษ อายุ 55 ปี อาศัยอยู่ที่หมู่ 3 ต.โคกหล่อ อ.เมือง
สภาพนอนหงายหน้าบนกองเลือด นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เสื้อถูกถกขึ้นมาเหนือราวนม มีผ้าขาวม้าทับอยู่ใต้แผ่นหลัง ติดกันพบถุงแกงตกอยู่ติดกับอาวุธมีดพกปลายแหลมจำนวน 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด วันที่ 30 พ.ย. 65 นายสุชาติ ซกซื้อ อายุ 59 ปี ชายเร่ร่อนเก็บของเก่าและพักอาศัยอยู่ในศาลาของหมู่บ้านและเป็นคนสนิทของผู้ตาย ซึ่งในที่เกิดเหตุยังพบมีดของผู้ก่อเหตุตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสอบสวนตั้งแต่ตี 4 ของเมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึง ช่วงบ่าย นายสุชาติถึงยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุแพงเพื่อนสนิทนายอนุษชาเสียชีวิต เพราะนายอนุษชา เข้ามาที่ศาลากลางดึกแล้ว ก็เอะอะเสียงดังทะเลาะกับตน โดยได้เข้ามาต่อยตนก่อน แถมจะเอามีดเหล็กขูดทับของตนมาแทงตนอีกตนจึงแย่งมีดแล้วก็ป้องกันตัวโดยการแทงนายอนุษชา จนเสียชีวิต
โดยตอนที่เจ้าหน้าที่นำตัวคนก่อเหตุมาจากห้องสอบสวนเพื่อนำตัวเข้าห้องขัง ผู้ก่อเหตุ มีลักษณะเดินไม่ค่อยไหวพูดจาไม่รู้เรื่องสื่อสารเป็นภาษามือแสดงท่าทางให้ดู ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้แทงอนุษชา 2 ครั้ง บริเวณแขนและหน้าอก และยังทำท่าทางอีกว่าอนุษชามาต่อยตนก่อน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุเข้าห้องขังดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามคนก่อเหตุถึงครอบครัวและญาติ คนก่อเหตุให้ข้อมูลไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าหน้าที่จะติดตามครอยครัวมารับทราบเรื่องต่อไป คาดว่าเป็นคนในพื้นที่ต่างอำเภอ
น้องชายคนตายชื่อ นายวีรยุทธ กึ่งเลี่ยน เล่าว่าเมื่อวานนี้ครอบครัวเราไปงานกินเจที่ศาลเจ้า ที่อยู่ใกล้บ้านกันหมด ตนก็เห็นว่าพี่ชายเมาอยู่ที่งานซึ่งปกติพี่ชายมักจะกินเหล้า แล้วก็เมาเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว แต่ที่ประจำของแกก็คือที่ศาลาหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ เพราะที่ศาลามีนายชาติ เพื่อนสนิทของพี่ชายพักอาศัยอยู่ ซึ่งนายชาติเป็นทายเร่ร่อนหาเก็บของเก่าขาย และก็จะมีพี่ชายที่ชอบนำข้าวนำอาหารและเหล้ามานั่งกินด้วย ที่ศาลาแห่งนี้ ซึ่งปกติพี่ชายก็จะเป็นคนที่เมาแล้วก็เสียงดังเอะอะไปทั่ว โดยเขาจะอยู่กับนายชาติ 2 คน
เมื่อคืนขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ก็เห็นพี่ชายนอนอยู่ แล้วก็เห็นแต่ชาติเพื่อนของพี่ชายเดินวนไปวนมาอยู่หน้าศาลาจึงสอบถาม นายชาติจึงบอกว่าพี่ชายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ตนจึงโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจสอบก็พบว่ามีดที่แทงพี่ชายเป็นมีดของนายชาติ ซึ่งนายชาติก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ ตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้สึกว่านายชาติก่อเหตุเลย เพราะแต่ชาติทำตัวปกติมาก แล้วก็ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ยังคิดว่าคนที่ก่อเหตุแทงพี่ชายน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ไปสอบปากคำหมด ปรากฏว่าตอนเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาแจ้งว่านายชาติรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนก่อเหตุ
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบครอบครัวคนตาย นำร่างผู้ตายมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่ศาลาของชุมชนบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ทีมข่าวได้พูดคุยกับแม่ของผู้ตายชื่อ นางผล กึ่งเลี่ยง เล่าว่า เมื่อคืนลูกชายไปที่งานเลี้ยงกินเจที่ศาลเจ้าลูกชายก็เมาเต้นอยู่ภายในงานโดยได้บอกให้แม่ตักแกงให้แม่ก็ตักแกงให้ 1 ถุง บอกว่าจะนำมาให้นายชาติเพื่อนที่กินเหล้าด้วยกันที่พักอาศัยอยู่ในศาลาชุมชนเป็นคนเร่ร่อน
โดยปกติแล้วนายอนุษชา ผู้เสียชีวิตต่อให้กินเหล้าเมามาย ก็จะกลับไปนอนที่บ้าน แต่เมื่อคืนนี้ไม่ได้กลับไปที่บ้านเช้ามาลูก ๆ ก็มาบอกว่าให้แม่ทำใจ แม่ก็เลยถามว่ามีเรื่องอะไรให้บอกมาตรง ๆ บรรดาลูกๆจึงบอกว่าพี่ชายหรือนายอนุษชาถูกแทงเสียชีวิตแล้ว โดยแม่ผลบอกกับทีมข่าวว่าจะว่าแกเสียใจก็เสียใจอยู่แล้ว เพราะเสียลูก แต่ยายผลพอจะทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับครอบครัว เพราะก่อนหน้าลูกชายจะตาย 1 วัน ได้ฝันว่าสร้อยคอขาด 2 ท่อน นำไปต่อยังไงก็ต่อไม่ติด ตื่นเช้ามาจึงบ้วนปากล้างหน้าแล้วก็บอกว่าหากฝันดีก็ให้ย้อนกลับเข้ามา หากฝันร้ายก็ให้ไปกับแม่น้ำคงคา แต่ในใจตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าน่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง
ล่าสุด ลูก ๆ ก็มาบอกว่ารู้ตัวคนก่อเหตุแล้วไม่ใช่ไหนไกล ก็คือนายชาติที่เมื่อวานนี้ลูกชายบอกให้แม่ตักแกงมาให้เป็นคนเร่ร่อนที่นั่งกินเหล้าอยู่ด้วยกันทุกวัน แม่ก็บอกกลับลูกชายมาตลอดว่าให้ระวังไว้ เพราะนายชาติเคยก่อเหตุแทงคนมาแล้วจากที่ชาวบ้านเขาเล่าเล่าให้ฟังลักษณะเหตุการณ์ก็เช่นเดียวกันกินเหล้าเมาแล้วก็แทงกัน แม่ก็เตือนลูกชายอยู่บ่อยครั้งสุดท้ายก็หนีไม่พ้น