จากกรณีสาววัย 19 ปี สร้างเรื่องราวว่าเสียชีวิต โดยให้พี่สาวโพสต์ภาพหน้าศพพร้อมกับแท็กไว้ในเฟซบุ๊กไว้อาลัย โดยได้ทำรูปหน้าโลงศพพร้อมใส่ชื่อลูกในท้อง จนคนที่รู้จักต่างเเห่โพสต์อาลัย สุดท้ายโป๊ะเเตกกลายเป็นเรื่องที่ผู้ก่อเหตุกุเรื่องเพื่อหนีเจ้าหนี้
ล่าสุดวันที่ 25 พ.ย.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.สุภารัตน์ ไชยสุวรรณ หรือ เเก้ว อายุ 24 ปี เปิดเผยว่าตนเองเป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.รุ่งทิวา บุญพิลา หรือ ใบเฟิร์น อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุ มาหลายเดือนเเล้ว มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันมาตลอด
น.ส.สุภารัตน์ เผยว่าสำหรับนิสัยของใบเฟิร์นชอบใช้จ่ายเงินเกินตัวทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีงานทำ เงินที่ใช้จ่ายในเเต่ละวันรวมถึงค่าเช่าห้องก็จะไปกู้เงินเเละหาหยิบยืมจากคนรู้จัก นอกจากนี้ยังทำตัวเหมือนซ้อเลี้ยงผู้ชาย เมื่อเงินไม่พอใช้ก็จะขอยืมจากตนเพื่อซื้อข้าวกินครั้งละ 100-300 บาท ซึ่งตนไม่เคยได้เงินคืน
ซึ่งเจ้าหนี้ของ น.ส.ใบเฟิร์น มีไม่ต่ำกว่า 10 ราย เเต่ละรายก็จะติดค้างเงินจำนวนเเตกต่างกัน ไล่ตั้งเเต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น นอกจากนี้ยังค้างเช่าหอพัก จนเจ้าของต้องไล่ออก เเละช่วงหลัง ๆ ทราบว่ามีเจ้าหนี้หลาบรายติดต่อมาทวงเงินกับกับ น.ส.ใบเฟิร์น เเต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ น.ส.ใบเฟิร์น ก็บอกว่าเครียด
จากนั้นวันที่ 21 พฤศจิกายน น.ส.ใบเฟิร์น บอกกับตนว่าจะกลับบ้านไปหาเเม่ ที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยเดินทางช่วงเช้า พอช่วงเย็นตนเองโทรหา น.ส.เฟิร์น ก็หาเรื่องทะเลาะ เเล้วบอกว่าอยากตาย จนกระทั่งวันถัดมา เห็นเฟซบุ๊กของ น.ส.ใบเฟิร์น ถูกพี่สาวโพสต์เเท็กว่าเสียชีวิตเเล้วพร้อมลูกในท้อง ตนเองก็เกิดความสงสัย เพราะไม่เคยทราบมาก่อนว่าท้อง ไม่เคยเห็นไปฝากครรภ์หรือไปหาหมอเเม้เเต่ครั้งเดียว จึงติดต่อไปหาเเม่ของ น.ส.ใบเฟิร์น ที่อยู่จังหวัดหนองบัวลำภู ทางเเม่ก็ไม่ทราบเรื่องว่าลูกตาย
จากนั้นจึงติดต่อไปหาพี่สาวคนที่โพสต์ เนื่องจากตนเกิดความสงสัย เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีเพื่อนคนหนึ่งติดต่อไปถาม คนโพสต์ยืนยันว่าใบเฟิร์นตายจริง เห็นศพมากับตา จะเอาศพไปทำพิธีที่ชัยภูมิ ตนเองก็ยิ่งเกิดความสงสัยว่าเห็นศพได้อย่างไร เพราะคนโพสต์อยู่ปทุมธานี ส่วนใบเฟิร์นบอกว่ากลับบ้านที่หนองบัวลำภู
ตนเองจึงทักข้อความไปถามว่าตอนนี้คนโพสต์อยู่ที่ไหน เเต่ทางคนโพสต์ก็ส่งข้อความมาว่า "มีปัญหาอะไรก็โทรมา" พร้อมทั้งส่งคลิปเสียงมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย นอกจากนี้เพื่อนอีกคนทักไปถามข้อมูลทางคนโพสต์ก็ยืนยันว่าใบเฟิร์นตายจริง เเต่พอขอดูรูปงานศพก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าจะอัพลงวันเดียวคือวันเผาอ้างว่าบั่นทอนจิตใจคนในบ้าน
จากนั้นตนเองจึงติดต่อไปหาพ่อของใบเฟิร์น ที่ จ.ชัยภูมิ ทางพ่อก็ไม่ทราบเรื่อง เเละยืนยันว่าไม่มีการจัดงานศพเเต่อย่างใด หลังจากนั้นเพื่อน ๆ จึงช่วยกันเช็กข้อมูลจึงทราบว่าใบเฟิร์นไปอยู่กับญาติคนหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี เเละได้สร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมดเพื่อต้องการหนีหนี้ ส่วนข้อความที่โพสต์เเจ้งข่าวการเสียชีวิต คาดว่า น.ส.ใบเฟิร์น เป็นคนพิมพ์ข้อความเอง เนื่องจากเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ เป็นคนอ่อนภาษาไทย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่คิดว่า น.ส.ใบเฟิร์น จะทำเเบบนี้ บอกตรง ๆ ว่ารับไม่ได้ ดังนั้นหากเฟิร์นรับรู้ก็ให้มาเคลียร์ปัญหาตัวเองส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนขอให้จบลงเเค่นี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับอดีตคนที่เคยคบหาเป็นเเฟนกับ น.ส.ใบเฟิร์น คือ นายต้น (นามสมมติ) อายุ 29 ปี เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับ น.ส.ใบเฟิร์น มาประมาณ 3 เดือน เเละเคยคบหาเป็นเเฟนได้เพียง 2 สัปดาห์ เเต่ก็รับนิสัยไม่ได้เนื่องจากใบเฟิร์นชอบไปหายืมเงินคนอื่น ตัวเองจึงตัดสินใจตีตัวออกห่างเเละเลิกยุ่งเกี่ยวเเต่ก็ยังพูดคุยในฐานะคนรู้จัก
หลังจากนั้นช่วงเดือนตุลาคม น.ส.ใบเฟิร์น ได้ออกอุบายยืมเงินจากตนโดยอ้างว่ามีปัญหาต้องย้ายห้องขอยืมเงิน 2,000 บาท ต่อมาก็ขอยืมอีก 500 บาท อ้างว่าเป็นค่าหนังสือเรียนลูก ตนก็ให้ไปเพราะความสงสาร เเต่มาทราบภายหลังว่าใบเฟิร์นไม่เคยมีลูก ส่วนเรื่องย้ายห้องก็ไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ตอนคบกันใบเฟิร์นอ้างว่าตัวเองอายุ 25-26 ปี เเต่ความจริงเเล้วอายุเเค่ 19 ปี
ซึ่งนอกจากเงินเเล้วยังมีพระเครื่องเหรียญหลวงพระหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน รุ่นรวยสุดใจ จำนวน 3 องค์ ราคาองค์ละ 3,500 บาท รวมมูลค่า 10,500 บาท ที่ตนลืมไว้ในห้องของใบเฟิร์นก็ถูกขโมยไปด้วย ซึ่งพระดังกล่าวมีคุณค่าทางจิตใจจึงอยากให้ใบเฟิร์นนำมาคืนมิเช่นนั้นจะเเจ้งความฐานลักทรัพย์
