อย่างที่รู้กันดีว่าคอนเสิร์ตเดี่ยวของพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ เจอดราม่าแบบรัว ๆ เลยทีเดียว ในซีนที่มีการเต้นคู่กันกับหวานใจอย่างสาวญาญ่า อุรัสยา วันนี้ (24 พฤษภาคม 2562) ได้เจอกับพี่ฉอด ผู้จัดงานคอนเสิร์ตนี้ และยังเป็นคนคิดโชว์ทั้งหมด ก็เลยเข้าถามถึงความรู้สึก พี่ฉอดก็เปิดใจแบบหมดเปลือก พร้อมอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เผยว่า คนแสดงและคนดูในวันนั้น ไม่มีใครที่จะคิดอกุศลจิตอย่างแน่นอน เพราะมันคือการแสดง และตนรวมถึงทั้งสองคน ก็มีจิตใจดีในการทำโชว์ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ซึ่งกระแสก็ไม่ได้มีแค่ด้านลบเพียงอย่างเดียว ด้านบวกก็มีมากมายมหาศาล จึงไม่นอยด์กับดราม่าที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่อยากจะบอกว่า ไม่มีผลต่อเยาวชนแน่นอน เพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้างแล้ว ภาพยนตร์หรือข่าวที่ออกทุกวันนี้ หนักกว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้อีก คิดว่าไม่เกิดผลอะไรต่อเด็ก ๆ ที่รับชม
ถามถึงคอนเสิร์ตที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ "ก็คอนเสิร์ตณเดชน์มีกระแสรุนแรงทีเดียว ต้องบอกก่อนว่า หลายคนบอกว่ามีแต่กระแสด้านลบ แต่ต้องบอกว่ากระแสด้านบวกก็มี แล้วมีเยอะมาก พี่เป็นคนเช็กฟีดแบ็กทุก ๆ งานที่เราทำอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ได้เช็กทั้งทางบวกและทางลบ ทางบวกก็จะเป็นแฟนคลับของน้องทั้งสองคน เขาก็มีความสุขในสิ่งที่เกิดขึ้น อีกอันนึงก็จะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับเขาโดยตรง ก็มาบอกว่าจากนี้จะเป็นแฟนคลับน้องแล้ว เพราะปลื้มใจมากกับสิ่งที่เขาได้เห็นความสามารถของน้องทั้งสองคน ที่น่าแปลกใจก็คือ มีคนดูอายุหลากหลายมาก ขนาดอายุ 80 ก็มา ได้คุยกับเขาก็บอกว่าปลื้ม ส่วนกระแสในทางลบก็มีเยอะ ซึ่งก็มีคนที่จิตใจดีที่มาแสดงความคิดเห็น เราก็ยินดีและน้อมรับ แล้วก็จะมีประเภทที่เข้ามาด่าทอ แต่พี่ก็จะไม่รับฟีดแบ็กของการพูดจาหยาบคาย อันหนึ่งที่อยากจะอธิบายต่อจากที่น้องญาญ่าพูดวันนั้น ทั้งหมดมันคือโชว์ คนที่เป็นกระแสทางลบ คือไม่ได้เป็นคนไปดูโชว์ แต่เห็นจากภาพที่แคปมา อาจจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ เขาจะถ่ายแต่ตัวน้อง แต่จริง ๆ ซีนนี้ใหญ่มาก คนที่อยู่ในซีนนี้ยังร้องไห้อยู่เลย ว่าไม่มีใครสนใจเลย และยังเป็นซีนที่ยากมาก เอาจริง ๆ นะ คนที่แสดงหรือคนที่ดู ไม่มีใครคิดอกุศลจิตได้หรอกค่ะ"
ได้คุยกับทั้งสองคนไหม "คุยค่ะ ไปทานข้าวกัน พี่ว่าน้อง 2 คนเขาแข็งแรงนะคะ หมายถึงความตั้งใจในการทำงาน เราไม่มีความตั้งใจในแง่ไม่ดีเลย ไม่ว่าจะเป็นซีนนี้หรือตลอดทั้งโชว์ก็ตาม น้องสองคนและพี่มั่นใจในความตั้งใจดีในการทำงาน"
ตอนคิดโชว์เตรียมใจรับฟีดแบ็กนี้ไหม "เราไม่ได้จะโฟกัสตรงนั้น เวลาคิดงานคือคิดทั้งโชว์ ไม่ได้คิดว่าตรงไหนคืออะไร ทั้งหมดคือความตั้งใจในการทำงานให้ทุกคนมีความสุขที่สุด"
แล้วพอมีกระแสลบ ทำให้เรานอยด์ไหม "ไม่ค่ะ เราน้อมรับในฟีดแบ็กทุกอย่าง แต่มันมี 2 กระแส ไม่ใช่ลบทั้งหมด กระแสบวกก็มีมหาศาล ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ก็ขอบคุณความคิดเห็นในหลายรูปแบบ เราเชื่อว่ามันคือความปรารถนาดี ที่มีต่อตัวน้องและตัวพี่ด้วย ไม่นอยด์เพราะเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่"
จากนี้จะกล้าคิดโชว์แบบนี้อีกไหม "มันก็ต้องคิด แต่ไม่ใช่แบบนี้ทุกโชว์ สมมติคอนเสิร์ตพี่เจ พี่ก็คงไม่ได้คิดซีนแบบนี้ ขึ้นกับตัวศิลปินว่าเหมาะจะโชว์แบบไหน"
น้องมาปรึกษาเรื่องห่วงภาพลักษณ์ไหม "ไม่มีค่ะ พี่เองต่างหากที่เป็นห่วง แต่น้องสองคนบอกไม่เป็นไรเข้าใจทุกอย่าง น้องพูดมาคำนึงว่า ถ้าไม่อยากจะทำเอง ก็ไม่มีใครบังคับได้ น้องมีความตั้งใจดีในทุกเรื่อง จากที่ทำงานด้วยกันสั้น ๆ ทำให้รู้ว่า ความดีของพวกเขา จึงไม่มีใครทำอะไรเขาได้ คือถ้าเราไม่มีเจตนาไม่ดี เราก็จะไม่รู้สึกอะไร"
หลายคนบอกแฟนคลับก็เป็นเยาวชน "ในแง่ที่เราจะปิดกั้นอะไรให้เด็กดู เอาง่าย ๆ อย่างหนังอเวนเจอร์ เราไม่กลัวหรอว่าเด็กดูแล้วจะออกมาตีลังกา ฆ่าฟันกัน หรือแม้กระทั่งเปิดทีวีดูอยู่ตอนนี้ ข่าวมีทั้งฆ่ากัน ข่มขืน ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของความเป็นจริง เราควรทำยังไงก็ได้ ให้เขาเรียนรู้และเติบโต ดีกว่ามานั่งปิดตา แล้วพี่เชื่อว่าซีนในคอนเสิร์ตแค่นี้ ไม่ได้ทำให้เกิดอะไรขึ้นอย่างที่ว่ากัน"
