ชาวอเมริกันหลายพันคนในสหรัฐฯ ออกมาเดินขบวนประท้วง หลังหลายรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทยอยผ่าน
กฎหมายห้ามการทำแท้ง และให้มีบทลงโทษรุนแรง
สัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐอลาบามา ผ่านกฎหมายทำแท้งที่เข้มงวดที่สุด โดยห้ามทำแท้งทุกกรณีนอกจากกรณีที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของผู้ตั้งครรภ์ ซึ่งรวมถึงการห้ามทำแท้งแม้ถูกข่มขืน หรือการตั้งครรภ์กับผู้ร่วมสายเลือดซึ่งอาจส่งผลให้เด็กเกิดมาทุพพลภาพ และแพทย์ผู้ทำแท้งจะมีโทษรุนแรง คือจำคุก 10-99 ปี
นอกจากนี้
รัฐจอร์เจียและ
โอไฮโอ ออกกฎหมายห้ามทำแท้งหลังการตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ หรือหลังจากที่สามารถวัดการเต้นของหัวใจของทารกได้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สั้นเกินกว่าที่มารดาจะทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
จากการผ่านกฎหมายดังกล่าว สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน หรือ เอซีแอลยู, NARAL Pro-Choice America องค์กรซึ่งสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง, Planned Parenthood Action Fund และองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ รวมถึงผู้สนับสนุนสิทธิในการทำแท้งจำนวนมาก ได้ออกมาเคลื่อนไหวทั่วสหรัฐฯ และติดแฮชแท็ก
#StopTheBans เพื่อต่อต้าน รวมถึงต่อต้านการซื้อสินค้าจากรัฐดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ผู้หญิงทุกคนควรมีสิทธิเข้าถึงการทำแท้งที่ปลอดภัย การออกกฎหมายดังกล่าวจะนำไปสู่การทำแท้งเถื่อนซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ยังเป็นการล้มคำตัดสินของศาลฎีกาในคดี Roe v. Wade เมื่อปี 2516 ซึ่งให้สิทธิผู้หญิงทำแท้งอีกด้วย
นอกจากนี้
นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และผู้สมัครประธานาธิบดีปี 2020 จากพรรคเดโมแครต และ ส.ส. ของพรรคเดโมแครตหลายคนได้ออกมาร่วมชุมนุมต่อต้านกฎหมายห้ามทำแท้งดังกล่าวด้วย
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่
อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34