วันที่ 17 ต.ค. 65 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าช่วยเหลือเยาวชน 2 คนและ 3 อดีตพยาบาล เหยื่อที่ถูกคนร้ายล่อลวงมากักขังไว้ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านสะพานพระราม 8 ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางพลัด กทม.
สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า ญาติของตนเป็นผู้หญิงพร้อมบุตรและเพื่อนรวม 5 คน ถูกบังคับทำงานอยู่ในห้องพักคอนโดฯดังกล่าว และถูกทำร้ายอย่างทารุณ
โดยส่งรูปภาพสภาพร่างกายถูกโกนผมและมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก หลังได้รับแจ้ง พล.ต.ต.ธีรเดช สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ตรวจสอบจนทราบถึงสถานที่ที่ถูกกักขัง จึงขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายค้นห้องพักดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการเร่งด่วนให้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักคอนโดฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งพบเหยื่อทั้ง 5 คน ภายในห้อง เบื้องต้นพบว่าเหยื่อบางรายมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกและถูกทำร้ายตามร่างกาย สอบถามเหยื่อ 3 ราย เป็นแม่ลูกกัน อยู่ในอาการหวาดกลัว ให้ข้อมูลว่าถูกบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับนายทุน อ้างเป็นแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น ทำงานสถานทูต โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม จากการตรวจสอบสภาพเหยื่อมีความผิดปกติ
จากการสอบสวนเหยื่อทีละคนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทำให้ทราบข้อเท็จจริงสุดพิสดาร โดยเหยื่อ 3 ราย เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับนายทุน ผู้คลั่งลัทธิ โดยนายทุนจะใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 ราย แรกเริ่มทำทีรวบรวมเงินไว้ที่นายทุนเมื่อธุรกิจเริ่มขับเคลื่อน โดยเหยื่อทั้ง 3 ราย ไม่ทราบและจะใช้ความกลัวเข้ากดขี่ เช่นหลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ, ลูกค้าเรียกเงินคืน, ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง
จากนั้น นายทุนจะอุปโลกน์หนี้ยัดเยียดให้กับทั้ง 3 และใช้การหลอกว่า รู้จักกับตำรวจจะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี ล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทั้ง 3 ได้ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สินไป
รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท ขณะนี้ได้นำตัวเหยื่อ และเด็กเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตร. และอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทีมข่าวเดินทางมายังคอนโดที่เกิดเหตุ แม่บ้านภายในคอนโดคือ นางส้ม (นามสมมติ) บอกกับทีมข่าวว่าเท่าที่สังเกตในห้องที่เกิดเหตุขอไม่ระบุว่าอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร เวลาไปทำความสะอาด ที่ชั้นดังกล่าวก็จะได้ยินเสียงคนภายในห้องเหมือนว่าทำ Content อะไรบางอย่าง แต่ไม่เคยได้ยินเสียงคนร้องไห้หรือโดนทารุณกรรม ส่วนอดีตพยาบาลโกนผมจริง แล้วอยู่ในห้องด้วยกัน 3 คน แล้วก็ทราบว่ามีเด็ก 2 คน เป็นลูกของหนึ่งในพยาบาล 3 คนนี้ แต่เด็ก ๆ ไม่เคยออกมาเดินเล่นวิ่งเล่น
ไม่เคยส่งเสียงร้องไห้ใด ๆ เลย มักจะเห็นพวกเขารวมกัน ทั้งอดีตพยาบาล 3 คน สาวประเภทสอง 1 ค นผู้ชาย 1 คน อยู่ในห้องด้วยกันทำกิจกรรม หรือทำ Content บางอย่างเสียงดัง
สอบถามเรื่องดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริเวณหน้าคอนโด บอกกับทีมข่าวว่า คอนโดแห่งนี้มีหญิงสาว 3 คน อายุประมาณ 30-40 ปี ตอนแรกยังเห็นว่า 3 คนนี้เป็นพยาบาล แต่งชุดพยาบาลขับรถออกไปทำงาน ซึ่งก็คาดว่าเป็นโรงพยาบาลใหญ่ย่านนี้ แต่พอผ่านไปสักพัก ทั้ง 3 คนเหมือนว่าลาออกจากการเป็นพยาบาล แล้วทั้งหมดก็โกนหัวพร้อมกัน ซึ่งตนเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ไม่กล้าสอบถามว่าเพราะเหตุใด แต่เห็นว่าทั้ง 3 คนเดินผ่านใบผ่านมาที่คอนโด จากเดิมที่เคยขับรถยนต์ ก็เปลี่ยนไป ขึ้นรถแท็กซี่
นอกจากนี้ ไม่เคยเห็นทั้ง 3 คนนี้มีบาดแผลหรือร่องรอยอะไรตามเนื้อตามตัวตามที่เป็นข่าว แต่จะเห็นว่าทั้ง 3 คนแต่งตัวแปลก เหมือนออกไปทำ Content มีโทรศัพท์มือถือ มีขาตั้งกล้อง มีการถ่ายทำ ซึ่งมีลักษณะแบบนี้มาประมาณ 6 เดือนแล้ว ส่วนคนที่เป็นเพศที่ 3 แต่งหญิงก็เห็นว่าอยู่กับ 3 คนนี้ด้วย และเหมือนว่าพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ยังมีผู้ชายอีก 1 คน แต่ไม่แน่ใจว่าคนนี้ เป็นผู้ชายแท้หรือไม่
ตนจะเห็น 5 คนไปไหนมาไหนด้วยกัน คล้ายว่ามีการทำ Content แต่งตัวแปลก แต่งหน้าทำผมแล้วออกไปข้างนอก ส่วนเด็ก ๆ ไม่เห็นเลย เมื่อวานนี้ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา ตนไม่ได้อยู่ช่วงกลางวัน แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่คนอื่นว่าตำรวจเข้ามาบุกจับภายในห้อง แต่ไม่ได้ตัวคนที่เป็นผู้บงการ หรือกะเทยไป แต่มาจับได้ในช่วงค่ำ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เห็นตำรวจพาตัวคนที่เป็นกระเทยซึ่งทราบชื่อว่าชื่อเคที่ กะเทยคนนี้เคยอ้างตัวว่าเป็นหมอ ทุกคนจึงเรียกเขาว่าคุณหมอเคที่ หลังจากนั้นก็ไม่ทราบข้อมูลอะไร และก็ไม่เคยเห็นเด็ก 2 คนที่เป็นข่าวลงมาจากคอนโดแห่งนี้ด้วย
ล่าสุด ตำรวจจับกุมตัวนายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหากักขังอดีตพยาบาลหญิงที่ถูกจับพร้อมลูกชาย และลูกสาวของตัวเอง ร่วมกับเพื่อน รวม 5 ชีวิต ต้องทำงานชดใช้หนี้ทิพย์มากว่า 3 ปี โดยเข้าใจว่าติดหนี้ถึง 140 ล้านบาทตำรวจได้คุมตัวตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ก่อนพาตัวไปสอบปากคำ และนำตัวไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้น เร่งสอบสวนว่าการกักขังเหยื่อทั้ง 5 ราย พร้อมทำร้ายร่างกายนั้นลงมือไปด้วยสาเหตุใด สำหรับนายฮารุ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ส่วนนายตรีเพชรรัตนถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงจับกุมตัวที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ วันที่ 17 ต.ค. 65 ช่วงเวลา 01.46 น. เห็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับเข้ามาภายในคอนโดมิเนียม กล้องวงจรปิดในร้านกาแฟหน้าคอนโดจับภาพได้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน ไม่ได้มีทีท่าขัดขืนใด ๆ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยว่า ล่าสุดได้คุมตตัวนายฮารุ และนายตรีเพชรรัตน อายุ 20 ปี ผู้ต้องหากักขังอดีตพยาบาลหญิงที่ถูกจับพร้อมลูกชาย และลูกสาวของตัวเอง ร่วมกับเพื่อน รวม 5 ชีวิต ต้องทำงานชดใช้หนี้ทิพย์มากว่า 3 ปี โดยเข้าใจว่าติดหนี้ถึง 140 ล้านบาท
