สยองหลานคลั่งฆ่าตัดหัวน้าอ้างบูชายัญปีศาจ แม่ช็อกเห็นศพนึกว่าตุ๊กตายาง (คลิป)

จากเหตุกสลดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า 15 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุ คนร้ายใช้มีดฟันคอชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี เสียชีวิตจำนวน 1 ราย

ทราบชื่อคือ นางสายพิน จูยอด อายุ 54 ปี นอนเสียชีวิตบนระเบียงหน้าบ้าน สภาพศพที่ไปเจอนอนหงาย ที่คอถูกของมีคมฟัดขาด ศีรษะตกอยู่ใกล้ตัว ผู้ตายสวมเสื้อสีแดงลายขาว กางเกงลายสก็อต ในที่เกิดเหตุมีรอยเลือดสาดกระเด็น

ขณะที่คนก่อเหตุนั้นทราบชื่อคือ นายสุกฤต อ่วมน้อย หรือ เปา อายุ 28 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของคนตาย ทั้งคู่อยู่บ้านติดกัน โดยหลังก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไว้ได้ในพื้นที่ หมู่ 3 ถ.สายน้ำตกสามหลั่น ต.หนองปลาไหล ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร เจ้าตัวได้เดินตามถนนออกจากบ้านในช่วงหลังเกิดเหตุ เดินวนไปวนมาใกล้กับวัดพระพุทธฉาย

ช่วงที่มีการจับกุมตัวนั้น พบว่าทางเจ้าตัวไม่ได้ถืออาวุธมีดหรืออาวุธ รวมไปถึงจากคลิปจะเห็นว่าทางเจ้าตัวเองขัดขืนการจับกุม จนทางเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันกว่า 5-6 นาย ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดทาง ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านของทางนายสุกฤตอยู่ติดกับทางบ้านของคนตาย หากเดินเข้าไปในซอยจะถึงบ้านของคนก่อเหตุก่อน ถัดไปจะเป็นบ้านของคนตาย และถัดไปอีกหลังจะเป็นบ้านญาติของทั้ง 2 ฝั่ง สำรวจบริเวณหน้าบ้านของคนตาย พบว่าทางญาติของคนตาย มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นบริเวณหน้าบ้านพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เจออุปกรณ์ลักษณะคล้ายที่เสพยาเสพติดตั้งอยู่ภายในห้อง ส่วนของบ้านคนตายไม่พบคนอยู่ ญาติบอกว่าทางลูกสาวของคนตายที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน ตอนนี้ไปดำเนินเรื่องของคดี

นางสายสมร (นามสมมติ) แม่ของคนก่อเหตุ เป็นพี่สาวของคนตาย เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงที่เกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน จะมีแค่คนตายและคนก่อเหตุ ลูกชายของตน อยู่กันแค่ 2 คน เพราะลูกสาวของคนตายและญาติจะออกไปทำงานตอน 06.00 น. ขณะที่บังเอิญว่าเมื่อเข้าตนเองออกไปหาหมอจามนัดช่วง 07.00 น. เลยไม่เห็นเหตุการณ์

กระทั่งเวลา 09.00 น. กว่า ตนกลับมาจากหาหมอ เดินผ่านหน้าบ้านลูกชายก็ไม่เจอเขา ขณะที่เดินผ่านบ้านน้องสาว คนตาย ก็เห็นลักษณะคล้ายคนนอนอยู่แต่เห็นไม่ชัด ในใจนึกว่าตุ๊กตายาง เพราะหัวกับตัวอยู่คนละที่ ตนเองยังแซวสุนัขของคนตายอยู่เลยว่า "แม่ ซื้อตุ๊กตายางให้เล่นเหรอ แล้วแม่ไปไหน ไม่อยู่บ้านเหรอ" หลังจากนั้นตนเองกำลังจะเดินกลับบ้าน ปรากฏว่ามีคราบเลือดติดอยู่ เลยเดินไปดูใกล้ ๆ เป็นร่างของน้องสาวตนที่นอนจมกองเลือด คอขาดออกจากร่าง ตอนนั้นตนทั้งช็อกและทำอะไรไม่ถูก เลยตะโกนให้คนแถวบ้านมาช่วย

ตนยืนยันว่าวินาทีแรกที่พบว่าน้องสาวเสียชีวิต มั่นใจว่าทางลูกชายหรือนายเปาเป็นคนก่อเหตุแน่นอน เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าลูกชายคลั่งยา และมีอาการป่วยไม่เคยเข้ารับการรักษา โดยอาการป่วยนั้นเป็นมาประมาณปีกว่า หลังจากที่เขาเองไม่มีเพื่อนเล่นบา เขาเลยมีอาการหลอนและมักจะคุยคนเดียว จะอาละวาดชอบทำร้ายคนในครอบครัว ขณะที่ตนเองก็เคยโดนลูกชายเอาไม้ตี และหนังสติ๊กยิงด้วย เคยเเจ้งความมาแล้วแต่สุดท้ายก็ทำไรไม่ได้ เพราะเขาเองป่วย ตนและครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดระแวง หนำช้ำทางน้องสาวเองก็ไม่เคยมีเรื่องกับทางคนก่อเหตุเพราะว่าเขาเองทราบว่าหลานของเขานั้นป่วยและพยายามเลี่ยงมาตลอด แต่ทางลูกชายของตนกลับหาเรื่องและพยายามจะก่อกวนบ้านของผู้ตายตลอด ตนห้ามจนไม่กล้าห้ามแล้ว เพราะกลัวเขาจะทำร้าย

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเพราะเรื่องยาที่ค่อนข้างมีเกลื่อน ประจวบกับลูกลายของตนด้วย ย้ำว่าเหตุการณ์เมื่อข่วงเช้าหากตนเองอยู่บ้าน แน่นอนคนที่ตายต้องเป็นตนแน่ ส่วนตัวเสียใจมาก คนหนึ่งก็น้องสาว อีกคนก็ลูกชาย แต่ในส่วนลูกชายหากเขาทำผิดก็ต้องให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ตนพยายามทำทุกวิธีให้เขาหาย แต่เขาเองกลับไม่ยอม ตอนนี้ก็คงต้องให้ตำรวจดำเนินการต่อไป"

นายวันชัย งามดิษฐ์ใหญ่ หัวหน้าชุดกู้ภัย สภ.เมืองสระบุรี เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวได้รับเเจ้งเหตุจากอาสาในพื้นที่ประมาณ 10.00 น. โดยทราบว่าเหตุนั้นน่าจะเกิดช่วงเช้า 08.00-09.00 น. ทั้งนี้ ตอนที่ได้รับแจ้งตนเองก็ยังไม่ทราบว่าทางนายเปาเป็นคนก่อเหตุ เพราะจังหวะที่ตนกำลังจะเข้าไปในพื้นที่จุดเกิดเหตุ ระหว่างทางที่จะไปก่อนจะถจุดหมายประมาณ 2 กิโลเมตร ตนเองยังเห็นทาง นายเปาเดินอยู่ข้างถนนตามปกติ ตนเองยังยิ้มทักทาย ถามว่าไปไหน ก่อนที่ทางนายเปาเองจะยกมือทำท่าโอเคให้ และยิ้มให้ ในใจก็ยังไม่คิดอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่เขาเองจะเดินไปเดินมาแถวบ้าน

ทั้งนี้ ตนเองไปถึงบ้านทางญาติ ๆ บอกว่าคนก่อเหตุคือนายเปา ในใจตอนนั้นค่อนข้างช็อก เพราะเพิ่งเจอเขาเมื่อสักครู่ เลยรีบประสานกับทางเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเจอเขาเดินอยู่ริมถนน และให้นำกำบังไปจับกุม ตอนที่เข้าไปจับกุมนั้นตนเองได้เดินทางไปด้วย ลักษณะพฤติกรรมของเขาตอนนั้นขัดขืน และไม่ยอมให้จับกุม มีอาการคล้ายคนหลอนยา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและตนเองในฐานะคนรู้จักก็พยายามเกลี้ยกล่อม จนทางเจ้าตัวยอมให้จับกุม

สอบถามเบื้องต้นเขาเองไม่ยอมรับว่าเป็นคนทำ ก่อนจะพูดเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อว่าคนตายไม่ใช่คน เป็นสิ่งไม่ดี จนทางเจ้าหน้าที่ต้องกุมตัวไปโรงพัก เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าปกติคนก่อเหตุกับคนตายเคยมีเรื่องกัยมาแล้วครั้งหนึ่ง ประมาณ 5-6 เดือนที่แล้ว ลักษณะคือทางคนก่อเหตุเมายา และอาละวาดปาก้อนหินใส่คนตาย ตอนที่เขานั่งกินข้าวกัน และเคยมีเรื่องแจ้งความกันมาแล้วรอบหนึ่ง ยอมรับว่ามีอาการป่วยจากยาเสพติด

กล้องวงจรปิดจับภาพในช่วงที่คนก่อเหตุเองได้เดินร้านซ่อมรถแห่งหนึ่ง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร จะเห็นว่าภาพจับได้บริเวณท่อนล่างของคนก่อเหตุเดินผ่านหน้าร้าน ด้วยท่าทางปกติ ก่อนที่ทางเจ้าของร้านเองยังแซวและทักทายว่าไปไหน แต่ทางคนก่อเหตุไม่ตอบ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจุดบริเวณที่โดนจับกุม

นางสาวภาวดี จิตบัวลอย อายุ 39 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อข่วงเช้าที่ผ่านมาประมาณ 07.00 น. ตนเองยังคงเห็นคนตายขับรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก คล้ายจะไปทำธุระก่อนจะขับกลับมาในช่วง 08.00 น. กว่า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ตนเองเห็นทางคนก่อเหตุได้ออกมายืนแกว่งมีดขนาดความยาวประมาณ 1 ศอก แกว่งไปแกว่งมา ตอนที่ตนเดินมาเก็บใบกระถิน ตนเองก็ไม่ได้พูดคุยหรือทักทายเ พราะเขายืนแกว่งมีดและคุยคนเดียว

ผ่านไปสักพักประมาณ 30 นาที แม่ของคนก่อเหตุเองก็รีบวิ่งออกมาจากบ้าน และตะโกนให้ช่วยหน่อย ตนได้ยินเลยรีบวิ่งออกไปและถามว่าเกิดไรขึ้น แม่ของคนก่อเหตุก็บอกว่า "ไอ้เปาฆ่าป้ามัน" ตนรีบวิ่งไปดู พบว่าเป็นเรื่องจริง ก่อนจะประสานทางเข้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาตรวจสอบ

ตนยอมรับว่าส่วนตัวเองก็ค่อนข้างตกใจ เพราะเป็นเหตุสลดที่เกิดขึ้นข้างบ้าน ถามว่าแล้วปกติคนก่อเหตุเองเขาอยู่กับใครอย่างไร ปกติคนก่อเหตุนั้นจะอยู่บ้านหลังข้างคนตายเพียงคนเดียว ขณะที่แม่ของเขาจะแยกมาอยู่อีกหลังหนึ่ง เพราะทนที่ลูกชายคลั่งยาไม่ไหว ขณะที่ก่อนหน้านี้เอง คนก่อเหตุเคยอาละวาดคนในหมู่บ้านมาแล้วหลายรอบ รวมไปถึงทำร้ายร่างกายคนเป็นแม่ทั้งเอาไม้ตี เอาหนังสติ๊กยิงแม่ จนแม่ของเขาเองไปแจ้งความ

ทั้งนี้ ช่วง 1-3 วันก่อนเกิดเรื่อง ทางคนก่อเหตุเองเริ่มมีอาการแปลก เดินในไปวนมาและไปยืนอยู่หน้าร้านของตนมาสักพักแล้ว ก่อนที่จะมีข่วงหนึ่งทางคนก่อเหตุเองพยายามจะมาขอตน ตนก็บอกว่าไม่ได้ ตนมีลูกมีผัวแล้ว จะมาทำไรแบบนี้ ก่อนที่ทางคนก่อเหตุจะเดินหายไป ส่วนลักษณะนิสัยคนตายเป็นคนนิ่ง ๆ และเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ซึ่งที่ผ่านมาคนก่อเหตุและคนตายเองก็ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ไม่ทราบว่าเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเรื่องมีอะไรเกิดขึ้น แต่ตนเองก็ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะ หรือเสียงขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด

เบื้องต้น ชุดสืบกำลังรออยู่ในช่วงสอบสวนเพิ่มเพิ่งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทางเจ้าตัวเองยังไม่มีสติที่จะพูดคุย เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหา ใช้อาวุธมีดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เสพสารเสพติด (ยาบ้า)