ผู้ปกครองเดือด รร.เก็บเงินจัดงานเกษียณ ถามความชัดเจนแต่ครูตอบว่า "แล้วแต่!"

13 ก.ย. 65

ผู้ปกครองสงสัย รร.ขอขอนักเรียนร่วมบริจาคเงินคนละ 10 บาทเพื่อจัดงานเกษียณครู 10 คน แต่กลับได้คำตอบไม่ลื่นหูว่า "แล้วแต่!"

ผู้ปกครองไม่สบายใจ หลังครูประจำชั้นใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมในการขอให้นักเรียนร่วมบริจาคเงินคนละ 10 บาทเพื่อจัดงานแสดงมุทิตาจิตครูที่เกษียณอายุราชการจำนวน 10 คน ผู้ปกครองสงสัยจึงสอบถามแต่กลับได้คำตอบไม่ลื่นหู

วันที่ 13 กันยายน 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความการสนทนากันในกลุ่มไลน์ระหว่างผู้ปกครองและครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่นโดยระบุว่า “งงกับการสื่อสารอะไรแบบนี้ กับการแค่ขอความชัดเจนของผู้ปกครองนักเรียนแต่คำตอบที่ได้รับมันช่างไม่โอเคเสียนี่กระไร เข้าใจในเรื่องระบบการเกษียณการจัดงานมุทิตาจิตให้ผู้เกษียณนะครับ เราแค่ไม่เข้าใจสิ่งที่ครูสื่อสารมาก็เท่านั้นเพราะตลอดระยะเวลาที่พาลูกมาเรียนที่นี่มีค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่เคยขาด แต่พอมาเรื่องนี้คำตอบที่ได้จากครูหรือหัวหน้าชั้นสายมันเหมือนการประชดกระแทกแดกดันยังไงไม่รู้ ก็ว่าจะไม่พูดแล้วมันอดบ่ได้ช่างเหมือนกับรัฐบาลชุดนี้ที่หาเงินไม่เป็นหารายได้เข้าประเทศไม่ได้สุดท้ายก็มาเก็บภาษีกับประชาชน กับการแสดงมุทิตาจิตคือการกตัญญูแต่ถ้าไม่แสดงหรือไม่ออกเงินคือไม่กตัญญูเหรอครับเราถามแค่ว่าความหมายของต้องออกเงินให้ผู้เกษียณ 10 ท่านคนละ 10 บาทขึ้นไปคือยังไง บังคับหรือไม่บังคับแต่การอธิบายกลับมานอกจากจะไม่ชัดเจนแล้วยังบ่เข้าหูอีกงึดส์สสสสหลาย #โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง”

บริจาคเงิน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายวัลลภ ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในสังกัดของเทศบาลนครขอนแก่น เล่าให้ฟังว่าการสนทนากันในกลุ่มไลน์ครูและผู้ปกครองในกลุ่มไลน์เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 15.53 น. ของวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ผ่านมา โดยครูท่านหนึ่งที่สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้โพสต์ข้อความแจ้งผู้ปกครองในกลุ่มไลน์ว่าให้นักเรียนเตรียมเงินมุทิตาจิตครูและบุคลากรที่จะเกษียณราชการจำนวน 10 ท่านคนละ 10 บาท ขึ้นไปทำให้ตนเองและผู้ปกครองของนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มไลน์เกิดความสงสัยว่าเงินที่ให้นักเรียนเตรียมไปนั้นเป็นการบังคับหรือบริจาค และหากเตรียมไปต้องเตรียมไปเท่าไหร่กันแน่

บริจาคเงิน

จึงได้ไลน์สอบถามกลับไปว่าเงินที่ให้นักเรียนนำไปเป็นการบริจาคหรือบังคับ แต่ครูที่เป็นคนแจ้งในไลน์กลุ่มกลับได้นำเอาภาพแคปข้อความของครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มาตอบแทนโดยข้อความระบุว่า “แล้วแต่คำว่ามุทิตาจิตไม่ร่วมก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูที่ได้วาระเกษียณไม่บังคับทุกชั้นทุกสายก็ร่วมแสดงมุทิตาจิตเหมือนกัน ก็สืบต่อวัฒนธรรมอันดีงามมาทุกๆปีที่มีผู้เกษียณไม่ใช่เพิ่งมี” ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้ตนเองและผู้ปกครองท่านอื่นๆ ที่ได้อ่านเกิดความไม่สบายใจแม้จะพยายามสอบถามเพื่อให้ได้ความชัดเจนแต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากทางคณะครู

นายวัลลภ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีปัญหากับการบริจาคเงินเพื่อใช้ในการจัดงานมุทิตาจิตครูที่เกษียณ เพราะที่ผ่านมาเวลาโรงเรียนมีงานหรือกิจกรรมก็ช่วยเหลือมาตลอด แต่ที่ต้องสอบถามไปนั้นก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าตนเองจะต้องให้เงินลูกไปกี่บาทกันแน่เพราะตามข้อความที่ครูแจ้งนั้นไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าให้เด็กนำเงินไป 10 บาทหรือมากกว่าหรือว่าให้นำไปครบตามจำนวนครูที่เกษียณจำนวน 10 คนคนละ 10 บาท ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็เท่ากับว่าตนเองจะต้องให้เงินลูกไปร่วมงานจำนวน 100 บาท นี่คือประเด็นที่สอบถามไปแต่ครูกลับใช้คำตอบว่า “แล้วแต่…”

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการใช้คำพูดและการสื่อสารที่ใช้ไม่ได้ครูและบุคลากรควรที่จะให้ความสำคัญในการสื่อสารและทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้ดีกว่านี้ เพราะลำพังการมาขอรับบริจาคเงินจากนักเรียนและผู้ปกครองไปจัดงานเลี้ยงเกษียณราชการของครูและบุคลากรก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้วเพราะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ปกครอง แม้จะบอกว่าไม่บังคับก็ตามแต่การไม่บังคับก็ยังมีข้อความในทำนองว่าการมุทิตาจิตเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู ซึ่งหากผู้ปกครองหรือนักเรียนไม่มุทิตาจิตก็เท่ากับว่าปกครองหรือนักเรียนไม่กตัญญูใช่หรือไม่ จึงอยากให้ทางผู้บริหารโรงเรียนตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส