จากกรณีที่เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 16.00 น. เกิดพายุพัดถล่มที่ จ.ขอนแก่น เป็นเหตุให้ปูนผนังอาคารอเนกประสงค์เชื่อมต่อกับห้องเรียนของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ถล่มทับร่างน้องฌาดา เด็กหญิงวัย 4 ขวบ เสียชีวิตทันที จนล่าสุดโรงเรียนถูกสั่งปิดชั่วคราว เพื่อตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดแล้ว (อ่าน:
สั่งปิด รร. ผนังถล่มทับ 4 ขวบดับ หลังพายุกระหน่ำ ผู้ว่าฯ เผยอาคารสร้างไม่ตรงแบบ – ผู้รับเหมาโต้ มีมาตรฐาน)
วันที่ 23 เม.ย. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่โรงเรียนจุดเกิดเหตุ ภายในอาคารของโรงเรียน เจ้าหน้าที่ยังคงมีเชือกกั้นบริเวณพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย ในขณะเดียวกันพบว่ามีชิ้นส่วนของเศษปูนกระจัดกระจายเต็มพื้นที่
ด้านครอบครัวของน้องฌาดา นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณที่บริเวณอาคารที่เกิดเหตุ โดยมีการนำสายสิญจน์โยงรอบอาคาร เพื่อประกอบพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว
นายไพศาล สุราสา อายุ 37 ปี พ่อน้องฌาดา ซึ่งยังคงบาดเจ็บที่แขนจากเหตุการณ์พายุซัดถล่มโรงเรียน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ เวลา 16.00 น. ตนมารับลูกตามปกติที่โรงเรียน ปรากฏว่ามีฝนและลมแรงมากกว่าปกติ เมื่อออกมาด้านนอกอาคารเรียน ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงเข้ามานั่งรอด้านในโรงอาหาร
นายไพศาล เล่าต่อว่า หลังจากนั้นเวลา 16.30 น. ตนรอเวลาฝนหยุดตก น้องฌาดาถามตนว่า “พ่อ เรามานั่งตรงนี้ทำไม” ตนจึงหยิบกระเป๋าสัมภาระลูกขึ้นมา ส่วนมือขวาจูงแขนลูก เตรียมเดินไปที่เครื่องเล่นฝั่งตรงข้าม ซึ่งอยู่ภายในอาคาร ระหว่างที่ก้าวขาออกมา 3-4 ก้าว ออกจากจุดที่นั่งรอ ปรากฏว่ามีอิฐผนังพังลงมากระทบศีรษะและด้านหลังของตน จนล้มฟุบลงกับพื้น
เมื่อตนฟื้นขึ้น ก็มีเจ้าหน้าที่โรงเรียนวิ่งเข้ามาพยุงออกมาจากจุดเกิดเหตุ ตนจึงถามว่าเห็นลูกสาวของตนไหม เจ้าหน้าที่โรงเรียนจึงเดินเข้าไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง แล้วส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังมาก จากนั้นตนจึงรีบเดินตามเข้าไปดูลูก ทันทีที่เห็นก็ช็อก เพราะสภาพน้องฌาดาขาขาด ศีรษะขาดไปครึ่งหนึ่ง จึงทราบทันทีว่าลูกเสียชีวิตแล้ว เพราะไม่ได้ยินเสียงร้องไห้
ที่วัดกลางเมืองเก่า ถ.กลางเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ศาลา 1 สถานที่ตั้งศพของน้องฌาดา โดยวันนี้เป็นวันแรกของพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรม บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
นางเสาวรส สุราสา อายุ 41 ปี แม่น้องฌาดา เปิดเผยว่า ตนเป็นคนมีลูกยาก กว่าจะมีน้องฌาดาที่เป็นลูกสาวคนแรกได้ ต้องไปหาหมอเพื่อทำกิฟต์ หมดเงินไปกว่า 120,000 บาท จนกระทั่งมีน้องฌาดา
ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุ ตนก็เดินทางมาโรงเรียนทันที ตอนแรกคิดว่าลูกไม่เป็นอะไรมาก น่าจะอยู่ที่ห้องพยาบาล แต่เมื่อเห็นผ้าขาวพันห่อลูกไว้ ก็รู้สึกหัวใจสลาย ลูกสาวคนเดียวที่ตนคาดหวังเลี้ยงดูให้เติบโต ต้องมาตายด้วยเหตุเช่นนี้ ซึ่งตนไม่โทษทางโรงเรียน เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ