จากกรณีที่
"พระแจ๊ส" อดีตมิสทิฟฟานี่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอโหสิกรรม
"อ๊อฟ- ชนะพล สัตยา" และ
"ปอย- ตรีชฎา เพชรรัตน์"
ในกรณีที่พระแจ๊สเคยทำกรรมด้วยการใส่ร้ายให้ทั้งคู่เสียหาย
เหตุนี้จึงทำให้พระแจ๊สไม่สามารถฝึกจิตไปขั้นสูงกว่านี้ได้
ล่าสุดทีมงาน
APOP บันเทิง 34 ได้เปิดใจ
"ออฟ ชนะพล"
พระเอกหน้าหวานที่พระแจ๊สเคยให้ข่าวคบหากัน ซึ่งเจ้าตัวเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นว่า
ที่รู้จักกับพระแจ๊สเพราะเป็นน้อง เป็นเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกัน คือเราเห็นพระตั้งแต่เล็กๆ และเรียนที่เดียวกัน
จนพระได้ประกวดมิสทิฟฟานี่ก็ดีใจไปด้วย หลังจากนั้นที่มีข่าวออกมา ผมก็งงเหมือนกัน
โอเคเรื่องข่าวไม่เป็นไร แต่เมื่อได้เห็นการให้สัมภาษณ์ของเขาว่ามีการคบหาดูใจกับพี่อ๊อฟ ชนะพล
ก็ตกใจว่าข่าวออกไปแบบนั้นได้อย่างไร ซึ่งตอนนั้นเราก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าไม่ใช่นะ
ผมกับแจ๊ส ทิฟฟานี่เป็นพี่น้องกัน รู้จักกันมาอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่จริงอยู่แล้ว
ผมว่าตอนนั้นทั้งแจ๊สและผมคงรู้กันอยู่แล้วว่าใครพูดอะไร จนมาถึงวันนี้ซึ่งช่วงเวลาค่อนข้างจะผ่านไปนานแล้ว
พระแจ๊สก็บวชมาค่อนข้างจะนานแล้ว ก็ได้มีการขออโหสิกรรมผมมา
อ๊อฟยอมรับว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นทำให้รู้สึกโกรธมาก แบบอาฆาตเลย
แต่หลังจากที่ผมได้ผ่านการบวชมาก็ได้อโหสิกรรมให้กับพระแจ๊สไปตั้งนานแล้ว
และวันนี้ที่พระออกมาขออโหสิกรรมก็รู้สึกโอเค ไม่ได้อะไรเพราะผมให้อภัยท่านไปนานแล้ว
ยินดีที่ความจริงก็ยังเป็นความจริง ท่านคงจะติดขัดในเรื่องนี้ก็เลยอยากออกมาพูดความจริง
ที่ในตอนนั้นเราอโหสิกรรมให้ก็เพราะรู้สึกติดเหมือนกัน เราว่าความโกรธ ความอาฆาตมันทำให้เราไม่สงบ
และเราก็ตั้งใจที่จะปฏิบัติอยู่แล้ว จึงตัดสินใจขออโหสิกรรมให้เลยในตอนนั้น
จนวันนี้ผมว่าพระแจ๊สก็คงเป็นเหมือนกัน มันทำให้การปฏิบัติของท่านไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
จริงๆ คงจะติดอยู่ในใจมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มบวชแล้วแหละ และในวันนี้ท่านคงรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ดี
ที่ควรพูดความจริงออกมา คราวนี้ผมว่าพระแจ๊สท่านสบายใจแล้ว
ซึ่งตอนที่อ๊อฟอโหสิกรรมให้กับพระ อ๊อฟคิดว่าพระท่านไม่ทราบ
เพราะไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่มีข่าวนั้นออกมา
ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าถูกพูดถึงเยอะก็ทำให้ประเด็นข่าวตรงนี้ดูมีน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้คนมองผมแบบภาพแบบนั้น
จนเราปลงแล้วก็เลยปล่อยวางไป ตอนนั้นที่อโหสิกรรมให้คือสบายใจขึ้นแน่นอน
ผมตั้งใจบวชก็คงเหมือนพระแจ๊สที่ตั้งใจบวชเพื่อปฏิบัติธรรม แม้ผมจะบวชเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ
แต่เราก็ไม่อยากให้มีอะไรมาติดขัดในเรื่องการปฏิบัติของเรา ในเรื่องความคิด ในเรื่องสภาพจิตใจ
ซึ่งพระแจ๊สไม่รู้แต่มีคนแนะนำให้ผมเขียนชื่อพระแจ๊สแล้วพูดอโหสิกรรมกรวดน้ำให้ท่านและอวยพรให้ท่าน
แต่ตอนนี้ท่านรับรู้แล้วแน่นอน เพราะจริงๆ ก่อนหน้าที่พระแจ๊สจะออกมาพูดเรื่องนี้
ผมได้มีการคุยกับน้องสาวของพระ ก็บอกเขาไปว่าพี่กับพระแจ๊สไม่ได้มีอะไรติดค้างกันนะ
เพราะพี่อโหสิกรรมให้ไปตั้งนานแล้ว พี่อยากฝากไปบอกด้วย ท่านก็คงรับรู้ตั้งแต่วันนั้น
ท่านก็เลยออกมาพูดในส่วนนี้ด้วย
ในอดีตอ๊อฟกับพระมีความสนิทสนมกันมาก เป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน เตะฟุตบอลมาด้วยกัน อยู่กลุ่มเดียวกัน
เราน่าจะห่างกันประมาณปีสองปี เป็นน้องคนหนึ่งที่เห็นกันมาตลอด พอมีข่าวออกมาเราก็ยังงงๆ อยู่
และก็รู้สึกน้อยใจมากกว่า จนเราได้มาเจอกับน้องเขาในงานประกาศรางวัลเวทีหนึ่ง
แต่เราไม่ทันได้คุยกันเพราะผมต้องรีบไปสละตำแหน่งที่ได้รับ
เหมือนจะได้คุยกันแต่ก็ไม่ได้และหลังจากนั้นก็มีข่าวมาเรื่อยๆ เลย
อ๊อฟยอมรับว่าไม่มีเบอร์ติดต่อหรือไลน์ส่วนตัวของพระเลย
ซึ่งข่าวในตอนนั้นก็อย่างที่เห็นว่ามีเนื้อหาออกไปในทางที่ลบ กระแสข่าวก็ติดลบไปเรื่อยๆ
คนก็มองผมเป็นอีกแบบหนึ่ง และกลายเป็นเรื่องที่ติดตัวผมมาจนปัจจุบัน แก้ไม่หาย
แต่ในวันนี้รู้สึกดีใจ ถึงแม้ว่าพระแจ๊สจะออกมาพูดหรือไม่แต่ตัวผมได้อโหสิกรรมไปแล้ว
ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วไม่ว่ากระแสสังคมจะเป็นอย่างไร ผมก็ปล่อยให้มันเลยตามเลยไปดีกว่า
ผมถือว่าผมอยู่วงการมานานแล้ว ค่อนข้างเข้าใจสังคมบันเทิง อยากจะปล่อยวางในทุกๆ เรื่อง
ตั้งใจทำงานในส่วนของเราดีกว่า ส่วนผมไม่จำเป็นที่จะต้องพูดให้ใครเข้าใจ เพราะมันเห็นกันด้วยผลงานอยู่แล้ว
มีคนให้กำลังใจตลอด แค่นี้มันก็อิ่มเอิบในการทำงาน และมีกำลังใจในการทำงานแล้ว
ไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว
ตอนที่ทราบข่าวเรื่องนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด เพื่อนเป็นคนส่งข่าวมาให้ เขาก็เล่าว่าพระขออโหสิกรรมนะ
เราตอนนั้นก็รู้สึกดีนะ เพราะเราก็ไม่ได้ติดค้างอะไรกันแล้ว ผมจึงไลน์ไปบอกเพื่อนคนนี้ว่าฝากเอาคำที่ผมคุยกับเพื่อนไปให้พระแจ๊สอ่านด้วยนะว่าตัวผมไม่ได้ติดค้างอะไรท่านแล้ว หลังจากนั้นเพื่อนก็ส่งที่พระแจ๊สพิมพ์มาว่าขอบคุณ
ผมก็รู้สึกดี เราก็เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมันผ่านไปแล้ว เมื่อรู้ว่าอะไรไม่ดีเราก็แค่อย่าไปทำอีก ก็พอแล้ว
โดยอ๊อฟได้บอกกับทางน้องสาวของพระไปแล้วว่า ถ้ามีโอกาสคงจะได้เจอกับพระแจ๊ส จะได้ทำบุญด้วยกัน
เท่าที่ผมทราบข่าวมาคือพระแจ๊สเป็นสายปฏิบัติ ซึ่งเคร่งมากในเรื่องการปฏิบัติธรรม
ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นการทำบุญ หรือเพื่อนๆ จะไปกัน หรือท่านกลับมาที่กรุงเทพ
ก็คงมีโอกาสจะเจอกัน ได้ทำบุญร่วมกัน
ภาพ : IG chanapol_sataya