จากกรณีที่หนุ่มวัย 30 ปีโพสต์ภาพโชว์เงินสด เป็นธนบัตรแบงก์จำนวนมาก ลง tiktok ระบุข้อความว่า "หาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ในวัย 30 ปี" และใส่เสียงบรรยายว่า "ทำงานหาเงินตั้งแต่เช้ายันเย็นเพื่อใช้หนี้..." ตอนแรกหลายคนก็เข้ามาชื่นชมชายคนดังกล่าวคิดว่าขยันทำงานหาเงินเก่ง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้เข้าจับกุมชายที่อยู่ในคลิป คือนายสุรศักดิ์ เทกิงลาภ อายุ 30 ปี พักอาศัยอยู่ใน ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้พายานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร
ภายในห้องพักพบของกลางจำนวนมาก ธนบัตรใบมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 92 ใบ ธนบัตรใบละ 500 บาท จำนวน 188 ใบ ธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 341 ใบ ธนบัตรใบละ 50 บาท จำนวน 99 ใบ ธนบัตรมูลค่า 20 บาท จำนวน 122 ใบ ธนบัตรมูลค่า 10 บาท จำนวน 24 ใบ เหรียญกษาปณ์จำนวน 586 บาท เช็คเงินสดจำนวน 48 ใบ รวมเป็นเงิน 220,000 บาท และเช็คเงินสด 32 ล้านบาท รวมมูลค่าของในตู้เซฟอยู่ที่ 40 ล้านบาท
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดขณะนายสุรศักดิ์ แอบเข้าไปภายในห้องทำงานของบริษัท เกียรติทยากรเมททัล จำกัด บริษัททำเหล็กขนาดใหญ่ หมู่ 1 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ในเวลากลางคืนของวันที่ 9 ส.ค. 65 คนร้ายได้ยกตู้เซฟมีทรัพย์สินภายในจำนวนมากเอาไปด้วย
นางสาวณณัฎฐ์ เกียรติทยากร เจ้าของบริษัท เกียรติทยากรเมททัล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ตู้เซฟหาย ตนก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที หลังจากนั้นก็มาดูภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าคนก่อเหตุสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ดูรูปร่างแล้วเป็นผู้ชายผอมสูง ก็ได้นำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนตัวก็ได้หาเบาะแสคนร้ายเองด้วย เพราะเชื่อว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนใน เพราะรู้ว่าห้องทำงานของตน รู้ช่องทางเข้าออกของบริษัท รู้จังหวะการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากนั้นจึงหาคนต้องสงสัย โดยเฉพาะคนที่ก่อเหตุขโมยข้าวของในบริษัทแล้วก็เจาะดูข้อมูลของแต่ละคน ปรากฏว่าลูกน้องในออฟฟิศได้ส่งภาพคลิปวิดีโอติ๊กต็อกดังกล่าวมาให้ตนดู
ปรากฏว่าคนในคลิปเป็นพนักงานเก่าของบริษัทที่เคยก่อเหตุลักขโมยสายไฟ และก็ไม่มาทำงานอีกเลย ในคลิปที่มีการโชว์เงินสดยืนยันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นคลิปว่าเป็นเงินของตนแน่นอน เพราะเป็นคนเก็บเงินเหล่านี้ไว้ในตู้เซฟเอง เป็นธนบัตรหายาก เป็นแบงค์ใหม่ทั้งหมด ยิ่งเฉพาะตอนที่ชายในคลิปโชว์แบงก์ ตนก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเงินของตน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปจับกุม
ในวันที่ 11 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมชายคนดังกล่าว ปรากฏว่าก็พบของกลางซึ่งเป็นตู้เซฟ เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ และเงินจำนวนมากของตน สอบถามคนก่อเหตุก็รับสารภาพบอกว่าลงมือทำคนเดียว พักอาศัยอยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว ไม่มีเงินใช้จึงก่อเหตุ ตนได้สอบถามตอนที่พูดคุยกับผู้ก่อเหตุอยู่ในสภาพที่หัวเราะสนุกสนานและไม่สลด ถามว่าเอาเงินไปใช้เท่าไร เขาบอกว่า 150 บาท ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อ หลังจากนี้ทางบริษัทก็ต้องเสริมมาตรการตรวจตาเรื่องการเข้าออก และกล้องวงจรปิดมากกว่านี้
สำหรับเหตุการณ์นี้ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะคนก่อเหตุนำภาพไปลงในติ๊กต็อก มีคนเข้ามาแซวกันเยอะแยะ เพราะสุดท้ายอยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม หากจับคนร้ายไม่ได้ก็จะสูญเงินไปกว่า 40 ล้านบาท
