จากกรณี น.ส.นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ ดีเจอ้อย จองตั๋วเครื่องบินเพื่อท่องเที่ยวผ่านพนักงานหญิงในออฟฟิศ เป็นคนกลางจองตั๋วกับนายยุทธนา ธรรมพรต ผู้รับเงิน ซึ่งทำงานอยู่ในสถานีวิทยุเช่นกัน โดยจองทั้งหมด 3 ทริป ตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นทริปญี่ปุ่น 2 ทริป ของน้องชาย และพ่อแม่ และทริปยุโรป 1 ทริป ของตัวเอง แต่ถูกโกง ไม่มีการจองตั๋วเครื่องบิน และติดต่อไม่ได้ อีกทั้งพนักงานออฟฟิศเสียหายอีกหลายราย รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
น.ส.นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ ดีเจอ้อย ผู้เสียหาย
วันที่ 8 เม.ย. 62
น.ส.นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ ดีเจอ้อย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ความตั้งใจของตน ซื้อตั๋ว 3 ทริป โดยน้องชายของตนมีกำหนดบินวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งเมื่อถึงเดือน มี.ค. ตนก็ร้อนรน เพราะยังไม่ได้ตั๋ว ซึ่งมีคนรู้จักที่การบินไทย เช็กข้อมูลให้ ปรากฎว่าไม่มีข้อมูลการจองตั๋วของตน ตนจึงสอบถามไปที่น้องที่รับเงินไป น้องก็ยืนยันว่าได้บินแน่นอน อาจจะเป็นตั๋วโปรโมชั่น 72 ชั่วโมงก่อนบิน จะมีตั๋วออกมาให้ 24 ชั่วโมงก่อนบิน สามารถเช็กอินได้ทันที จากนั้นผ่านไป 72 ชั่วโมง ก็ไม่มีตั๋ว ตนจึงต้องซื้อตั๋วใหม่
จนกระทั่งน้องผู้หญิงส่งข้อความมาว่า "หนูโดนเทแล้ว ไม่มีตั๋ว" ซึ่งน้องในออฟฟิศก็โดน ผู้ช่วยดีเจก็โดน ตนรู้สึกว่าความฝันของน้องหลายคน ทำงานกันมาเพื่อจองตั๋วไปเที่ยว ที่สุดคือไม่มีตั๋ว ทั้งนี้ จากการที่ตนคุยกับน้องผู้หญิง เชื่อว่าน้องก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน เพราะรับจองหลายคน น้องผู้หญิงก็หาหลักฐานมาได้ว่าส่งเงินต่อไปแล้ว จากนั้นก็มีการตั้งกลุ่มผู้เสียหาย บางคนเสียหายเป็นล้าน ก็มาปรึกษากัน ตนจึงบอกว่าจะไปแจ้งความ ทำตามกระบวนการยุติธรรม
ดีเจอ้อย ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าก็เคยจองตั๋วเรียบร้อยดี แต่มาติดช่วงนี้คนอาจจะเดินทางเยอะ มีคนมาฝากซื้อตั๋วเยอะมาก ตนก็คุยกับดีเจดาด้า ที่คำนวนกันมีมูลค่าเสียหาย อาจถึง 20 ล้านบาท ซึ่งตำรวจก็บอกว่าจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ ซึ่งขณะนี้นายยุทธนาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น น่าจะกลับมาเที่ยงคืนวันนี้
"พี่รู้สึกว่าความเจ็บปวดของทุกคนเหมือนกัน ก็อยากให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ คนบอกว่าพี่มีสื่อในมือพี่รอดอยู่แล้ว พี่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะทุกคนเจ็บปวดและอยากไปเที่ยวพักผ่อนจากเงินที่หามา เป็นไปได้ พี่อยากให้เขารับผิดชอบทั้งหมด" ดีเจอ้อยกล่าว
