วันที่ 14 ก.ค. 65 เวลาประมาณ 11.30 น. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ ตามจิตต์ ร้อยเวร สภ.แม่สรวย รับแจ้งจาก นายมานพ บุญยืนกุล ผู้ใหญ่บ้าน ม.18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มีเหตุคนร้ายเมายาบ้า ถืออาวุธปืนลูกซองยาวไล่กราดยิงคนในหมู่บ้านบ้านป่าเกี๊ยะ ม.18 ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณศาลาประจำหมู่บ้าน โดยมีกลุ่มเด็กพากันนั่งเล่นเกมกันอยู่ รายงานเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก และผู้ใหญ่จำนวน 4 ราย คนในหมู่บ้านบาดเจ็บสาหัสหลายคน จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมจับคนร้าย
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ นายมานพ บุญยืนกุล อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ท่าก๊อ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วง 11.00 น. ในหมู่บ้านมีงานศพชาวบ้าน ทำให้มีชาวบ้านต่างมานั่งรวมตัวเป็นจำนวนมาก
ตนเองก็กำลังนั่งอยู่ภายในงานศพ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากบนเขา ซึ่งต่อมาทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุยิงคือ นายอนุชา จะโบ อายุ 26 ปี นำปืนลูกซองกราดยิงชาวบ้านทั่วหมู่บ้าน คนแรกที่ถูกยิงคือ นางเลอ่า จะพือ อายุ 62 ปี ซึ่งกำลังทำสวนอยู่บนเขา ถูกยิงบริเวณขา
จากนั้นนายอนุชา เดินลงมาจากเขาและถือปืนลูกซองเดินไปตามถนน ยิงกระสุนปืนใส่ชาวบ้านรายที่ 2 คือนายเจษดา เกษมศรีธารา อายุ 23 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้าหมู่บ้าน โดยนายอนุชาได้ชักปืนลูกซองยิงใส่นายเจษดา กระสุนเข้าบริเวณแขนซ้าย หลัง และขาซ้าย ได้รับบาดเจ็บ จุดยิงคือบริเวณตีนสะพานเข้าหมู่บ้าน
เมื่อยิงเสร็จแล้ว นายอนุชาได้เดินถือลูกซองไปที่บ้านหลังถัดไป ซึ่งอยู่ห่างตีนสะพานที่ยิงประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านของหญิงสาวรายหนึ่ง กำลังอุ้มเด็กหญิงปุญณดา จะโว อายุ 4 ขวบอยู่ นายอนุชายิงลูกซองเข้าใส่หญิงสาวรายนี้ กระสุนไปถูกเด็กวัย 4 ขวบ กระสุนเข้าก้นกบซ้าย 1 แผล และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเป็นศพแรก
จากนั้น นายอนุชาไปที่บ้านถัดไปจากบ้านที่ยิงเด็กวัย 4 ขวบ ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน ได้ใช้ลูกซองกราดยิงเข้าไปภายในบ้านของนางนาโป ยะป่า อายุ 46 ปี กระสุนโดนเอว น่อง สะโพกด้านซ้าย กระสุนฝังใน และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเป็นศพที่ 2
และสุดท้ายนายอนุชา เดินไปที่สนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน เพื่อหาชาวบ้านยิงต่อ จนกระทั่งไปพบกับนายจะละ จะลอ อายุ 38 ปี ซึ่งกำลังวิ่งออกมา หาลูกสาววัย 6 ขวบ กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน นายอนุชาเห็นจึงชักลูกซองยิงเป็นศพที่ 3 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองตกใจมาก ทำอะไรแทบไม่ถูก ทันทีที่มีชาวบ้านวิ่งเอามาบอกว่ามีแต่คนถูกยิง ซึ่งตนเองไม่ทราบจริง ๆ ว่า นายอนุชาเป็นคลุ้มคลั่งยาเสพติดอะไร แต่ก่อนหน้านี้นายอนุชาก็เคยเป็นตัวอันตรายของคนในหมู่บ้าน และมักมีพฤติกรรมชอบทำร้ายน้องชาย และคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง
ล่าสุดจากเท่าที่รวบรวมข้อมูลพบว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทั้งหมด 3 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 7 ราย ล้วนแล้วมีแต่ผู้หญิง มีแต่นายจะละเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย
นางนาแฮ ลาหูนะ อายุ 23 ปี ภรรยาของนายจะละ ผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมาตนเองและลูกเล็กวัย 3 ขวบ พร้อมสามีกำลังนั่งกันอยู่ภายในบ้าน ส่วนลูกสาววัย 6 ขวบกำลังวิ่งเล่นอยู่ภายในสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกัน 4-5 นัด และได้ยินเสียงชาวบ้านกรีดร้อง ตะโกนขอความช่วยเหลือจำนวนมาก ด้วยความตกใจจนตัวเองจึงบอกให้สามีอยู่ในบ้านก่อนอย่าเพิ่งออกไป แต่ตอนนั้นสามีนึกขึ้นได้ว่ายังเหลือลูกสาววัย 6 ขวบที่ยังวิ่งเล่นอยู่นอกบ้าน
สามีของตนเองจึงบอกให้ตนเองอยู่แต่ภายในบ้านอย่าออกไปไหน ส่วนตัวสามีได้วิ่งจะไปเอาลูกสาววัย 6 ขวบกลับบ้าน แต่ระหว่างทางที่ สามีวิ่งไปหาลูกสาว ได้พบกับคนร้ายที่ถือปืนลูกซองกำลังหาเหยื่อรายต่อไปอยู่บริเวณถนนกลางหมู่บ้านพอดี สามีจึงเข้าไปห้ามคนร้าย และเมื่อคนร้ายพบสามีก็ไล่ยิงสามีอีกเป็นศพที่ 3
ก่อนที่คนร้ายจะนั่งเฝ้าศพของสามี และนั่งถือปืนลูกซองอยู่ใต้ต้นใม้ใหญ่ที่สนามกลางหมู่บ้าน ก่อนที่ตำรวจจะมาปิดล้อมจับกุมตัว ตนเองตกใจ และเสียใจมากที่สามีได้เสียชีวิต เพราะเพิ่งจะมีลูกด้วยกัน 2 คน ตนเองยืนยันว่าที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีปัญหาทะเลาะหรือขัดแย้งอะไรกัน ไม่รู้ว่านายอนุชาเกิดบ้าอะไรมาเที่ยวไล่ยิงคนบริสุทธิ์ในหมู่บ้าน
พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.แม่สรวย กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายอนุชาที่มีอาการมึนเมาอย่างหนัก ให้การวกวนสับสน พูดเพียงว่าจะนำตัวพวกนี้ไปอยู่กับพระเจ้า และมาเทศนา เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อตรวจหาสารเสพติดต่อไป
สำหรับนายอนุชาไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และมักเสพยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นประจำ จนทำให้ภรรยาเลิกราไป รวมทั้งมักมีพฤติกรรมทำร้ายแม่ที่เลี้ยงด้วย ส่วนอาวุธปืนทราบว่าคนร้ายได้ขโมยปืนมาจากอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่พร้อมกระสุน 50 นัด ก่อนจะนำมาก่อคดีกราดยิง
นายเจษดา เกษมศรีธารา อายุ 23 ปี 1 ใน 7 ผู้บาดเจ็บ ที่ถูกนายอนุชาชักลูกซองยิง และรอดชีวิตมาได้ เล่าว่า ระหว่างที่ตนเองกำลังขี่รถจักรยานยนต์กำลังขับเข้าหมู่บ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด และตนเองรู้สึกเจ็บบริเวณแขนและหลัง แต่ฝืนใจขี่รถจักรยานยนต์หนี และไปบอกผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเจอผู้ใหญ่บ้านก็ได้ถามว่าเกิดอะไรกันขึ้น ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่า ทุกคนในหมู่บ้านต่างตกใจกลัวตั้งสติไม่อยู่
จากนั้น ตนเองก็ได้รีบวิ่งไปหาที่ปลอดภัยและแจ้งให้คนมาช่วยเหลือ ซึ่งระหว่างนั้นตนเองก็ยังคงได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันอีกหลายนัดภายในหมู่บ้าน ตนเองมั่นใจว่า คือคนร้ายคนเดียวกับที่ยิงตนเองแน่นอน คนร้ายได้กราดยิงด้วยปืนลูกซองตามบ้านชาวบ้านไม่เลือกหน้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ต่อมาตนเองมารู้ทีหลังว่าคนร้ายคือนายอนุชา ก่อนหน้านี้นายอนุชาก็เคยมีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นในหมู่บ้านมาบอก พฤติกรรมหลอนยาเสพติด ชอบทำร้ายน้องชายและคนในครอบครัว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่านายอนุชาจะลากปืนลูกซองมาเที่ยวยิงคนในหมู่บ้านได้
