เหลืออด! พ่อตาฆ่าเขยมีดปักหลังวิ่งมาตาย เมียลืมเจ็บปล่อยโฮยัวะญาติช่วยช้า (คลิป)

วันที่ 4 ก.ค. 65 เมื่อเวลา 18.00 น. ตำรวจ สน.โชคชัย กรุงเทพมหานคร รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต ภายในซอยลาดปลาเค้า 10 จึงรุดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในซอย หน้าบ้านพบศพชายไม่สวมใส่เสื้อมีเพียง กางเกงตัวเดียว ไม่สวมใส่รองเท้า ในมือถือโทรศัพท์ นอนคว่ำหน้ามีมีดปอกผลไม้ยาวแทงคาอยู่กลางหน้า นอนจมกองเลือด

ทราบชื่อคนก่อเหตุในเวลาต่อมา คือนายพิษณุ เหมติรันดร อายุ 42 ปี เขยของบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนคนก่อเหตุคือ นายไพโรจน์ จ่าพล อายุ ​67 ปี พ่อตา หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปนั้น

ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ขณะที่เดินทางไปถึงนั้นยังพบว่าร่างของนายพิษณุ เหมติรันดร อายุ 42 ปี ยังอยู่ที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหน้าประตูบ้าน ลักษณะมีมีดปอกผลไม้ยาวปักอยู่กลางหลัง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปิดล้อมพื้นที่ พร้อมทั้งได้เข้าไปพูดคุยกับภรรยาของคนตาย ภายในบ้านที่เกิดเหตุ ให้การด้วยอาการเสียใจ เบื้องต้นบอกว่าคนตายชอบทำร้ายคนในครอบครัว แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นถูกพ่อแทงตายแบบนี้ ตอนนี้พ่อหายไปไหนยังไม่รู้ ติดต่อไม่ได้

นางสาวพิชชาพร อยู่กลิ่น อายุ 17 ปี หลานสาวของภรรยาคนตาย เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ได้ยินเสียงนายไพโรจน์ พ่อตา ทะเลาะกับนายพิษณุ ลูกเขย ซึ่งในตอนนั้น ภรรยาและลูกชายวัย 8 ขวบ รวมทั้งแม่ยายอาศัยอยู่ในบ้านหลังที่เกิดเหตุด้วยกัน จนกระทั่งตัวของภรรยาไม่อยากเห็นลูกรับรู้เรื่องความรุนแรง จึงได้พาลูกชายไปที่บ้านญาติใกล้กัน

จากนั้นเสียงของนายไพโรจน์กับนายพิษณุก็เริ่มดังขึ้น แต่จับใจความไม่ได้ เป็นลักษณะทะเลาะกันอย่างรุนแรง หลังจากที่ทะเลาะกันภายในตัวบ้าน ปรากฏว่าเห็นนายพิษณุวิ่งออกจากบ้านออกไปที่ถนน และมีลักษณะคล้ายมีดปักอยู่กลางหลัง วิ่งออกจากบ้านไปล้มลงอยู่ที่ถนน ส่วนนายไพโรจน์ พ่อตา ได้วิ่งตามหลังออกไป แต่ก็ไม่ได้กลับเข้ามาภายในบ้านอีก คาดว่าน่าจะหลบหนีหลังก่อเหตุ

หากย้อนกลับไป ยอมรับว่าตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ตัวของนายพิษณุ ลูกเขย มักจะมีการทะเลาะมีปากเสียงกับนายไพโรจน์พ่อตาบ่อยครั้ง หนักสุดก็เคยเห็นทำร้ายร่างกายภรรยาและคนในครอบครัว โดยเฉพาะการเตะ และตี ถึงขั้นช้ำเขียว ดังนั้นตนเองจึงเชื่อว่าเป็นปัญหาสะสมที่ลูกเขยอาจมีพฤติกรรมความรุนแรง ประกอบกับช่วงเวลาเกิดเหตุ อาจจะเกิดบันดาลโทสะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจึงมีการใช้อาวุธทำร้ายกัน โดยนิสัยของนายพิษณุ คนตาย ก็มีลักษณะเป็นคนใช้ความรุนแรงและมักจะมีอาการเรื่องของการมึนเมา ถูกพ่อตาตักเตือนบ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงนี้เกิดขึ้นเช่นกัน

ด้านนางแจ่ม อายุ 60 ปี ป้าของคนตาย เปิดเผยว่า ในตอนนั้นตนเองได้ยินเสียงคนทะเลาะกันในบ้าน จึงได้ออกมาดูเหตุการณ์ แต่ปรากฏว่าเห็นตัวของนายพิษณุ คนตาย ซึ่งในขนะนั้นยังมีชีวิต วิ่งออกมาจากตัวบ้านลักษณะมีมีดปักอยู่ด้านหลัง พร้อมกับพูดว่า “ช่วยด้วย” ตนเองก็ได้เข้ามาดูเหตุการณ์ แต่ก็ไม่ทันได้ช่วยอะไร พอเจ้าตัวขาดใจตายก่อน จากนั้นก็ช่วยกันเรียกรถพยาบาล แต่ก็ไม่ทันเหตุการณ์

แต่ส่วนชนวนเหตุนั้น เชื่อว่าอาจจะเป็นเรื่องของการทะเลาะกันภายในบ้าน ประกอบกับตัวของคนตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าและอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ส่วนคนก่อเหตุคือนายไพโรจน์ซึ่งเป็นพ่อตา ตนเองไม่ได้เห็นวิ่งตามหลังออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหลบหนีไปในเส้นทางใด ดังนั้นตนเองก็อยากจะให้เจ้าตัวมอบตัวรับผิดตามกฏหมาย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่รู้สึกสงสารคนตายมากกว่า