คืบหน้ากรณี แตงโม ภัทรธิดา ดารานักแสดงชื่อดังพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ล่าสุดตัวของแม่แตงโม เปิดใจภายหลังมีความเชื่อมั่นว่าคดีการตายของลูกสาวเป็นคดีฆาตกรรม แต่สุดท้ายมีการเปลี่ยนความคิดใหม่ ยังไม่ฟ้องตรงเพราะไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม
วันที่ 11 มิ.ย. ทีมข่าวได้พูดคุยกับบังแจ็คทางวิดีโอคอล "ราชา ไฮเดอร์" บอกว่า เรื่องที่แม่แตงโมไม่ติดใจเรื่องคดีฆาตกรรมแล้วนั้น บังแจ็คเป็นคนบอกแม่เอง เพราะยังไม่เห็นหลักฐานยืนยันชัดเจนจากนายอัจฉริยะ แต่ที่เดินหน้ากับคดีนี้คือเรื่องการทำร้ายร่างกายทำใให้ผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแน่นอน ตนมีหลักฐานที่เชื่อมโยงชัดเจน เดินหน้าฟ้อง 100 เปอร์เซ็นต์ หลักฐานที่ตนมี ไม่ได้เป็นการสร้างหลักฐานเท็จแน่นอน
นอกจากนี้ แม่แตงโมได้มอบหมายให้ตนเป็นคนพูดเรื่องคดีแตงโมทั้งหมด ตนจึงขอให้แม่หยุดฟ้องเรื่องฆาตกรรมก่อน ไม่อย่างนั้นหากหลักฐานไม่ชัด แม่จะโดนฟ้องกลับคนเดียว ยอมรับว่าเป็นห่วงคุณแม่ "แม่อายุมากแล้ว ใครจะส่งข้าวถ้าแม่ติดคุก"
ตนยืนยันว่าไม่มีการปั่นแม่ให้เปลี่ยนใจ และไม่มีใครปั่นความคิดแม่ ส่วนเรื่อง ส.ส.เต้ ที่ตำหนิสื่อว่าปั่นแม่จนแม่เชื่อจนเปลี่ยนใจนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด เรื่องนี้ตนอธิบายให้ ส.ส.เต้ รับทราบแล้ว ไม่มีใครปั่น อย่างไรก็ตามวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ทีมทนายและผู้เชี่ยวชาญ ที่อยู่ฝั่งแม่แตงโมจะประชุมผ่านวิดีโอคอล เพื่อเปิดดูหลักฐานทั้งหมดว่าจะเดินหน้าคดีนี้อย่างไร โดยดูเรื่องการฆาตกรรม ยืนยันว่า "ไม่เอาเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับอัจฉริยะมายุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโม"
ล่าสุด นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ไลฟ์ชี้แจงกรณี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือ แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมกับคนบนเรือแล้วเพราะหลักฐานว่าแตงโมถูกฆาตกรรมยังไม่ชัดเจน ระบุว่าไม่เป็นความจริง พร้อมระบุกับทางสื่อบางสำนักที่ติดต่อไปเพื่อสัมภาษณ์ว่าเป็นการปั่นคุณแม่จากสำนักข่าว
ด้านเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท โพสต์ข้อความระบุว่า "...ขออนุญาตครับ... ...คดีน้องแตงโม หากคุณแม่แตงโมซึ่งเป็นผู้เสียหายเพียงคนเดียวขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการและขอค่าสินไหมทดแทนจากผู้ที่อยู่บนเรือตาม ป.วิ.อ มาตรา 44/1 คุณแม่แตงโมแทบไม่ต้องทำอะไรในคดีเลย และทนายโจทก์ร่วมก็เพียงแต่นั่งเฉย ๆ ดูพนักงานอัยการว่าคดีดังกล่าว.
...แต่หากคดีดั่งกล่าวมีการสืบพยานโจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลยเสร็จสิ้นไป แล้วศาลพิพากษายกฟ้อง. ...จะถือว่าคุณแม่แตงโม"ฟ้องเท็จ" ไหม ถึงตอนนี้ผมยินดีเสนอตัวเข้าไปเป็นทนายจำเลยให้คุณแม่แตงโมครับ. ...ที่ผมโฟสต์ข้อความนี้เพราะมีข่าวสะพัดว่าคุณแม่แตงโมจะไม่ฟ้องคดีเอง หากข่าวนี้เป็นความจริงผมจะได้ไปขอลาออกจากการเป็น"ที่ปรึกษา"ของคุณแม่แตงโม. ...ทุกวันนี้ผมยังไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น "ทนายความ" ของคุณแม่แตงโมเลยครับ ...ผมคงไม่ผิดคำพูดที่ผมได้พูดกับ ส.ส.เต้ นะครับ ผมยินดียืนเคียงข้างกับ ส.ส.เต้ ครับ... ...ผมและประชาชนทั่วไปค่อนประเทศต้องการรู้ว่าน้องแตงโมของผมตายเพราะสาเหตุอะไร จะเป็น
อุบัติเหตุ ประมาท ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกฆ่า หากศาลพิพากษาว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ผมรับได้หมด ครับ ...เสียดายที่ผมไม่มีสิทธิเข้าไปเผือกในคดีนี้. ...แต่ผมมีสิทธิไปเขียนหนังสือเรื่อง " ศึกษาคดีจากเรื่องจริงของคดีดัง " เพื่อหาทุนให้แก่ "ชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดี" ที่ผมเป็นประธานชมรม ครับ..."
และ อีกโพสต์ ระบุว่า "...สับขาหลอกอีกแล้ว... ...อ้าวที่ ส.ส. เต้พูดตกลงกับผมว่า จะให้คุณแม่แตงโมฟ้องคดีเอง แต่มีข่าวออกมาว่าคุณแม่แตงโมไม่ฟ้องเองแล้ว เป็นการสับขาหลอกหรือครับ. ...เล่นเอาผมและทีมงานทนายความมือพระกาฬขวัญเสียหมด.
.. ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องกลับฐาน "ฟ้องเท็จ" อีกคดีหรอกครับคุณแม่แตงโม. ...ผมและทีมงานทนายความของผมยินดีไปเป็นทนายจำเลยให้คุณแม่แตงโม คงไม่ผิดมารยาททนายความเพราะเป็นคนละคดีกับคดีหลัก. ...น้องทนายความท่านใดอยากเห็นและศึกษาว่าทนายจำเลยจะ "ถามค้าน" พยานโจทก์ อย่างไร ไปดูได้ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีที่จะมีการไต่สวนมูลฟ้องในวันจันทร์ที่จะถึงนี้เวลา 13.30 น. ได้ ครับ... ( พบกับผมได้ที่ห้องอาหารศาลแขวงนนทบุรีเวลา 12.00 น. ในวันจันทร์ นี้ครับ ก่อนขึ้นห้องพิจารณา )"
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของแม่แตงโม เปิดเผยว่า ตนเองเคยพูดเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าคณะนี้จะมีการแตกไม่เกิน 10 วัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าเป็นกิจกรรม "มวยล้มต้มคนดู" เพราะในคดีนี้ไม่มีหลักฐานใดที่เชื่อมโยงว่าเป็นการฆาตกรรม เป็นเพียงแค่การแสดงของคนกลุ่มหนึ่ง ดึงเอาแม่ไปเป็นพรรคพวก แต่ภายหลังที่แม่เริ่มปรึกษากับทนายที่เป็นกลางบางคน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝั่งกลุ่มของโคนันเมืองไทย และส.ส.คนดัง ทำให้แม่ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่มีการฟ้องแยก แต่กลับกลายเป็นการฟ้องร่วมกับอัยการ
การที่จะฟ้องร่วมกับอัยการนั้น บุคคลที่จะฟ้องได้ต้องมีความเห็นตรงกันกับอัยการ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าคือคดีประมาท ฉะนั้นถ้าแม่จะมีการฟ้องร่วมกับทางอัยการก็ต้องมีความเห็นให้ตรงกับอัยการก่อน แต่ตนเองเชื่อว่าการที่แม่เริ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เพราะรู้ความจริงว่าการรวบรวมพยานหลักฐานของกลุ่มคนบางคนไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ไม่มีหลักฐานใดที่จะเชื่อมโยงได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรม แม่จึงต้องมีที่ปรึกษาที่เป็นกลางในการให้ความเห็นและแนะนำแม่ สำหรับส่วนตัวนั้นก็ยินดีเสมอ ประเด็นที่แม่อยากจะไปพูดคุยกับอัยการ โดยถ้าหากกลุ่มที่กำลังอยู่กับแม่ตอนนี้ไม่สามารถที่จะพาแม่ไปพบเจอกับอัยการได้ ตนเองคือคนที่พร้อมจะพาแม่ไปคุยกับอัยการ เพื่อให้แม่มีความเข้าใจในคดีประมาทมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าหากแม่พร้อมสามารถที่จะติดต่อมาหาตนเองได้ และยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม หรือแม่จะติดต่อมาเพื่อทานข้าวร่วมกันก็ยินดี
บังแจ็ค บอกว่า ที่นำคลิปเสียงบังแจ็คคุยกับเบิร์ดมาลงเพราะยืนยันว่าคืนนั้นกระติกชวนแตงโมไปรับงานจริง โดยต้องการให้แตงโมไปโปรโมตเรือลำนั้น เรือที่จะโปรโมตเป็นเรือท่องเที่ยว และยืนยันว่าแตงโมไม่รู้ และแตงโมก็ไม่ได้เงินจากงานนี้ด้วย บังแจ็คบอกว่า ได้คุยกับเบิร์ด เบิร์ดบอกว่าวันนั้นเวลาตี 4 แตงโมเตรียมตัว ได้ยินแตงโมคุยกับกระติกทำนองว่ากระติกชวนไปลงเรือ และกระติกยังแคปรูปผู้หญิงชาวต่างชาติที่แต่งตัวถ่ายรูปบนเรือคอลเลคชั่นต่าง ๆ ส่งให้แตงโมว่าเขาแต่งตัวกันอย่างไร เวลาลงเรือ เพื่อถ่ายรูปโปรโมต
ที่สำคัญภาพเหล่านี้ถูกลบไปหมดแล้วก่อนมือบังแจ็ค แต่บังแจ็คกู้ขึ้นมาได้ ซึ่งเบิร์ดเสียใจที่ให้แตงโมออกไปกับในวันนั้น และเป็นความเป็นผิดของเบิร์ด นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เบิร์ดไม่ออกมาสู้คดีเพื่อแตงโม
ส่วนการโพสต์คลิปแซนถือแก้วไวน์บนเรือ พร้อมแคปชั่นที่บอกว่า "ขนาดคลิปสั้นสั้นขนาดนี้ถูกลบจากเครื่องเพราะมือปริศนา🔪" นั้น เพราะต้องการเปรียบเทียบให้เห็นว่าในแก้วไวน์ที่แซนถือนั้น เป็นไวน์ขาว แต่พบคราบน้ำสีแดงบนเรือในวันเกิดเหตุ กลุ่มคนบนเรืออ้างว่าเป็นไวน์แดง ซึ่งก่อนหน้านี้เองชาวเน็ตก็เคยต้องข้อสังเกตว่าเป็นคราบเลือดหรือไม่
