หนุ่มใหญ่ยิงหัว 3 ศพสางแค้นขวางตั้งตลาด โต้วางบึ้มฆ่าอัยการ ญาติเหยื่อฉะเหี้ยม (คลิป)

10 มิ.ย. 65

จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2565 เกิดเหตุการณ์อุกอาจขึ้นภายในศาลาเอนกประสงค์ ของกองทุนหมู่บ้านทุ่งน้ำใส หมู่ 7 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ นายพิทักษ์ชัย รักษ์สุข อายุ 61 ปี ใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 กราดยิงคนที่อยู่ในศาลาเสียชีวิตคาที่ 3 ราย

791092

ประกอบด้วย นายเสธนีย์ เสนะสุทธิพันธ์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.เหมืองหม้อ, นายชลอ พุทธวงศ์ อายุ 60 ปี กรรมการกองทุนหมู่บ้านและเป็นพนักงานของ อบต. เหมืองหม้อ และนางแสงทอง บุญสุวรรณ อายุ 63 ปี กรรมการกองทุนหมู่บ้าน ทั้งหมดถูกยิงเข้าที่ศีรษะในขณะที่กำลังนั่งทำงานเก็บเงินออม เงินสะสม เงินฌาปณกิจต่าง ๆ ของชาวบ้านในหมู่บ้านที่โต๊ะ โดยปกติจะมีกำหนดชำระทุกวันที่ 10 ของเดือน และมีกรรมการทั้งหมด 9 วัน แต่วันนี้มาแค่ 8 คน รวมผู้ตาย

131668202287491893

จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับจักรยานยนต์พร้อมสวมหมวกกันน็อก มุ่งหน้าไปที่สำนักงานอัยการ จ.แพร่ จะก่อเหตุยิงอัยการรายหนึ่งเป็นศพที่ 4 แต่อัยการคนดังกล่าวไม่อยู่ในสำนักงาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ติดตามไปกุมตัวนายพิทักษ์ชัยได้ที่สำนักงานอัยการ จ.แพร่ พร้อมด้วยอาวุธปืน และวัตถุระเบิดทั้งหมด 9 ลูก เป็นระเบิดแสวงเครื่องประดิษฐ์เอง พร้อมทำงานได้ทันที โดยใช้วิธีจุดฉนวน ซึ่งใส่ไว้ในกระเป๋าเป้

207509

เบื้องต้นทราบว่าชนวนในการก่อเหตุครั้งนี้มาจากที่ นายพิทักษ์ชัยไม่พอใจเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องการทำตลาดนัดคลองถมหรือตลาดนัดชุมชน แล้วมีการโต้ตอบระหว่างผู้ก่อเหตุกับผู้ตายทั้ง 3 คนผ่านทางไลน์กลุ่มหมู่บ้านมาตลอด จนกระทั่งเมื่อกลางปี 2564 ผู้ก่อเหตุทำการฟ้องหมิ่นประมาทกับผู้ตายทั้ง 3 คน แต่ถูกอัยการเจ้าของคดีสั่งไม่ฟ้องเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2565

592538

ต่อมาผู้ก่อเหตุทราบว่าผู้ตายทั้ง 3 คนจะฟ้องกลับกับข้อหมิ่นประมาทเช่นกัน จึงทำให้แค้นใจอัยการเจ้าของคดีที่สั่งไม่ฟ้อง กรณีที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องทั้ง 3 คนก่อนหน้านี้ ทำให้วันนี้เมื่อทราบว่าผู้ตายทั้ง 3 คนจะมานั่งรับชำระค่างวดเงินกองทนหมู่บ้าน จึงเดินทางมาที่เกิดเหตุและใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะเดินไปทางไปเพื่อยิงอัยการเจ้าของคดีต่อ แต่ไม่สำเร็จนั้น

961884

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มีนางพิมพ์ทิพย์ รักษ์สุข อายุ 49 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ และลูกชาย มารอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกกุมตัวอยู่ในห้องขัง ตามฐานความผิด 1.ผ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง 3.มีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 4.พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

906530

เวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกุมตัว นายพิทักษ์ชัย ผู้ก่อเหตุ ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทีมข่าวพยายามสอบถามเจ้าตัวถึงปมหลักในการก่อเหตุ เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นความกดดัน คับแค้นใจมานานแล้ว เนื่องจากตัวเองถูกกลั่นแกล้งหลายอย่าง พร้อมกับขอแก้ข่าวว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะไปฆ่าอัยการที่สำนักงานอัยการจังหวัด เพียงแค่ตั้งใจจะไปมอบตัวที่นั่น เพราะตัวเองมีอาวุธติดตัว เกรงว่าหากเข้ามามอบตัวที่โรงพักจะโดนวิสามัญ

สุดท้ายทีมข่าวถามว่าทั้ง 3 รายที่ได้ก่อเหตุยิง โกรธแค้นใครมากที่สุด เจ้าตัวตอบว่า นายเสธนีย์ เสนะสุทธิพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะถูกกุมตัวเข้าไปสอบปากคำ

cg

ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปมหลักก็น่าจะมาจากเรื่องการฟ้องร้อง เพราะเมื่อประมาณต้นปี 2562 สามีพยายามจะประสานเอาตลาดนัดดังกล่าวเกี่ยวกับการขายพระเครื่องมาตั้งในหมู่บ้าน ให้เปิดขายทุกวัน เพื่อทำรายได้ให้กับหมู่บ้าน และมีการยื่นขออนุญาตจากกรมชลประทาน เนื่องจากสถานที่ที่จะตั้งอยู่บริเวณคลองชลประทาน แล้วกรมชลประทานก็อนุญาตเรียบร้อย แต่ทางผู้ใหญ่บ้านซึ่งใช้อำนาจเป็นผู้นำชุมชนไม่อนุญาต เพราะภายในหมู่บ้านมีตลาดนัดอยู่แล้วในทุกวันพุธ และอ้างว่ากีดขวางจราจร จึงเริ่มขัดกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจอกันก็ไม่มองหน้า ไม่คุยกัน แต่สุดท้ายก็ได้เมื่อต้นปี 2564 ก็ได้มีการตั้งตลาดขายพระสำเร็จ

881519

จากนั้นในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 สามีลงสมัครเลือกตั้ง ส.อบต.เหมืองหม้อ แต่ไม่ได้รับการเลือก แล้วผู้ก่อเหตุสืบทราบมาว่าส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับเลือกมาจากที่ นายชลอ และนางแสงทอง รวมถึงญาติของผู้ใหญ่บ้านไปพูดกับชาวบ้านในเชิงให้ร้าย ประมาณว่าเป็นคนต่างถิ่นมาจาก จ.สิงห์บุรี แค่มาเป็นเขยในหมู่บ้าน อย่าไปสนับสนุน อย่าไปเชื่อ

ต่อมาสามีก็มีการส่งข้อความไปในไลน์กลุ่มหมู่บ้านเพื่อแสดงความยินดีกับผู้ได้รับเลือกตั้ง แต่พ่อตาของผู้ใหญ่บ้านพิมพ์กลับมาประมาณว่า "ไปแสดงความยินดีกันส่วนตัว ไม่ต้องส่งเข้ามาในกลุ่มหมู่บ้าน" แล้วผู้ก่อเหตุก็พยายามอธิบายว่า "ก็แค่จะยินดีกับคนที่ได้" แต่ด้านของพ่อตาผู้ใหญ่บ้านยังมีการพิมพ์ในเชิงแซะ ประมาณว่า "คุณไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่งในหมู่บ้าน จะไปเดินเรื่องอะไรเขาก็ไม่รับหรอก ยื่นเรื่องอะไรไปเขาก็เอาลงถังขยะหมด" ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ

154818852118470492

แล้วก็มาปรึกษากับเพื่อน ๆ เชิงน้อยใจว่าทำไมแค่ไม่มีตำแหน่ง ก็ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้เหรอ จึงตัดสินใจเอาข้อความเหล่านั้นไปยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับพ่อตาของผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้ฟ้องผู้ตายทั้ง 3 คนตามที่ข่าวออกไปในตอนแรก จากนั้นอัยการก็ไม่ส่งฟ้องให้ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ก่อเหตุคับแค้น บวกกับภายหลังมาทราบข่าวลือว่าพ่อตาของผู้ใหญ่บ้านจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกลับด้วย

891855409471

ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นของสามีมีใบอนุญาต ส่วนระเบิดนั้นตนไม่ทราบว่าสามีเอามาจากไหน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน และสามีไม่ได้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับซึมเศร้าหรือโรคทางประสาท มีแค่อาการปวดขา เนื่องจากเป็นเก๊าท์เท่านั้น ก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไรเลย ตอนเช้าขณะที่ตนกำลังจะออกไปส่งออมทรัพย์ในที่เกิดเหตุ แต่สามีบอกว่า "ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวพี่ไปเอง เพราะจะไปธุระในเมืองด้วย" จากสามีก็ออกไปกดเงินผู้สูงอายุและซื้อของมาให้ตน แล้วก็ออกไปก่อเหตุ ตนมารู้ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านเพื่อถามหาสามี ตนก็บอกว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ตอนนี้ตำรวจก็ยังไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งน้องสาวโทรมาบอกว่าสามีตนไปก่อเหตุยิงคนตาย 3 ศพ

198341

ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของนายเสธนีย์ ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต นางปาริชาติ เสนะสุทธิพันธ์ อายุ 50 ปี ภรรยา ยอมรับว่าพ่อของตนเคยมีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุผ่านไลน์กลุ่มของหมู่บ้านจริง และยอมรับว่าพ่อของตนเคยพิมพ์ว่าผู้ก่อเหตุไม่มีตำแหน่งในหมู่บ้าน ยื่นเรื่องอะไรไปเจ้าหน้าที่ก็เอาลงถังขยะหมดจริง แต่เรื่องมันนานมากแล้ว ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าเขาจะเอาแชตไปฟ้องหมิ่นประมาทพ่อตน ทั้งที่พ่อตนก็แค่แสดงความคิดเห็นทั่วไป มารู้อีกทีคืออัยการสั่งไม่ฟ้อง แล้วเรื่องมันก็เงียบไป

บวกกับว่าหลังมีการโต้ตอบกันในไลน์ ตนก็ออกจากกลุ่มนั้นทันที เพราะไม่อยากรับรู้หรือมีปัญหาต่อ และปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ไลน์กลุ่มดังกล่าวแล้ว เพราะผู้ใหญ่บ้านมีการสร้างไลน์กลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อกระจายข่าวสาร และผู้ก่อเหตุก็เลือกที่จะไม่เข้ากลุ่มใหม่นี้

ส่วนเรื่องที่ภรรยาผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ใหญ่ไปขัดประเด็นตลาดนัดนั่น ตนยืนยันว่าไม่มี เพราะปกติหากจะมีการตั้งตลาดก็จะมีการทำประชาคมหมู่บ้าน กลับกันคือผู้ใหญ่ต่างหากที่ปล่อยอิสระให้ผู้ก่อเหตุประสานตั้งตลาดเต็มที่ จนได้ตั้งตลาดขายพระในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นจึงขอยืนยันว่าผู้ใหญ่บ้านไม่เคยขัดผลประโยชน์อะไรกับผู้ก่อเหตุสักอย่าง ต่างคนต่างอยู่ด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงแค้นสามีตนมากที่สุด ตนเองยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะก่อเหตุได้ถึงขนาดนี้ ใจลึก ๆ มันก็โกรธ จึงไม่ขออโหสิกรรม และขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

761958

นางเสาวลักษณ์ เสนะสุทธิพันธ์ อายุ 77 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจมา 41 ปี วันนี้ก็นั่งร้องไห้ตลอดเวลาหลังทราบข่าว เปิดใจกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่ายังทำใจไม่ได้ ลางสังหรณ์ตลอด 5-6 วันที่ผ่านมา ตาขวาตนกระตุกตลอด พยายามเอามือไปบังคับให้หยุดก็ไม่หยุด พยายามหาว่าอะไรอยู่ในตาก็ไม่มี คิดไม่ถึงว่าจะเป็นลางร้าย

ส่วนตัวไม่รู้เลยว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกันเพราะปกติลูกชายเป็นคนดี ช่วยเหลือชุมชน ทำงานส่งเสียเลี้ยงดูตน พาตนไปโรงพยาบาลตลอด เมื่อเช้าก่อนเกิดเหตุได้เจอกันครั้งสุดท้ายคือตอนที่ลูกชายเข้ามาเอาตะไคร้กับขมิ้นไปทำกับข้าว แต่ไม่ได้คุยอะไรกัน ไม่ทันได้ร่ำลา ส่วนกับผู้ก่อเหตุตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ตนยอมรับเลยว่าโกรธมาก เพราะตลอดชีวิตตนไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่มันโหดร้ายขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต รับไม่ได้หากรับโทษแค่ติดคุกตลอดชีวิต เพราะเขาฆ่าถึง 3 ศพ กับดวงวิญญาณของลูกชาย ตนก็ขอให้ไปสู่สุคติ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส