ตีกันยับ! ไรเดอร์ฉุนเฮียร้านข้าวแซวเมียเด็ก ยุให้ปั๊มลูก ลุงโต้แค่ขำ ๆ นึกว่าสนุก (คลิป)

จากกรณี เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3 ได้แชร์คลิป ที่ไรเดอร์ทะเลาะกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่แยกไอดิน ใน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งไรเดอร์เจ้าของคลิปอ้างว่าเคยถูกเจ้าของร้านบูลลี่ทั้งเรื่องฐานะ เรื่องแฟน และเรื่องการศึกษาหลายครั้ง และยังไปบูลลี่ร้านอาหารอีกแห่งว่าทำอาหารเกรดต่ำกว่า

ล่าสุด วันที่ 28 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับไรเดอร์ นายเจริญรัตน์ ลิ่มเจริญ อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า ที่ตัวเองต้องนำคลิปไปโพสต์ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยเหตุการณ์ก่อนที่จะมีการทะเลาะวิวาทกันตามในคลิป เจ้าของร้านอาหาร ได้มีการ ดูถูกเหยียดหยามตัวเองหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์แรกเกิดมาจากตนเองไปรับออร์เดอร์ พร้อมกับแฟนสาว อายุ 18 ที่ร้านอาหารดังกล่าว แล้วถูกสามีเจ้าของร้านพูดแขวะแฟนว่าไม่เรียนหนังสือ จนตนเองต้องตอบแทนแฟนไปว่า "แฟนผมเรียนจบ ม.6 ไม่ได้เรียนต่อ ที่มากับผมเพราะมาช่วยผมทำมาหากิน ผิดด้วยเหรอ" สามีเจ้าของร้านก็บอกว่า "ถ้าไม่เรียนแล้วทำไมไม่นอนปั๊มลูกอยู่ที่บ้าน" ยอมรับว่าก็รู้สึกโมโห แต่ก็ยังเก็บไว้ในใจเนื่องจากต้องทำมาหากิน

จากนั้นเจ้าของร้านที่ชื่อนุช ยังไม่เลิกแขวะตนเอง พาดพิงไปถึงร้านอาหารที่ตัวเองไปรับออร์เดอร์เป็นประจำ หาว่าร้านอาหารประจำของตนทำอาหารต่ำกว่าเกรดที่ร้านของเขา ชอบยกเลิกออร์เดอร์ลูกค้า จนทำให้ตนเองทนไม่ไหว ขับรถไปรับเจ้าของร้านอาหารประจำมาเคลียร์กับเจ๊นุช พอเคลียร์กันเสร็จทั้งผัวทั้งเมียยังดูถูกตัวเอบว่าการศึกษาต่ำอีก จนตนเองทนไม่ไหว ถอดหมวกกันน็อกต่อว่าไปว่า "ถึงผมจะเป็นแค่คนส่งอาหาร แต่ผมก็ทำงานสุจริต ไม่ได้ขอใครกิน ทำไมต้องมาว่าดูถูกเหยียดหยามคนอื่น" แต่เจ้าของร้านที่เป็นคู่ผัวเมียก็ไม่ยอมตอบ

จนกระทั่งช่วงเย็น เจ๊นุช เจ้าของร้านอาหาร ได้โทรศัพท์มาหาตนเอง แล้วบอกว่าตอนนี้แจ้งกับบริษัทไปแล้วนะ หลังจากนี้ไม่ต้องมารับอาหารที่ร้านของเขาอีก ผมเองก็ตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร ต่อไปนี้จะไม่ไปรับอาหารที่ร้านเจ๊อีก และที่มีปัญหาไปก่อนหน้านี้ให้เลิกแล้วต่อกันไป แต่ผัวของเจ๊นุชไม่ยอมหยุด ขับรถไปตามหาเรื่องตัวเองตามร้านอาหารต่าง ๆ โดยพกปืนไปด้วย จนตนเองทำงานไม่ได้

หลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์อย่างในคลิปที่ปรากฏ เนื่องจากเมื่อวานนี้ อยู่ดี ๆ ออร์เดอร์ที่ร้านเจ๊นุชก็เด้งเข้ามา แต่ตัวเองก็พยามยกเลิกออร์เดอร์ เพราะไม่อยากไปที่ร้านนั้น แต่เจ้าของร้านไม่ยอมให้ยกเลิกออร์เดอร์ จนทำให้ตนเองต้องขับรถไปรับอาหาร เนื่องจากถ้าเกิดไม่ไปรับ ก็จะรับออร์เดอร์อื่น ๆ จากลูกค้าไม่ได้ พอขับรถไปที่ร้านยังไม่ทันลงรถ สามีเจ้าของร้านก็เดินมาชี้หน้า แล้วก็ถามว่า "เมื่อวานมึงว่าอะไรกู" แล้วก็เดินเข้ามาต่อยตัวเองอย่างไม่ยั้ง ทั้งยังเดินไปหยิบปืนที่รถมายิงตนเอง แต่โชคดีที่เจ๊นุชเข้ามาห้ามเอาไว้

ตอนนี้ได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้ว แต่ตำรวจบอกว่าไม่มีบาดแผล จึงเอาผิดสามีเจ๊นุชที่ยิงตนเองไม่ได้ ถ้าหากเจ้าของร้านฟังอยู่ ก็อยากจะบอกว่า คุณทำอาชีพร้านอาหาร ควรจะให้เกียรติไรเดอร์ ไม่ใช่มาพูดจาเหยียดหยามคนอื่นแบบนี้ พี่ต้องโพสต์คลิปไปเพราะมันสุดจะทนจริง ๆ

ด้านนางสาววันทนีย์ อายุ 18 ปี ผู้ที่ถูกหยอกด้วยการบูลลี่ เล่าว่า วันนั้นก็ไปรับออร์เดอร์ ปกติแล้วก็นั่งรออาหารอยู่ เขาถามว่าเปิดเทอมวันไหน แฟนหนูก็บอกว่าไม่ได้เรียนแล้ว เรียนไปก็หางานยาก เพราะอยู่ในยุคโควิด แล้วเขาก็พูดว่า "อยู่บ้านนอนปั๊มลูกกัน" แล้วก็หัวเราะกันสองคนผัวเมีย และอาหารก็เสร็จพอดี หนูกับแฟนก็เลยออกมา เจ้าของร้านก็ยิ้มแบบไม่ค่อยพอใจ แต่หนูก็เก็บอาการเพราะไม่อยากมีปัญหา เพราะว่าต้องทำงาน

ด้านนายนก อายุ 46 ปี เจ้าของร้านอร่อยวาริน กล่าวว่า ปกติผมก็จะพูดแหย่หยอกล้อกับไรเดอร์ แกร็บทุกคนด้วยคำแบบนั้น โดยตนถามว่า "วันนี้ไม่พาแฟนมาด้วยเหรอ" เห็นทุกวันจะพาแฟนตากแดดมาด้วย เขาบอกว่าไม่เรียนแล้ วจะเรียนไปทำไม เรียนไปไม่ได้อะไร ตนก็ฉุดคิดว่าทำไมพูดแบบนั้น พอเขารับออร์เดอร์ปุ๊บ ตนก็เลยบอกว่าช่วยกันปั๊มลูกดีกว่า แค่นั้นเอง แล้วตนก็ยิ้ม เขาก็ยิ้ม แล้วอยู่ ๆ ก็พาคนมาว่าผมที่ร้านแล้วก็มาด่าว่าตนดูถูกเมียเขา วันที่ผมพูดเขายังยิ้มอยู่เลย ตนไม่ได้ตบหน้าเขาตบใส่หมวกกันน็อก 1-2 ที

เจ๊นุช ภรรยา บอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ที่ไรเดอร์อ้างว่าตนเองและสามีไปพูดดูถูกคนนั้นคนนี้ ก็แค่หยอกกันด้วยคำดูถูกเท่านั้น เรื่องไปว่าร้านอาหารอื่นเกรดต่ำกว่าร้านตัวเอง ยอมรับว่าผิด แต่แค่พูดว่าขายของคนละอย่างเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่สามีพูดดูถูกการศึกษาของไรเดอร์ สามีแค่พูดว่า "เรียนจบมาสาขาทำอาหารมาแค่นั้นเอง" แล้วตอนที่ไรเดอร์มาทะเลาะกับสามีตามในคลิป ยืนยันว่าสามีไม่มีปืน เมื่อวานนี้สามีไม่ได้คิดจะทำร้ายไรเดอร์ตามคำกล่าวอ้าง ที่ผ่านมาสามีไม่เคยไปตามราวีไรเดอร์ แค่ไปหากินกาแฟ เรื่องโทรศัพท์เข้าไปแจ้งกับทางบริษัทของไรเดอร์ว่าไม่ขอให้ไรเดอร์คนดังกล่าวมารับอาหารที่ร้าน ก็ไม่เคยโทร ตัวไรเดอร์เองต่างหากที่ร้อนตัว โทรเข้าไปถามบริษัทเอง ยอมรับว่าตอนนี้สามีก็เครียด เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เรื่องคดีถ้าสามีกับตนเองผิด ก็ให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย