"จตุรงค์" เดือดมูลนิธิถูกบุกใส่ร้ายค้ากาม เชื่อโยงแฉเงินทอนวัดหวังดิสเครดิต (คลิป)

กรณีเฟซบุ๊กส่วนตัว นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา “Jaturong Mantaso Jongarsa” มีการโพสต์ข้อความทำนองว่า “ซ่องเต็มบางซื่อ มึงไม่เคยไปค้นแต่กลับ สนธิกำลังมาค้น มูลนิธิเอชไอวีเอเชีย The HIV Foundation Asia หาว่ามูลนิธิฯค้า ประเวณี??? #พ่-งตาย?” นั้น

วันที่ 27 พ.ค. 65 นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา เปิดเผยพร้อมแสดงภาพขณะที่เจ้าหน้าที่มีการแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นที่มูลนิธิเอชไอวีเอเชีย จากนั้น ภายหลังมีการเข้าตรวจค้นที่มีการรับแจ้ง เกี่ยวกับการกระทำผิดการค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ได้มายืนถ่ายรูปบริเวณด้านหน้ามูลนิธิฯ

นายจตุรงค์ นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ตนเองตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่มีการบุกเข้ามาตรวจค้น อ้างว่ามีการรับแจ้งเรื่องของการค้าประเวณี ภายในมูลนิธิเอชไอวีเอเชีย โดยถ้าหากบอกว่าต้องการเข้ามาทำการตรวจสอบ ทำไมไม่ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามา แต่กลับการเป็นการส่วนที่กำลังร่วมกันหลายฝ่าย ซึ่งมีทั้งตำรวจพื้นที่และกรมการปกครอง บุกเข้ามาทำการตรวจค้นลักษณะจู่โจม คล้ายกับมีของกลาง และมีการกระทำผิดภายในมูลนิธิ แต่ในการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้ามาอ้างว่ามีการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการค้าประเวณี ส่วนตัวกลับมองว่าเป็นเรื่องที่แปลก ว่ามีวัตถุประสงค์บางอย่างหรือไม่

เนื่องจากตนเองได้มีการขับเคลื่อน และออกมายื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นเงินทอนวัด จึงมองว่าอาจเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ และในการกระทำของเจ้าหน้าที่ ต้องการที่จะอ้างว่ามีการบุกจับ หรือตรวจสอบมูลนิธิที่ตนเองทำงานอยู่ ในฐานะที่ปรึกษาของมูลนิธิ และมีคนกล่าวหาว่ามีการค้าประเวณี เมื่อมีการบุกจับจะเกิดเป็นประเด็นใหญ่ แล้วกล่าวหาว่านักวิชาการหรือผู้ที่อยู่ในวงการพระพุทธศาสนา อยู่เบื้องหลังการค้าประเวณีใหญ่กับการพาดหัวข่าว "กระชากหน้ากากนักวิชาการอิสระ แท้จริงแล้วอยู่เบื้องหลังการค้ากาม" ซึ่งมองว่าอาจจะเป็นประเด็นเรื่องของการดิสเครดิตก็ได้

สำหรับในด้านของการกระทำของตำรวจพื้นที่รวมถึงกรมการปกครอง ที่อ้างว่ามีการมาตรวจหรือปฏิบัติตามข้อร้องเรียนการค้าประเวณีภายในมูลนิธินั้น ส่วนตัวมองว่าทำไมไม่พุ่งเป้าไปที่สถานบันเทิง หรือจุดที่มีการให้บริการเรื่องดังกล่าว เพราะในละแวกใกล้เคียง หรือพื้นที่อื่นก็มีอีกจำนวนมากแต่กลับไม่ถูกมอง ดันพุ่งเป้ามาที่มูลนิธิช่วยเหลือทางสังคม ส่วนกรณีที่ตัดสินใจไปเปิดมูลนิธิเอชไอวีในพื้นที่ที่ใกล้กับย่านสถานบริการ ที่มีความเสี่ยง ทั้งชายรักชายและหญิงรักหญิง เป็นเพราะว่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่จะมีคนมาขอใช้บริการฟรีกับทางมูลนิธิในการตรวจหาเชื้อเอชไอวี และโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมาย จึงยอมที่จะไปเปิดมูลนิธิย่านใจกลางสถานบันเทิงและร้านอบนวด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มเป้าหมายที่จะมาขอรับบริการเรื่องของเจลและถุงยางอนามัยฟรี

รวมทั้งสามารถมาขอตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ฟรีเช่นกัน และยังมีการติดตั้งป้ายที่ชัดเจน เกี่ยวกับงานที่ให้บริการของมูลนิธิ และการที่ตนเองเป็นที่ปรึกษาให้กับมูลนิธิดังกล่าว ก็ไม่ได้มีค่าตอบแทนหรือเงินเดือน แต่ไปทำงานอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ได้รับเงินจำนวน 1,000 บาทต่อครั้ง ฉะนั้นจึงปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ที่มีตำแหน่งแล้วรับเงินเดือนหลักแสนบาท

นายจตุรงค์ กล่าวถึงกรณีการตกแต่งสถานที่รวมทั้งการใช้ป้ายสำหรับโปรโมตมูลนิธิฯ ลักษณะใช้ภาพของเด็กผู้ชายมีการโชว์กล้าม รวมทั้งมีการตกแต่งคล้ายกับสถานบันเทิงเล็กน้อย ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็เพื่อที่จะลดความตึงเครียด หรือลดความกดดันของผู้ที่มาขอใช้บริการ ทั้งนี้การใช้ภาพดังกล่าวก็ไม่ได้ผิด เพราะถ้าหากจะใช้ภาพวัดหรือการแต่งกายที่มิดชิดมาโปรโมต ให้ย้อนถามว่าแล้วใครจะมาใช้บริการ ฉะนั้นมันจึงย้อนกลับไปหากลุ่มที่เข้ามาตรวจค้นว่าต้องการอะไร และมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ขณะที่ชาวบ้านใกล้มูลนิธิฯ ยืนยันว่ามูลนิธิทำงานเพื่อสังคม ไม่ได้เปิดขายบริการ ขึ้นป้ายและใช้ภาพคล้ายกับสถานบันเทิง อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับร้านดั้งเดิมที่มีอยู่ จึงแจ้งให้ตรวจสอบหรือไม่ ภายในเป็นสถานที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเอชไอวี และเพศสัมพันธ์ ไม่มีเรื่องของการค้ากามเหมือนกับสถานบริการค้ากามที่ยังไม่มีการตรวจค้นแน่นอน