ยามโฉดขืนใจสาวคาห้องน้ำ สุดแสบล็อกเป้าคนสวยที่เดินผ่าน เมียปัดพาหนีแค่ส่งนอน รร. (คลิป)

ความคืบหน้ากรณีตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา จับกุมตัว นายธินรา ดำดวง อายุ 30 ปี เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารเเห่งหนึ่ง ย่านคลองสาน หลังก่อเหตุข่มขืนพนักงานร้านสะดวกซื้อ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึก วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาทำทีเลือกซื้อสุราในร้าน จากนั้นได้นำใส่รถเข็น เข็นลงไปชั้นล่างของอาคาร และทางผู้ต้องหาได้ย้อนขึ้นมาเลือกซื้อสินค้าอีกครั้ง

พร้อมบอกทางผู้เสียหายว่า ให้ไปเก็บรถเข็นที่ชั้นล่าง ซึ่งระหว่างที่ทางผู้เสียหายกำลังเดินไปเอารถเข็นมาเก็บ ทางผู้ต้องหาได้เดินตามไปด้วย จากนั้นได้ฉุดกระชากผู้เสียหาย เข้าไปในห้องน้ำ และลงมือข่มขืนผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายพยายามหลบหนีแต่ไม่สำเร็จ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป กระทั่งวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ตำรวจชุดสืบวนสามารถตามจับกุมตัวได้

ล่าสุด วันที่ 21 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ อยู่ภายในอาคารเเห่งหนึ่ง ย่านคลองสาน กทม. ลักษณะเป็นตึกขนาดใหญ่ ภายในมีร้านสะดวกซื้อ สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณห้องน้ำของชั้นใต้ดิน จากการสอบถามพนักงานในร้านสะดวกซื้อ ได้รับข้อมูลว่าผู้เสียหายสภาพจิตใจยังย่ำเเย่ หลังเกิดเหตุไม่กล้ามาทำงานอีกเลย

เพื่อนร่วมงานของผู้ต้องหา คือ นายตี๋ เปิดเผยว่า นายธินรา ผู้ต้องหา เป็นหัวหน้า รปภ. ทำงานที่นี่มานาน ลักษณะนิสัยเป็นคนนิ่ง ๆ อัธยาศัยดี เเต่มีพฤติกรรมเจ้าชู้ ชอบจีบผู้หญิงไปเรื่อย โดยเฉพาะพนักงานร้านสะดวกซื้อ หรือพนักงานในบริษัท หากใครหน้าตาดี ผู้ต้องหาก็จะมาสั่งลูกน้องที่เป็น รปภ. ว่าห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น เเล้วผู้ต้องหาก็จะพยายามหาเฟซบุ๊กของผู้หญิงที่เล็งไว้ เเล้วก็ทักไปจีบ ซึ่งส่วนมากผู้หญิงก็จะไม่เล่นด้วย ผู้ต้องหาก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อย ๆ เเต่ไม่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน

จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 18 พฤษภาคม มีตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงทราบว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนกันเกิดขึ้น ส่วนผู้ต้องหาเเละภรรยา ก็หายไป ไม่สามารถติดต่อได้ นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้บล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกไลน์ของเพื่อน ๆ ที่เคยติดต่อทั้งหมดด้วย ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว ตนมองว่าเป็นภัยกับสังคม เพราะผู้ต้องหามีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย เเต่กลับมาก่อเหตุเสียเอง

ภรรยาของผู้ต้องหา คือ น.ส.อร อายุ 26 ปี ยังอยู่ในอาการเครียด ร้องไห้ตลอดเวลา เปิดเผยว่า ตนเองอยู่กินกับสามีมานาน มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ ในเรื่องความเป็นอยู่สามีดูเเลครอบครัวดีมาก เเต่ในเรื่องนิสัย สามีเป็นคนเจ้าชู้ เคยนอกใจหลายครั้ง เเต่ตนก็ให้อภัย เเละทนอยู่เพื่อลูก

โดยวันเกิดเหตุ หลังจากสามีเลิกงานในช่วงเย็น ก็ออกไปดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน จนช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. สามีไม่กลับห้องสักที จึงออกไปตามหา จนไปเจออยู่ในตึกที่เกิดเหตุ ตนก็ถามว่ามาทำอะไรที่นี่ สามีก็บอกว่าเเวะมาหาเพื่อนเฉย ๆ หลังจากนั้นสามีก็ขี่จักรยานยนต์พาตนออกมาจากตึก เเล้วพาไปเปิดโรงเเรมนอน ตนก็พยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่กลับห้อง สามีก็ไม่ยอมพูดความจริง บอกเเค่ว่ายังกลับห้องไม่ได้ ยังไปทำงานไม่ได้ พร้อมกับยึดโทรศัพท์ของตนไว้ด้วย เเละสั่งว่าถ้ามีใครโทรเข้าอย่ารับ ซึ่งตนก็เกิดความสงสัย เเต่สามีก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งวันที่ 20 พฤษภาคม ตำรวจมารวบตัวจึงทราบว่าไปก่อคดีข่มขืนมา ตนเองก็พยายามถามสามีว่าทำจริงหรือไม่ สามีก็ยอมรับว่ามีการฉุดกระชากผู้เสียหายจริง

น.ส.อร กล่าวว่า ความรู้สึกตอนนี้เสียใจมาก ไม่คิดว่าสามีจะกล้าก่อเหตุขนาดนี้ ยืนยันว่าไม่ได้พาสามีหลบหนี เเละไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ เพราะหากตนรู้ความจริงตั้งเเต่เเรก ก็คงเเจ้งตำรวจด้วยตัวเอง เพราะตนก็รับไม่ได้กับเรื่องเเบบนี้