สาวช้ำแม่พาผัวใหม่ยิงถล่มบ้านสางแค้นลูกตายสองศพ แฉเสี้ยมญาติตัดขาด (คลิป)

วันที่ 19 พ.ค.65 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ชื่อ อ้อน ‘ น” โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด ลักษณะผู้หญิงขับรถจักรยานยนต์ โดยมี ผู้ชายซ้อนท้าย และมีเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น ก่อนจะขับออกไป โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่า ทางด้าน น.ส.อ้อมเดือน เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. โดยมีนายศักดิ์ดา ผู้ก่อเหตุ ซ้อนท้ายรถมา เมื่อขับรถเข้ามายังในพื้นที่ก็ได้นำอาวุธปืนยิงเข้าใส่บ้านหลังดังกล่าว 1 นัดดังสนั่น ก่อนขับรถออกจากบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อหลบหนี

ทีมข่าวเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ร้านสากลรับซื้อรถเก่า หมู่ 1 ต.บางเดือน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยจะเห็นว่าเป็นร้านรับซื้อรถเก่าขนาดใหญ่มีทางเข้าทางออกทางเดียว โดยจุดที่นางสาว อ้อมเดือน ขับรถจเข้ามาจอด บริเวณใกล้จุดที่ ทางด้านนายสากล นั่งอยู่ เพียงไม่นาน นางสาวอ้อมเดือนวกรถย้อนออกไปประตูทางออก ก่อนที่นายสากลจะเดินออกมาประมาณ 5 เมตร เห็นนายศักดิ์ดา หันปืนยิงมาทางบ้าน

น.ส.อรพิม หรือ น.ส.อ้อน อายุ 17 ปี ลูกสาวนางสาวอ้อมเดือน ระบุว่า แม่ของตนเองนั้นมีสามีทั้งหมด 4 คน โดยมี 1. นายเรืองศักดิ์ ชัยชำนะ อายุ 40 ปี สามีคนที่ 1 พ่อของตนเอง 2.นายสิทธิพงษ์ นุ่นทอง อายุ 35 ปี สามีคนที่ 2 พ่อ ด.ญ.สุชาวดี 9 ปี
3.นายศักดา มีอนันต์ อายุ 33 ปี สามีคนที่ 3 พ่อของ น้องเปเล่ วัย 2 ปี และน้องคทาวุธ วัย 3 ปี คนที่เสียชีวิต 4.นายโอ๋ สามี 4 สามีใหม่ของแม่ เป็นคนที่ น.ส.อ้อมเดือนพาน้องเปเล่ วัย 3 ปี ไปอยู่ด้วยก่อนเสียชีวิต

วันที่เกิดเหตุ ตนเองเห็นนางสาวอ้อมเดือน แม่ของตนเองขับรถ จยย. เข้ามาที่บ้าน โดยมีนายศักดิ์ดา ผู้ก่อเหตุ สามีคนที่ 3 ซ้อนท้ายรถมาด้วย และเข้ามาตะโกนด่าว่าตนเอง "มึงจะตามหาน้อง 9 ขวบทำไม มึงอยากตายโหงหรอ" ขณะที่ตนเองกำลังจะตอบ หันไปเห็น นายศักดิ์ดา สามีคนที่ 3 ของแม่กำลังจะทำอะไรบางอย่างเหมือนชักอาวุธปืน ตนจึงแอบใต้โต๊ะตะโกนบอกคนที่บ้าน

ต่อมาตาของตนเอง นายสากล ก็ยืนขึ้นดู และแม่ของตนเองเห็นตาก็ตกใจขับรถหนีไป นายศักดิ์ดาก็หันหน้าคว้าปืนยิงเข้ามาที่บ้าน 1 นัด ก่อนรถจะขับออกไป ซึ่งสาเหตุที่ตนเองตามหา ด.ญ.สุชาวดี วัย 9 ปี เนื่องจากว่าน้องก็เป็นน้องของตนเองเหมือนกัน ตนเองรักมาก ซึ่งตอนนี้น้องไปอยู่ที่ไปตนเองก็ไม่รู้ เพราะก่อนหน้าเคยอยู่กับตนเอง ก่อนที่นางสาวอ้อมเดือน แม่ตนเองจะพาน้องออกไปจากบ้าน และชอบใช้ให้น้องสุชาวดี วัย 9 ปี ทักข้อความมาด่าตนเองว่าตนเองเป็นคนทำน้องทั้ง 2 คนตาย ซึ่งตนเองไม่เคยโกรธน้องเพราะรู้ว่าแม่ตนเองแน่นอนที่สอนให้น้องทำเช่นนี้ แม่ตนเองเป็นคนขี้โมโหอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย อะไรไม่เข้าหู เพียงนิดเดียวก็ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

อีกทั้ง นายศักดิ์ดา ผู้ก่อเหตุ นิสัยอารมณ์รุนแรง โกรธโมโห ทะเลาะกับแม่เป็นประจำ ทุบตีแม่บ่อยครั้ง แทบบางตาย ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงอยู่กับคนนั้น ซึ่งน้องซูโม่และเปเล่ ตนเองและแฟนก็ช่วยกันเลี้ยงเด็ก โดยน้องซูโม่ เป็นเด็กซนชอบเดินไม่อยู่กับที่ จนกระทั่งล้มชนประตู และแม่ชอบใช้มือตีเข้ากลางหลังน้องซูโม่อย่างแรงบ่อยครั้ง และน้องก็ล้มไปกับพื้นบ่อยครั้ง จนอาการบอบช้ำ และเสียชีวิต

ซึ่งน้องทั้ง 2 คนนั้น แม่ตนเองเป็นคนเอาน้องไปอยู่ด้วยตั้งนาน จนเกิดเหตุเสียชีวิต ตนเองก็อยากทราบเหมือนกันว่ารอยช้ำต่าง ๆ มาได้อย่างไร แต่แม่ตนเองไปบอกกับ นายศักดิ์ดาว่ารอยช้ำมาจากบ้านตนเอง ขณะที่ตนเองดูแล ตนเองมองว่า เหตุที่เขาเข้ามาบุกอาจจะเพราะเขาโกรธแค้นที่คงคิดว่า ครอบครัวตนเองเป็นเหตุทำให้ลูกของนายศักดิ์ดา เสียชีวิต ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย อีกทั้งยอมรับว่า ตนเองทราบมาก่อนที่นายศักดิ์ดาคลั่งชอบสร้างความวุ่นวาย เนื่องจากตนเองเคยอยู่บ้านกับนายศักดิ์ดาและแม่ ประมาณ 2 ปี โดย นายศักดิ์ดามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และมาอาละวาดพังหลังคาบ้าน เอาปืนยิงหลังบ้าน จนถูกจับเข้าคุกในคดียาเสพติดเมื่อประมาณ ปี 2563 และเพิ่งออกจากคุก ปี 2564 ที่ผ่านมา

อีกทั้งที่ นาย ศักดิ์ดา โทษแฟนตนเองว่าทำลูกเขาตายนั้น เพราะ นายศักดิ์ดา ไม่ถูกกับแฟนตนเอง เพราะเขาหลอนยาและคิดว่า แม่ของตนเองไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับแฟนตนเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ยอมรับว่าตอนนี้กลัวและกังวลมาก อยู่อย่างหวาดระแวงมาโดยตลอด เพราะไม่รู้ว่าครั้งไหนที่นายศักดิ์ดาจะอาละวาดและก่อเหตุเช่นนี้อีก

ล่าสุด พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สภ.บางมะเดื่อ ห้ข้อมูลว่าทางเจ้าพนักงานตำรวจได้แจ้งข้อหา นายศักดา มีอนันต์ อายุ 33 ปี และนางสาวอ้อมเดือน สุขทอง อายุ 34 ปี ในข้อหาบุกรุกฯ และขู่เข็นให้ผู้อื่นตกใจกลัว ร่วมกันพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมกันครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้องส่งศาลจ.สุราษฎร์ธานี ฝากขังแล้ว

นางอุทัย สำราญจิต อายุ 63 ปี ระบุว่า เมื่อวันที่เกิดเหตุ นายศักดิ์ดา ลูกชายของตนเอง อยู่บ้านพร้อมกับนางสาวอ้อมเดือน ภรรยาลูกชายตามปกติ ตนเองก็เห็นไม่มีพฤติกรรมผิดแปลก แต่ตลอดระยะเวลาตั้งแต่หลานทั้ง 2 คน น้องเปเล่ และน้องคทาวุธ เสียไปนั้น ลูกชายตนเองพร่ำพูดบ่นคิดถึงลูกเป็นประจำ โดยในเมื่อวานลูกชายตนเองพูดถึงลูกที่เสียไปกับนางสาวอ้อมเดือน และหลังจากนั้นก็ขับรถออกไปจากบ้าน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าออกไปตอนไหน และเพียงไม่นานก็ขับรถกลับเข้ามาในบ้าน ตามปกติ ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน

จนเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาควบคุมตัวลูกชายซึ่งตนเองสับสน ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไร แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวทั้ง 2 คนออกไปยังสถานนีตำรวจ โดยมาถ่ายรูปเท่านั้น ปส่วนเรื่องปืนไม่มีแน่นอน เพราะลูกชายตนเองชอบประดิษฐ์ ชอบทำระเบิดปิงปอง ตนเองคาดว่าไม่ใช่ปืนอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยเห็นลูกชายพกอาวุธปืน ขณะที่มาควบคุมตัวลูกชายตนเองก็ได้พูดปัดบอกว่าเป็น ระเบิดปิงปองไม่ใช่ปืน

ตนเองคิดว่าลูกชายตนเองอาจจะโกรธแค้นโมโหครอบครัวของภรรยาที่มีคนทำให้เด็กทั้ง 2 เสียชีวิต ตนเองยังรู้สึกเสียใจที่หลานทั้ง 2 คนเสียไป ซึ่งทางครอบครัวฝั่งนั้นก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำร้าย อีกทั้งยืนยันว่าลูกชายตนเอง และนางสาวอ้อมเดือน ทะเลาะกันตามประสาสามีภรรยา ตบตีกันบ้าง แค่ไม่เคยทำร้ายร่างกายไม่เคยตีเด็ก และยอมรับลูกชายตนเองเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ยันยันสถานะของ 2 ครอบครัวก็ยังรักกันดี ใจก็อยากจะประกันลูกชายและภรรยา แต่ตนเองก็ไม่มีเงิน