สาวเลิกแฟนดิ่งตึก 26 ฟาดกิ่งไม้ขาขาดนอนรอรพ.2ชม.สุดท้ายต่อไม่ได้ กู้ภัยพ้อถูกด่า งัดกล้องยันปัดช้า (คลิป)

16 พ.ค. 65

กรณีเหตุเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 65 เวลา 02.30 น. ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวพัดตกจากระเบียงคอนโดชั้น 26 ของคอนโดแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง 2 ที่เกิดเหตุ มีต้นไม้ใกล้กับระเบียงคอนโดหักเสียหาย พบร่างของคนเจ็บนอนอยู่ใต้ต้นไม้ สภาพขาซ้ายบริเวณใต้หัวเข่าลงไปถึงเท้าขาดออกจากกัน ส่วนขาขวาหัก บริเวณไหล่ขวาหัก และตามร่างกายมีร่องรอยแผลถลอก นอนไม่ได้สติอยู่บริเวณใต้ต้นไม้

419982

 

จากการตรวจสอบพบว่าคนเจ็บร่วงลงมาจากระเบียงคอนโดชั้น 26 ตกลงมาบนต้นไม้ ทำให้เกิดแผลฉีกขาดและขาขาด ทราบชื่อคนเจ็บในเวลาต่อมา คือ นางสาวพิมพ์ชนก อายุ 22 ปี ชาว จ.มหาสารคาม

926273

วันที่ 16 พ.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ภายในซอยรามคำแหง พบว่าเป็นคอนโดขนาดใหญ่มีหลายอาคารชุด ที่เกิดเหตุคืออาคาร A สูงที่สุดและมีชั้นสูงถึง 30 ชั้น

772671

ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากนิติของคอนโดฯ ยืนยันว่า ในคืนวันเกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัย ว่ามีนายชาน สัญชาติอิหร่าน ขอความช่วยเหลือพนักงานรักษาความปลอดภัย เนื่องจากทะเลาะมีปากเสียงกับหญิงสาวชาวไทย คือ นางสาวพิมพ์ชนก อายุ 22 ปี ภายหลังเคลียร์กันไม่ได้

ช่วงที่ชายชาวต่างชาติลงมาขอความช่วยเหลือ หญิงสาวที่ทะเลาะมีปากเสียงด้วยกันตัดสินใจกระโดดลงมาจากหลังระเบียงชั้น 26 ซึ่งในตอนนั้นทราบว่าตัวของชายชาวต่างชาติไม่ได้อยู่ด้วยในช่วงที่ก่อเหตุ อยู่บริเวณด้านล่าง เพราะมาขอความช่วยเหลือกับพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนสาเหตุเชิงลึก ทางนิติบุคคลยังไม่ทราบ

239448

ทีมข่าวได้ฟังเสียงคำยืนยันจากเพื่อนคนสนิทของนายชาน สัญชาติอิหร่าน เล่าเรื่องราวระบุว่า ผู้ชายได้เดินทางมาอยู่ที่ประเทศไทย รู้จักกับคนเจ็บ มีการคบหาดูใจกันระยะหนึ่ง ครอบครัวของฝ่ายชายไม่ชื่นชอบในตัวของผู้หญิง และรับไม่ได้ จึงอยากจะให้มีการเลิกลากัน ฝ่ายชายจึงตัดสินใจบอกความจริง แต่ตัวของผู้หญิงรับไม่ได้ คาดว่ามีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

738561

 

นายบัง (นามสมมติ) เพื่อนคนไทยที่รู้จักกับฝ่ายชาย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุตนเองก็ทราบรายละเอียดโดยเบื้องต้นว่า ตัวของฝ่ายชายซึ่งเป็นคนสัญชาติอิหร่าน และมีศาสนาเป็นอิสลาม แต่ด้วยผู้หญิงเป็นคนไทย และอาจเป็นศาสนาพุทธ โดยการคบหากันนั้น อาจจะต้องมีการเปลี่ยนศาสนาและที่สำคัญ ด้วยหลักของชาวอิหร่านมักจะเคารพ และเชื่อในตัวของพ่อแม่ ในเมื่อพ่อแม่อาจจะไม่ชอบในตัวของฝ่ายหญิง หรือไม่พร้อมที่จะให้คบหาหรือแต่งงานกัน ต้องให้ฝ่ายชายออกห่างจากผู้หญิง ดังนั้นฝ่ายหญิงอาจจะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่ถูกฝ่ายชายปฏิเสธความรัก จึงได้มีการก่อเหตุดังกล่าว

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ล็อบบี้ของคอนโดมิเนียม ฝ่ายชายชาวอิหร่านตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับนางสาวพิมพ์ชนก คนเจ็บ มีการทะเลาะและมีปากเสียงกันที่ล็อบบี้ มีเพื่อนคนสนิทและตนเองเข้าไปช่วยระงับเหตุ แต่ก็ไม่ได้มีเหตุรุนแรงจนกระทั่งช่วงคืนของวันที่ 15 พ.ค. ผู้หญิงได้นัดพูดคุยกับฝ่ายชาย ตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายชายมาขอความช่วยเหลือข้างล่าง แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงตัดสินใจที่จะก่อเหตุกระโดดระเบียง คืนดังกล่าวตนเองขอยืนยันว่าฝ่ายชายไม่ได้มีการก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับการนำส่งตัวคนเจ็บล่าช้า เพราะเนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นเอกชนและรัฐบาล ในละแวกย่านรามคำแหงปฏิเสธที่จะรับการรักษา ส่วนตัวมองว่ามุมหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิ์การรักษา เพราะบางครั้งการนำผู้ป่วยเจ็บหนักและมีอาการถึงขั้นขาขาด เข้ารับการรักษาอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยตนเองมองว่าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของธุรกิจ คงมองว่ารักษาแล้วจะได้รับเงินหรือไม่ มากกว่าจะต้องช่วยคนเจ็บก่อน มุมเรื่องของสิทธิมนุษยชนก็อาจจะแลดูไม่สมเหตุสมผล เพราะโรงพยาบาลก็ต้องมีหน้าที่ในการรับรักษาผู้ป่วย มากกว่าการปฏิเสธแบบนี้

648809

นายสมเกียรติ ใจกล้า และนายเฉลิมนาถ โฆษ์สงวน ทีมกู้ภัยที่เข้าไปปฐมพยาบาล เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุจากทางวิทยุ ช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. จากจุดที่มีการสแตนด์บายไปถึงที่เกิดเหตุไม่เกิน 5 นาที คาดว่าไปถึงในเวลา 02.35 น. ไปถึงได้เจอร่างของนางสาวพิมพ์ชนกนอนอยู่ใต้ต้นไม้ บริเวณด้านล่างของคอนโดฯ สภาพตกลงมาจากระเบียงห้องกระแทกกิ่งไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างจะลงมานอนกองอยู่บนพื้นหญ้า ขาข้างซ้ายบริเวณใต้หัวเข่าขาดออกจากกัน ส่วนขาขวาหัก และไหล่ขวาหัก ตามตัวมีแผลถลอกและช้ำ สังเกตเห็นชายชาวต่างชาติ ยืนให้การและให้ข้อมูลกับพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วยอาการตกใจ ยังไม่ทราบเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีการทะเลาะและมีปากเสียงกันก่อนที่จะเกิดเหตุ

244729

หลังจากนั้นทีมอาสากู้ภัยได้มีการประสานรถฉุกเฉินของเอราวัณ เป็นศูนย์ฉุกเฉินของกรุงเทพมหานคร เข้ามารับตัวของคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เพราะการทำหน้าที่ของอาสากู้ภัยจะเข้ามาเก็บดำเนินการผู้ที่เสียชีวิตเป็นหลัก ส่วนคนเจ็บยังมีสติ จะเป็นหน้าที่ของรถเอราวัณฉุกเฉินในการพาส่งโรงพยาบาล รถของศูนย์เอราวัณก็เข้ามาถึงหลังจากที่ทีมอาสากู้ภัยถึงหน้างานทิ้งห่างไม่นาน ไม่เกิน 10 นาที แต่หลังจากนั้นได้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลทั้งเอกชนและรัฐบาล ละแวกใกล้เคียงมากกว่า 5 แห่ง ซึ่งถูกปฏิเสธ เนื่องจากสิทธิ์การรักษาของคนเจ็บอยู่ในต่างพื้นที่

620144

อีกทั้งโรงพยาบาลที่มีการประสานไปเบื้องต้นนั้น มีเคสฉุกเฉินและเคสด่วนติดอยู่จึงไม่สามารถที่จะรับเคสเพิ่มได้ เนื่องจากเคสนี้ขาขาดและสาหัส จึงทำให้ไม่สามารถที่จะติดต่อกับโรงพยาบาลและส่งต่อได้โดยทันที จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ประสานกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อที่จะส่งคนเจ็บเข้ารับการรักษา ระหว่างนั้นที่มาสากู้ภัยและรถเอราวัณได้มีการปฐมพยาบาล ตรวจชีพจร พร้อมกับมีการเก็บรักสาขาข้างซ้ายที่ขาดโดยการใส่ถุงสีแดง และแช่ในน้ำแข็งเอาไว้ เผื่อคณะแพทย์สามารถที่จะเชื่อมต่อหรือนำไปต่อกับคืนได้เหมือนเดิม

สำหรับประเด็นที่ถูกโลกออนไลน์ดราม่าเกี่ยวกับการนำส่งช้า โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษานั้น ส่วนตัวในฐานะทีมกู้ภัยที่อยู่ในที่เกิดเหตุ อยากจะชี้แจงกับสังคมว่าไม่ได้ปฏิเสธที่จะส่งตัวคนเจ็บไปโรงพยาบาล แต่เป็นขั้นตอนของการประสานก่อนที่จะนำผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลนั้น เพราะไม่สามารถที่จะขับไปส่งได้โดยที่ไม่มีการประสานล่วงหน้า ส่วนเรื่องของการปฏิเสธการรักษาของโรงพยาบาลให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณ และโรงพยาบาลเป็นคนชี้แจงเอง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส