ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของแตงโม ล่าสุดโซเชียลมีเดียได้มีการจับผิดเกี่ยวกับภาพถ่ายระหว่าง นายธนกฤต วงษ์สุวรรณ หรือบอล เจ้าของอู่ NBC มีการถ่ายภาพคู่ร่วมกับ นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด เจ้าของพัทยาวอเตอร์สปอร์ตคลับ ในฐานะตัวแทนบริษัทกามินประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความสนิทของทั้งคู่ คนหนึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของอู่เรือที่เกิดเหตุ และอีกคนหนึ่งมีสถานะเป็นคนเข้ามาดูเรื่องระบบ GPS เรือ ด้วยความรู้จักเป็นการส่วนตัว อาจจะมีการช่วยเหลือและร่วมกันปกปิดบางอย่างหรือไม่นั้น
วันที่ 25 เม.ย. 65 นายธนกฤต วงษ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของอู่เรือ NBC ชี้แจงว่า ตนเองยอมรับว่ารู้จักกับพี่อู๊ดจริง ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันก่อนที่ตัวของพี่อู๊ดจะเข้าไปทำบริษัท GPS เรือ ตนเองได้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ การทำอู่เรือ หรือแม้แต่เรื่องของการแข่งขันเจ็ตสกี ซึ่งตนเองได้รับคำแนะนำและความรู้จากพี่อู๊ดในหลายเรื่อง จนกระทั่งมีอู่เรือเป็นของตัวเอง โดยตนเองก็นับถือพี่อู๊ดเป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่ได้คลานตามท้องแม่ด้วยกันมาเท่านั้น เรื่องของความสัมพันธ์แม้ตนเองจะรู้จัก แต่เรื่องของระบบ GPS เรือไม่มีทางที่จะมีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ คนที่นำพี่อู๊ดเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคณะทำงาน ที่มีการเชิญตัวแทนบริษัทการบินประเทศไทย มีการจัดส่งพี่อู๊ดเข้ามาโหลดข้อมูลในระบบ GPS เรือลำที่เกิดเหตุ แล้วนำไปถอดรหัส อ่านค่าด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์
โดยวันที่จะรีบตำรวจประสานให้พี่อู๊ดเข้ามาโหลดข้อมูล ได้เข้ามาโหลดภายในพื้นที่อู่เรือจริง จากนั้นก็มีการเอาข้อมูลไปอ่านค่ากันที่โรงพักร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองก็ไม่ได้เห็นข้อมูลดังกล่าวว่าแสดงสถานะอย่างไรบ้าง ที่สำคัญถ้าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตไปเอง ถือว่าทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลของ GPS เรือมีความแม่นยำ และอัปเดตทุก 15 วินาที ฉะนั้นถ้าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลไม่มีใครสามารถที่จะทำได้
ตนตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า คนที่ไปอ้างว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะหยิบเอาบางช่วงหรือบางแผ่นไปนำเสนอ ซึ่งถ้าหากจะเอาข้อมูลทั้งหมดไปนำเสนอจะต้องเอาไปมากกว่า 2,000 กว่าแผ่น วันนี้จึงขอยืนยันกับสังคมว่าความสัมพันธ์และการสนับสนุนทางด้านของธุรกิจก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ส่วนเรื่องของหน้าที่และการทำงาน หรือการช่วยกันคลี่คลายคดีของแตงโม ต่างคนต่างทำ
ส่วนกรณีในวันที่ 26 เม.ย. 65 ตามรายงานข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแถลงปิดสำนวนคดี ไม่ได้กังวลว่าคดีจะมีการปิดอย่างไร แต่กังวลว่าจะมีการเลื่อนอีกรอบอีกหรือไม่ เพราะตนเองก็อยากรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งล่าสุดที่ตัวเองบอกกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ว่านายปอได้เดินทางมาหาที่อู่เรือเพื่อขอโทษ ทำให้อู่เรือได้รับผลกระทบ เจ้าตัวก็ยืนยันว่านางสาวแตงโมตกน้ำ เป็นคำพูดที่พูดเหมือนกับวันแรกที่ออกไปช่วยค้นหา ในข้อเท็จจริงในการแถลงข่าวจะเป็นไปอย่างที่พูดหรือไม่ก็ต้องรอลุ้นเหมือนกัน เพราะตนเองไม่ได้อยู่ในเรือที่เกิดเหตุ จึงไม่สามารถพูดได้
ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะได้มีการเปิดเผยว่าหากการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความชัดเจน หรือไม่เป็นไปอย่างที่นายอัจฉริยะคาดการณ์เอาไว้ จะมีการเปิดเผยคลิปหลักฐานสำคัญบางอย่างที่อ้างว่าเป็นคลิปเสียงจากคนสนิทของคนบนเรือนั้น ตนเองไม่ได้เชื่อเกี่ยวกับคลิปหลักฐานที่นายอัจฉริยะพูด ถ้าหากอ้างว่าเป็นหลักฐานสำคัญทำไมไม่เอามาเปิดเผยตั้งแต่แรก และไม่เปิดเผยต่อสังคม ทำไมต้องรอเวลา การที่เอาข้อมูลมาเปิดเผยในแต่ละอย่างก็ไม่มีความต่างไปจากสิ่งที่สังคมรับรู้ หรือเห็นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าไม่ได้มีหลักฐานสำคัญมากไปกว่าที่ตำรวจมี
ทั้งนี้ กรณีที่ทนายเดชามีการพูดถึงแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ทำนองว่าเป็นหมอผ่าตัดศพ แต่ไม่เคยจับศพแตงโม และไม่อยากให้ออกมาพูด จนทำให้สังคมคล้อยตาม ในประเด็นดังกล่าวตนเองก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามไม่ให้หมอออกมาพูดหรือออกมาวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่การที่หมอออกมาให้ข้อมูลก็ทำให้สังคมรู้อะไรบางอย่าง แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นไปอย่างที่หมอตั้งข้อสังเกตหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคณะทำงานและข้อมูลหลักฐานที่ตำรวจมี โดยหลายอย่างที่หมอออกมาแสดงความคิดเห็นก็ทำให้ภาคประชาชนรวมถึงตนเองก็รับรู้และได้เข้าใจในหลายสิ่ง ซึ่งก็ถือว่าไม่เป็นเรื่องที่ผิดที่หมอจะออกมาแสดงความคิดเห็น
