โผล่แล้ว! เจ้าหนี้ผัวเมียพาลูกหนีไปตุรกี แฉอ้างเป็นจนท.กองทุนทำสูญ 1.5 ล้าน (คลิป)

จากการหายตัวไปของนายนิรุตน์ หรือ ติ อายุ 41 ปี, นางสาวนฤมล หรือ อุ๊ อายุ 41 ปี พร้อมด้วย, ด.ช.นฤเบศก์ อายุ 12 ปี และ ด.ญ.หริญดา อายุ 7 ปี ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 65 ครอบครัวแจ้งความเพราะเป็นห่วงที่หายตัวไป และช่วยกันตามหา

ต่อมามีรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าทั้ง 4 คน เดินทางไปที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ด้วยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK 0069 เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 65 เวลา 20.30 น.

ขณะที่มีผู้เสียหายที่ให้นางสาวนฤมลกู้ยืมเงินและนำเงินมาลงทุนหลายราย ล่าสุด ผู้เสียหายรายหนึ่ง เล่าว่า ตนเริ่มต้นลงทุนกับนางสาวนฤมลตั้งแต่ ธ.ค. 64 เริ่มจาก 5 แสนบาท และทยอยเพิ่มขึ้น พราะเชื่อใจนางสาวนฤมล จากนั้นได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน ร่วมลงทุนจนมียอดเงินสูงถึง 1.5 ล้านบาท ด้รับผลตอบแทน 2-3 เปอร์เซ็นต์จากเงินต้น ก็ได้รับเงินคืนมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะนี้ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 65 ข้อหาหมิ่นประมาทและฉ้อโกง เนื่องจากนางนฤมลแอบอ้างชื่อตนเองว่าเป็นผู้ดูแลกองทุนใน อ.บ้านด่านลานหอย ทำให้เสียชื่อเลียง โดยตนเองไม่รู้เรื่องเลย

ส่วนเจ้าหนี้ของนางสาวนฤมลนั้น ทราบว่ายังมีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม มียอดหนี้ตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท รวมยอดกว่า 20 ล้านบาท มีทั้งข้าราชการ แม่ค้า ชาวบ้าน บางคนได้ผลกำไรมาบ้าง บางคนลงทุนไปยังไม่ได้เงินกำไรคืน และกำลังรวมตัวกันหาหลักฐานต่าง ๆ เพื่อแต่งตั้งทนายความเข้าแจ้งความเอาผิดต่อไป

ขณะเดียวกันหลังจาก พ.ต.อ.สายัณห์ จันทร์แจ่มกระจ่าง ผู้กำกับ สภ. บ้านไร่ ยืนยันสาเหตุการหายตัวไป มีการระดมทุนมาจากชาวบ้าน นายทุนหลายอำเภอใน จ.สุโขทัย จำนวนหลายราย และมียอดเงินหลายล้านบาท เพื่อเอาเงินไปให้ชาวบ้านกู้อีกทอดเพื่อใช้หนี้กองทุน ซึ่งเริ่มมีผู้เสียหายทยอยออกมาแฉพฤติกรรมกลโกงจำนวนไม่น้อย

ทีมข่าวเดินทางต่อเนื่องไปยังบ้าน น.ส.น้ำ หมู่ 5 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทราบว่าเป็นคนที่รวมเงินจากญาติที่อยากลงทุน รวมถึงเงินของนายศักด์ ไประดมให้ น.ส.นฤมล ยอดประมาณ 7 ล้านบาท แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับไม่พบตัว พบเพียงญาติต่อสายให้พูดคุยซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธ บอกเพียงว่ารอพูดครั้งเดียวหลังได้ข้อมูลยืนยันว่า น.ส.นฤมล หนีและจะไม่กลับมา

นายโมก (นามสมมติ) ญาติ น.ส.น้ำ หนึ่งในผู้เสียหาย ไม่ทราบข้อมูลญาติว่าได้รับความเสียหายการระดมทุน บอกว่าในพื้นที่หมู่ 5 ยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายจริงกี่ราย ส่วน น.ส.น้ำ ตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งต่างคนต่างอยู่ ไม่รู้ว่าตกเป็นผู้เสียหายด้วยหรือไม่ แต่หากตนโดนโกงเงินไปจำนวนมากมายขนาดนี้ ตนแจ้งความแล้ว จึงมองว่าหากมีนายทุนเสียหายกันจริงก็อยากให้เคลียร์ เพราะเงินหายาก

แต่ขณะเดียวกันก็แปลกใจทำไมไม่ยอมออกมาดำเนินการทางกฎหมาย เพราะยอดเงินที่เป็นข่าวเยอะมาก และความจริงยอดเงินที่เป็นข่าวนั้นเป็นเงินใครบ้าง เป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงไม่ยังกล้าแสดงความคิดเห็นถึงปมระดมทุนเป็นเหตุให้ทั้งคู่พาลูกหนี ส่วนตัวยอมรับว่ารู้จักนายนิรุตน์ ฐานะที่ตนเป็นพ่อค้าวัว โดยนายนิรุตน์เข้าหาตน ซึ่งไม่มีเงินทุน แต่อยากรับจ้างเลี้ยงวัวขุนปลายน้ำให้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนจึงให้เลี้ยง 20 ตัว นายนิรุตน์จะได้ค่าเลี้ยงต่อเดือนต่อตัว 800 บาท แต่ประสบปัญหาราคาตก จึงว่าจ้างกันแค่ 3 เดือน แม้นายนิรุตน์อยากจะทำต่อแต่ไม่มีวัวให้เลี้ยงแล้ว จึงไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ทั้งนี้ ในช่วงที่ทำธุรกิจวัวด้วยกัน นายนิรุตน์ไม่เคยชักชวนลงทุนเงินกู้แม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีเบาะแสหรือมีพิรุธเรื่องระดมเงินเลย อีกทั้งนายนิรุตน์เป็นรุ่นน้องหากินเก่ง มีพ่อหรือนายล้วนเป็นถึงอดีตกำนัน มีกิจการมากมาย ดังนั้นหลังทราบข่าวว่านายนิรุตน์หายไปตนก็ติดตามในฐานะคนเคยรู้จักกัน เพราะป็นห่วงกลัวว่าจะไปประสบอุบัติเหตุ แต่เมื่อทราบว่าอยู่ตุรกี ก็เฉย ๆ และไม่ได้ตามข่าวอีก