กรณีนางโสภา หงษ์ทอง โพสต์เฟซบุ๊กหลอกลวงประชาชน โดยใช้ชื่อของลูกชายของตัวเองโพสต์ว่า "แม่ได้กินยาฆ่าตัวตาย และเสียชีวิตลงแล้ว" ทำให้ประชาชนที่เห็นโพสต์ดังกล่าวรู้สึกสงสารและแห่ช่วยกันโอนเงินบริจาคเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ออกมาแฉว่านางโสภา ไม่ได้เสียชีวิตจริง ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 21 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของนางโสภา พบว่านางโสภา ไม่อยู่บ้านแล้ว และไม่มีใครติดต่อได้ บริเวณหน้าบ้านพบว่าถูกล็อกปิดเงียบ ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของ นายนพพล ภัคพลวลีย์ กำนันตำบลสะแกราช เพราะได้เรียกให้นายสุริยา ทศกิ่ง สามีของนางโสภา เข้ามาสอบถาม และเชิญแม่ของนายสุริยา เข้ามาทำความเข้าใจช่วยหาทางกล่อมให้นางโสภาเข้ามอบตัวกับตำรวจ
นางลำไย แช่มกิ่ง อายุ 57 ปี แม่ของสามี ร้องไห้ยกมือไหว้ขอให้นางโสภา กลับมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยนางลำไย กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่สบายใจมาก ๆ ที่ลูกสะใภ้ไปหลอกเอาเงินประชาชน เพราะการหลอกเอาเงินบริจาคด้วยการสร้างเรื่องว่าตัวเองตายแล้ว และหลอกเอาเงินคนที่เห็นใจมันเป็นบาปหนักมาก ๆ หลานสาวก็ป่วยพิการมากพอแล้ว ลูกสะใภ้ทำแบบนี้ต่อไปก็จะไม่มีใครช่วยเหลืออีกแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เงินที่นางโสภาไปหลอกมาจากประชาชน ตนยืนยันว่าเขาไม่เคยมาให้ครอบครัว แต่นางโสภา จะนำเงินทั้งหมดไปเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งหากนางโสภาฟังอยู่ตนก็ขอให้รีบติดต่อมอบตัวโดยด่วน ตนพร้อมให้อภัย และหากนางโสภามอบตัวแล้ว ตนจะให้มาขอโทษ และชดใช้เงินที่หลอกมาคืนให้เหยื่อทุก ๆ คน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุริยา สามีของนางโสภา เปิดเผยว่า ตนเพิ่งมาทราบข่าวว่าภรรยาไปหลอกลวงเงินของชาวบ้าน เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนไม่เคยทราบเลยว่าภรรยามีพฤติกรรมหลอกลวง ทุกวันก็ทำงานกันปกติ แต่เขามักจะมีโรคส่วนตัวสูง เล่นโทรศัพท์บ่อย ส่วนเงินที่ภรรยได้จากการหลอกลวงกว่าครึ่งล้าน ตนไม่เคยเห็นเงินเลยด้วยซ้ำ และไม่รู้ว่าภรรยานำเงินไปทำอะไรบ้าง ตนไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าวในวันที่ 19 เมษายน 65 ภรรยาได้ขนของหนีออกไปจากบ้าน หายไปไหนก็ไม่รู้ ตนติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนก็อยากฝากไปถึงภรรยา หากฟังอยู่ขอให้เข้ามามอบตัวกับตำรวจ
นางตุ๋ย อายุ 70 ปี หนึ่งในชาวบ้านผู้เสียหาย ระบุว่า ตนถูกนางโสภา หลอกยืมเงิน จำนวน 35,000 บาท เมื่อปี 62 ขณะนั้นนางโสภา เดินทางมาขอยืมเงินถึงที่บ้าน อ้างว่าแม่ลื่นล้มในห้องน้ำหัวฟาดพื้น เส้นเลือดในสมองแตก จะต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งนางโสภาไม่เหลือที่พึ่งอื่น ๆ แล้ว ด้วยความที่ตนเห็นใจจึงยอมให้ยืมเงิน แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่นางโสภาอ้างนั้นไม่เป็นความจริง แม่ของนางโสภา ไม่ได้ลื่นล้นในห้องน้ำ ตนตกใจมากและเสียความรู้สึก จึงพยายามทวงถาม แต่นางโสภาย้ายหนีหายไปอยู่ที่อื่น จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน หากนางโสภาฟังอยู่ ขอให้ออกมารับผิดชอบด้วย
