ครั้งแรก! ทนายเอ็มเปิดหมดคุยอะไรกับปอ-โรเบิร์ตหลังแตงโมตาย ลั่นอย่าหยามศักดิ์ศรี (คลิป)

9 เม.ย. 65

วันที่ 8 เม.ย. 65 ทีมข่าวได้เดินทางไปเจอกับ นายอนุชา เพชรศิริ หรือ ทนายเอ็ม อายุ 32 ปี ทนายความ ที่ถูกโยงก่อนหน้านี้ว่าเป็นกุนซือ "นายเอ็ม 2" ในการแต่งสคริปต์ให้กับบุคคลบนเรือสปีดโบ๊ตในคดีแตงโม ตัดสินใจเปิดเผยตัวตนพร้อมกับออกมาชี้แจง รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น

765117

ทนายเอ็ม นำเอกสารการจัดตั้งบริษัท S.M.Law เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีชื่อของนายเอ็ม 1 ปรากฏว่าเป็นกรรมการหรือถือหุ้นภายในบริษัทของตนเอง เพราะชื่อในการถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทมีเพียงทนายเอ็ม และนางสาวหญิง ภรรยาของทนายเอ็มเท่านั้น มีการโชว์เอกสารยืนยันว่าเป็นทนายความที่มีการรับใบอนุญาตเป็นทนายความ หรือตั๋วเป็นทนายความมาแล้วกว่า 10 ปี แสดงให้กับทีมข่าวดู

654174

ทนายเอ็ม เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับนายเอ็ม 1 แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะนายเอ็ม 1 อายุมากถึง 41 ปี รู้จักกันในฐานะรุ่นพี่ เป็นผู้เสนองานด้านกฎหมายให้ทำเท่านั้น จึงไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว โดยปกติเวลาที่นายเอ็ม 1 มีเรื่องคดีความหรือปรึกษาทางข้อกฎหมายก็จะติดต่อมาหาทีมทนายของตนเอง เพื่อให้เข้าไปช่วยทำคดี หรืออาจจะมีทีมทนายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวกับทีมของตนเองช่วยทำคดีให้กับนายเอ็ม 1 และโดยส่วนใหญ่ตนเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวมีนิสัยใจคอเป็นคนอย่างไร พอจะทราบเบื้องต้นว่าอาจเป็นบุคคลที่เรียนทางบ้าน แต่ไม่ได้เป็นทนายความ

หลังจากที่เดินทางเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ระหว่าง 5-9 มี.ค. 65 ในฐานะที่ตนก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นกุนซือ ก็ต่างฝ่ายต่างให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไม่ต่างกัน แต่สุดท้ายปรากฏว่ามีการเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาในฐานะกุนซือ ตนเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่ามีความเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใดกับบุคคลบนเรือ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนายเอ็ม 1

826599

หากย้อนกลับไปในวันที่ 25 ก.พ. 65 จำได้ว่าเป็นช่วงเวลาหลังตี 1 นายเอ็ม 1 ได้โทรศัพท์เข้ามาหาตนเองที่เบอร์ส่วนตัว ตอนนั้นตนเองเข้านอนแล้วอยู่กับภรรยา เจ้าตัวฝากบอกว่าอยากให้ไปรับฟังความจากลูกความคนหนึ่ง พร้อมกับมีการส่งลิงก์การไลฟ์เหตุการณ์ ในคืนนั้นตนเองก็ยังไม่ทันได้เปิดดูว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ดูเพียงแค่หัวข้อว่ามีคนตกเรือ และช่วงเวลาหลังตี 2 เป็นช่วงเวลาประมาณ 02.47 น. นายเอ็ม 1 ได้มีการส่งข้อความมาหาในไลน์ ระบุว่า "10.00 น. จัดทนายพี่สักคนครับ สถานที่เดี๋ยวแจ้งอีกทีนะครับ ประสานให้คุณ...เลย" ตนเองจึงตอบกลับไปว่า "ได้ครับพี่เอ็ม พรุ่งนี้เดี๋ยวผมแวะไป" โดยเนื้อหาการพูดคุยและข้อความแชตดังกล่าว ตนเองได้นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนที่มีการสอบปากคำในวันดังกล่าวแล้ว

378645521692

จากข้อความที่ระบุว่า "พรุ่งนี้จัดทนายให้หน่อย" เข้าใจว่าที่มีการส่งข้อความเป็นคืนของวันที่ 25 ก.พ. วันพรุ่งนี้หมายถึงวันถัดไปคือวันที่ 26 ก.พ. แต่ความเป็นจริงแล้วตัวของนายเอ็ม 1 ต้องการที่จะนัดหมายให้เจอกันเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 ก.พ. คือตอนเช้า ด้วยในวันดังกล่าวตนเองติดงานที่ศาลจึงทำให้ไม่ว่างที่จะไปรับฟังลูกความหรือเนื้อหาตามที่นายเอ็มประสานมา อีกครั้งในออฟฟิศของตนเองมีทนายความอีก 7 คนก็ติดว่าความทั้งหมด

435096622863

จนกระทั่งหลัง 12.00 น. ตนเองเสร็จงานที่ศาลอาญารัชดา จึงได้ติดตามการทำงานของทีมทนายคนอื่นในทีมสำนักงาน ปรากฏว่าในขณะนั้นมีทนายเบนซ์ และทนายริว เสร็จงานก่อน จึงให้เดินทางไปล่วงหน้าเพื่อเจอกับคนบนเรือที่นัดไว้ที่ร้านอาหารทองหล่อ สุขุมวิท แล้วตัวเองเสร็จงานช้าจึงเดินทางตามหลังไป ทิ้งห่างประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เมื่อเดินทางไปถึงทีมทนายของตน ได้มีการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ตนเองจึงได้ไปพูดคุยซ้ำ เพื่อสอบถามยืนยันตามเรื่องราวที่นายปอ นางสาวกระติก และแซน เล่าให้ฟัง โดยเนื้อหายังคงยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุและประมาท เพราะทุกคนพูดตรงกันว่าเป็นอุบัติเหตุ

982591

ตนเองจึงได้ให้แนวทางและพูดคุยเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้ฟัง จากนั้นก็มีการพูดคุยถึงในประเด็นอื่น โดยเฉพาะตำแหน่งที่อยู่ในเรือก่อนและหลังเกิดเหตุ ลำดับเหตุการณ์ การดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก็ไม่ได้ลงดีเทลเกี่ยวกับจำนวนขวด แต่ทราบว่าทุกคนในเรือมีการดื่ม มีทั้งไวน์และแชมเปญ แต่วันนั้นยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการทำลายหลักฐาน สุดท้ายได้มีการตอบเกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยเรื่องข้อกฎหมายอื่น และพระราชบัญญัติอื่นที่อาจจะมีความผิดโดยเฉพาะเรื่องของการขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต เมื่อทั้งหมดได้มีการพูดคุยกันแล้วได้มีการตกลงที่จะเดินทางไปพร้อมกันที่โรงพักนนทบุรี เพราะตำรวจมีการนัดหมายให้ไปเจอในเวลา 17.00 น. แต่ในการเดินทางไปนั้น เป็นเพียงแค่ไปร่วมรับฟังกับว่าที่ลูกความ แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินหรือตัดสินใจว่าจ้าง

817751

ระหว่างที่มีการแยกย้ายออกจากร้านอาหารย่านสุขุมวิท จำได้ว่าเป็นช่วงเวลาหลัง 15.00 น. ต่างคนต่างเดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ตนเองเดินทางไปที่หลัง เป็นจังหวะที่ตนเองกำลังขับรถขึ้นทางด่วน อยู่ช่วงด่านพระราม 9 เป็นช่วงที่นายเอ็ม 1 โทรศัพท์เข้ามาพอดี แล้วแจ้งว่า "คนบนเรือกำลังไปนัดหมายเจอกับทนายดัง" หลังจากที่ตนเองรู้จึงตัดสินใจที่จะยกเลิกและไม่เดินทางไป ประกอบกับเงื่อนไขก่อนหน้านี้ ที่กลุ่มคนบนเรือต้องการที่จะให้ตนเองออกสื่อฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว แต่ด้วยการทำงานของตนเองชอบทำงานแบบส่วนตัว ไม่ต้องการออกสื่อทำให้ไม่สามารถที่จะเป็นไปตามเงื่อนไขโดยสมบูรณ์ของกลุ่มคนบนเรือได้

ประกอบกับเรื่องที่ล่าสุดได้มีการไปนัดหมายคุยกับทนายดัง ทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะไม่รับเป็นทนายความ และไม่เดินทางไปที่โรงพักนนทบุรี แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น ทนายดังก็ไม่ได้ตัดสินใจรับเป็นทนายความให้กับคนบนเรือ ทำให้นางสาวภัช พี่สาวของนายปอ เป็นคนโทรศัพท์มาง้อให้ตนเองกลับไปร่วมทีม แต่ด้วยตนเองถูกทนายคนอื่นตัดหน้าไปแล้ว ทั้งที่ตนเองก็เป็นคนเดินทางไปคุยด้วยที่ร้านอาหารแท้ ๆ จึงปฏิเสธไม่รับเป็นทนายความ และด้วยพี่สาวของนายปอต้องการที่อยากจะให้ตนเองไปร่วมทีม จึงเปลี่ยนจากให้เป็นทนายความ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย แต่ตนเองก็ยังคงปฏิเสธดังเดิม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส