เดชาไม่ทนจ่อฟ้อง อัจฉริยะ ถูกด่าลับหลัง รอแฉคดีแตงโม (คลิป)

8 เม.ย. 65

"อัจฉริยะ" จ่องัดหลักฐานเด็ดทำคดีพลิก เห็นชัดแตงโมตกตรงไหน ชี้ "ทนาย-ตำรวจ" เล่นปาหี่ฟ้องไปเรื่อย

 

จากกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาไลฟ์ผ่านยูทูบ “โคนัน เมืองไทย” พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมีความยาวคลิปประมาณ 1 ชั่วโมง 22 นาที

 

อัจฉริยะ

 

นายอัจฉริยะ ระบุว่า เรื่องกระติก ตัวเองรู้ว่าจริง ๆ แล้วนั่งอยู่ตรงไหนของเรือ ซึ่งวันที่คุณสิระแถลง บอกว่ากระติกยืนอยู่ที่หัวเรือกับคุณปอ ส่วนตัวขอถามคุณสิระว่าจำผิดหรือเปล่า เพราะตัวเองมีหลักฐานชัดเจนว่าคนที่ยืนอยู่ที่หัวเรือคือคุณแตงโมและคุณปอ ส่วนคุณกระติกนั่งอยู่ใกล้ ๆ คุณโรเบิร์ต ซึ่งเป็นคนขับเรือตอนนั้น โดยช่วงเวลา 22.32 น. ตัวเองรู้ตำแหน่งคนบนเรือทั้งหมด ยังรู้อีกด้วยว่าคุณแตงโมตกเรือเวลาประมาณ 22.34 น.

 

แต่ที่ยังไม่ออกมาเปิดเผย เพราะอยากรู้ว่าไอ้ห้อยกับพนักงานสอบสวนที่กำลังเล่นปาหี่จะทำอย่างไรต่อไป แต่เบื้องต้นต้องขอบคุณท่านประยุทธ์ เพชรคุณ อัยการสูงสุด อัยการนนทบุรี เพราะหากเอากระติกไปฟ้องแล้ว จะไม่สามารถฟ้องได้อีกแล้ว ทั้งที่หลักฐานที่ตัวเองจะเปิดเร็ว ๆ นี้ จะสามารถพลิกคดีได้ โดยยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการปั่นกระแส ไม่ใช่การหิวแสง แต่ตัวเองมีของสำคัญอยู่ในมือ การที่อัยการไม่เอาด้วย เพราะเขารู้ว่าคดีนี้มันยังสามารถพลิกไปพลิกมาได้ ฉะนั้น ถ้าเราเป็นคนที่ไม่มีสมอง แล้วเราไปเชื่อบังแจ็ค ก็ไม่ใช่อัจฉริยะแล้ว

 

คดีแตงโม

 

"ผมบอกพี่ไม้ ช่องอมรินทร์ทีวีให้ไปดูคลิป โดยให้โปรดิวเซอร์ยุงขยายให้ดูใหม่อีกที แล้วจะเข้าใจสตอรี่ว่าเราทำอะไรกันอยู่ คดีแตงโมถ้าผมทำ ไม่ตายฟรีแน่นอน แต่ถ้าไอ้ห้อยทำ รับรองว่าศาลยกฟ้องหมด" อัจฉริยะ กล่าว

 

ส่วนที่มีการเข้าไปแจ้งความกระติกเรื่องลบภาพในมือถือมันคือปาหี่ที่แจ้งความเพิ่มไปเรื่อย ๆ เหมือนอย่างเรื่องตำรวจที่มีการชนคุณหมอบริเวณทางม้าลาย ตำรวจได้แจ้งข้อหาไปทั้งหมด 9 ข้อหา โดยเฉพาะเรื่องของการประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ข้อหาอื่น ๆ คือไม่มีใบขับขี่ ไม่มีนู้นนี่นั่นมาทรงเดียวกันกับคดีแตงโม เพราะการให้การเท็จมันไม่ใช่สาระสำคัญของคดีที่จะต้องชี้เป็นชี้ตาย ว่ามันคือความเท็จที่จะต้องทำให้ถูกลงโทษตามกฎหมาย การกินไวน์ 6 ขวด หรือ 3 ขวดมันไม่ใช่สาระสำคัญของคดี

 

ฉะนั้นทุกคนที่เป็นนักกฎหมายก็จะรู้ดีว่ามันไม่มีความผิดตามกฎหมาย ที่ผ่านมาศาลก็จะยกฟ้อง ดังนั้นคดีนี้อัยการก็รู้ว่าตำรวจคิดอะไร อัยการรู้ว่าจะมีการมายืมมือเพื่อฟอกขาวให้คน ถึงมีการคืนสำนวนพร้อมกับตัวผู้ต้องหา ทำให้ไอ้ห้อยหน้าแหก แล้วตำรวจก็หน้าแหก อีกอย่างการเป็นทนายความ โดยมารยาทก็ไม่ควรจะมาแย่งหน้าที่ทนายความคนอื่น อย่างตัวเองที่ทำงานมา 55 ปีจนหัวล้าน คดีไหนที่มีทนายความแล้วตัวเองก็จะไม่เข้าไปช่วย เพราะต้องให้เกียรติกัน มีสำนึกของความเป็นคน จึงขอฝากไปถึงคุณแม่ของแตงโมว่า สุดท้ายแล้วจะไม่ได้เงินสักบาท แม้ว่าจะออกมาบอกว่าคุณปอและคุณโรเบิร์ตยืนยันว่าจะดูแลคุณแม่

 

ส่วนตัวขอบอกเลยว่าเวลาทั้งคู่ขึ้นศาล เขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะคุณไปกล่าวหาเขาในข้อหาที่ต้องโทษถึง 10 ปี ถ้าไม่สู้ก็บ้าแล้ว ในเมื่อมีช่องทางสู้อยู่ ยิ่งการทำให้ทั้ง 5 คนบนเรือเป็นผู้ต้องหาหมด ไม่มีการกันเป็นพยานสักหนึ่งคน เพื่อจะได้เอาพยานปากนั้นมามัดคนที่เหลือ งานนี้ตั้ง 5 คนก็ต้องมารวมหัวกันสู้ ฉะนั้นก็ต้องถามว่าคุณมีพยานหลักฐานอะไรไปสู้ หมอเองก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าบาดแผลเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะไม่ได้อยู่บนเรือ ด้านพิสูจน์หลักฐานก็ยืนยันได้แค่คลิปวิดีโอวงจรปิดไม่ได้มีการตัดต่อ

 

อีกอย่างเรื่องที่บอกว่ากระติกเป็นคนลบภาพในมือถือ คุณรู้ได้อย่างไรว่ากระติกเป็นคนลบ เพราะหากเขาอ้างว่าแตงโมเป็นคนลบจะทำอย่างไร แล้วการลบรูปมันจะเป็นการทำลายหลักฐานอย่างไร เพราะที่ผ่านมาทั้งกระติกหรือแซนก็จะเอารูปมาเปิดเผย เพื่อพยายามยืนยันเหตุการณ์ว่าไม่ได้มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ฉะนั้นต้องดูวัตถุประสงค์ของคนที่เล่นละครนี้ก่อนว่าเขาต้องการอะไร อย่างปอออกมาบอกเลยว่ามีแตงโมยืนอยู่ที่หัวเรือกับเขา โดยที่เขาเอามือพิงหลังแตงโม แล้วว่าแตงโมก็เดินไปท้ายเรือ โดยที่เขามองไปข้างหน้าเพื่อดูวิว

 

ส่วนโรเบิร์ตก็ยืนยันว่าขับเรืออยู่เลยต้องมองไปด้านหน้า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง ส่วนจ๊อบและกระติก ก็ไม่เคยพูดว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ฉะนั้นขอให้รอดูวันที่เปิดหลักฐาน มันชัดมาก รับรองว่าต้องตกใจ เห็นหมดว่าใครอยู่หัวเรือ ใครนั่งท้ายเรือ แตงโมนั่งตรงไหน จริงหรือไม่ที่ไปนั่งตรงแท่นสีแดงหรือมีการนั่งจับขาจริงหรือไม่ ถ้าตำรวจจะปิดคดีก่อนก็ปิดไป แต่พอตัวเองเอามาเปิด รับรองว่าจะหน้าแหกกันทั้งประเทศ มันต้องมีคนผิดถูกลงโทษตามกฎหมาย จะพิสูจน์ให้เห็นว่าแตงโมไม่ได้นั่งตรงกราบเรือสีแดงตามที่แซนพูด

 

มงคลกิตติ์

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ กล่าวถึงกรณีทนายเดชา ที่ออกมาเปิดเผยว่าจะรวบรวมข้อมูลแจ้งความเอาผิด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เรื่องหลักฐานเท็จ ตนเองไม่ขอยุ่ง เป็นเรื่องระหว่างทนายเดชากับนายอัจฉริยะให้ไปคุยกันเอง ไม่เกี่ยวกับตน

 

ทนายเดชา

 

ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม เปิดเผยถึงกรณีที่นายอัจฉริยะออกมาไลฟ์ว่า เรื่องที่นายอัจฉริยะไลฟ์ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ตอนนี้ก็กำลังรวบรวมหลักฐานว่ามีประเด็นใดบ้างที่กระทบกับคดีของคุณแตงโม ซึ่งก็มีชัดเจนอยู่แล้ว อย่างเรื่องที่บอกว่าคุณแม่จะไม่ได้เงิน หรือแพ้คดีแน่ รวมถึงที่บอกถึงการตกว่าหัวเรือท้ายเรือ และเรื่องที่ไปแจ้งความคุณแซนที่กองปราบด้วย ซึ่งถ้าหากดูแล้วน่าจะเข้าความผิด ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะคน ๆ นี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรในคดีเลย ที่พูดในไลฟ์เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น

 

ส่วนเรื่องที่ตัวเองเคยบอกว่าอัจฉริยะเป็นเพื่อนรักนั้น ก็เพราะแต่ก่อนเป็นเพื่อนรักกันจริง ๆ แต่ตัวเขาเป็นพวกที่พูดนินทาลับหลัง คบไม่ได้ เวลาต่อหน้าก็จะพูดดี เรียกว่าอาจารย์ครับอาจารย์ขา แต่พอลับหลังเรียกว่า "ไอ้" แบบนี้เรียกว่าพวกหน้าไหว้หลังหลอก มีพยานที่รู้เห็นเต็มไปหมด ตำรวจก็มี ทนายตั้มก็รู้ หากเผลอทีไรหลังเป็นรอยเลย

 

ฉะนั้น ตนก็จะรวบรวมหลักฐาน อะไรที่เอาผิดได้ก็จะเอาผิด รวมถึงส่วนที่ชอบไปแอบอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น วันนี้จะไปจับคนนู้นคนนี้ เขาไม่ใช่ตำรวจจะไปจับใครได้ ซึ่งในส่วนนี้ตัวเองจะนำเรื่องไปพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกไปว่านายคนนี้ชอบอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าอย่าไปหลงเชื่อ เขาเรียนกฎหมายก็ไม่จบ แต่มาสอนกฎหมาย ถ้าเปรียบเทียบก็คล้ายกับหมอปลอม ที่ไม่มีใบอนุญาต แต่ไปฉีดยาให้คนไข้

 

คดีแตงโม

 

ส่วนที่มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลบนเรือมีการสลับเรือนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยว่าเป็นเรือลำเดียวกัน เป็นเรื่องเก่าแล้ว เพราะตัวเองรู้นานแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้ให้จบไปได้แล้วมันเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น ส่วนหลักฐานต่าง ๆ ที่หลายคนเอาออกมา อย่างตัวผ้าขาวกระโปรงหรือทราย ส่วนนี้มองว่าเป็นหลักฐานเท็จ โดยเฉพาะกระโปรงคือเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ใคร ๆ ก็รู้ ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ก็รู้ว่ามันเท็จ หรือเรื่องหน้าแตงโมกับขอนไม้ มันก็ไม่เหมือนกัน แบบนี้ก็เท็จ

 

เรื่องตกหัวเรือท้ายเรือที่ทะแนะคนหนึ่ง ไม่ใช่ทนาย ออกมาพูดแบบนี้ก็เท็จ เวลาพูดในไลฟ์พูดไปเหมือนอยู่ในเรือ ซึ่งก็ไปถามตำรวจว่ามีทะแนะนั่งในเรือไหม ตำรวจก็บอกว่าไม่มี ส่วนใหญ่มีผมหมด ผมยาวกันหมด และยังมีเรื่องผลักตกเรือก็เท็จ คนรอที่โรงแรมก็เท็จ เรื่องเบอร์ตองที่สุดท้ายออกมาว่าเป็นเบอร์ปอกับ ผกก. ใคร ๆ ก็รู้ว่าพวกนี้เป็นเรื่องเท็จหมด

 

ซึ่งเมื่อวานนี้ตัวเองได้เข้าไปประชุมผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ด้วย โดยทั้งหมดคือหลักฐานเท็จ จากนี้ให้รอหลังวันที่ 19 เม.ย. ที่ตำรวจปิดสำนวนคดีคุณแตงโมแล้ว ก็จะเริ่มมีการดำเนินคดีกับพวกที่เอาข่าวเท็จมานำเสนอ เพราะพวกนี้หิวแสงอย่างเดียว บางคนก็ต้องการหวังผลทางการเมือง บางคนก็อยากดัง บางคนก็อวดรู้เยอะแยะไปหมด ทำให้เกิดความวุ่นวายเสียเวลาต้องไปสอบพยานเป็นร้อยปาก เสียเงินภาษีของรัฐโดยใช่เหตุ แต่คนพวกนี้ก็แปลก เพราะมีคนบางส่วนที่หลงเชื่อ ฝากถึงพวกหิวแสงถ้ามีหลักฐานอะไรก็ไปมอบให้ตำรวจ ถ้าไม่เชื่อตำรวจก็ส่งดีเอสไอ ถ้าไม่เชื่อดีเอสไอก็เก็บไว้ที่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ อย่าเอาไปโพสต์ เพราะมันเป็นความเท็จ เดี๋ยวก็ต้องติดคุก

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม