เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เวลา 09.30 น. ระบุว่า "เวลา 15.00 น. แซนจะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน และวันนี้อาจมีข่าวดีเพิ่มเติมว่าใครจะถูกดำเนินคดีเป็นรายต่อไป “เชื่อผมแก๊งสปีดโบ๊ตบนเรือ 5 คนไม่รอด / ถูกดำเนินคดีทั้งหมด #ทนายเดชาผู้มาก่อนกาล"
ขณะที่ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก และนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร หรือ จ๊อบ ขณะนี้ยังอยู่ในฐานะพยานและยังไม่มีการแจ้งข้อหาใด ๆ
ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เดินทางไปขอศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับนายจ๊อบ พบว่าศาลไม่อนุมัติหมายจับนายจ๊อบ โดยให้ไปออกหมายเรียก ในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแทน เช่นเดียวกับกระติกที่ให้พนักงานสอบสวนไปออกหมายเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาให้การเท็จเช่นกัน
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สัมภาษณ์ทนายเดชา ทนายความนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของเเตงโม กล่าวถึงการดำเนินคดี เเซน ปอ เเละโรเบิร์ต ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย ว่า สุดท้ายเเล้วจะได้รับโทษทุกคน เพราะต่างคนต่างประมาท โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี หากสู้คดีจะติดคุกเเน่นอน เเต่หากรับสารภาพเเล้วชดใช้ค่าเสียหาย โทษก็อาจเบาลง อาจรอลงอาญา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ส่วนอีก 2 คน ที่ยังไม่โดนข้อหา (จ๊อบ, กระติก) ก็จะโดนดำเนินคดีในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน เพราะอยู่บนเรือลำเดียวกัน ซึ่งคนที่โดนข้อหานี้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนโยนขวดหรือเเก้วไวน์ เพียงเเต่อยู่ในเหตุการณ์เเล้วไม่ห้ามปรามก็โดนด้วย ถือว่าเป็นตัวการร่วม ดังนั้นคนบนเรือทั้ง 5 คน จะโดนดำเนินคดีทุกคน ส่วนใครจะถูกออกหมายจับเป็นรายต่อไป ตนขอให้รอติดติดตามจะมีข่าวดีภายในวันนี้
สำหรับกุนซือ หรือคนเขียนสคริปต์ ที่กำลังถูกกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ เป็นคนในวงการนักกฎหมาย มีการให้คำเเนะนำคนบนเรือ ให้เข้าพบตำรวจช้า ๆ เพื่อให้ปริมาณเเอลกอฮอร์หรือสารเสพติดในร่างกายหมดไป เเละเอาทั้ง 5 คน มานั่งพร้อมกันเพื่อซ้อมพยาน เป็นการเตี๊ยมให้พูดเหมือนกัน ซึ่งตำรวจได้รับข้อมูลในทางลับ ว่ามีการบิดเบือนความจริง ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน ดังนั้นคนที่ให้การเเนะนำจะโดนดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ได้แก่
1. จ้างวานใช้ให้ผู้อื่นเเจ้งความเท็จเกี่ยวกับคดีอาญา ผิดไปจากข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 มีโทษจำคุก 2 ปี
2. จ้างวานใช้ให้ทำลายพยานหลักฐาน เพื่อช่วยหลือบุคคลอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 มีโทษจำคุก 5 ปี
ส่วนกรณีทนายตั้ม ออกมาเคลื่อนไหว ตนก็มีการพูดคุยกันตลอด เเละได้สอบถามทนายตั้มเเล้ว ว่าเป็นกุนซือหรือไม่ ทนายตั้ม ตอบว่า "ไม่ได้เป็น" เเละตนก็ไม่เคยพูดหรือกล่าวหาว่าทนายตั้ม เป็นกุนซือด้วย ส่วนคนให้คำเเนะนำจะเป็นใคร รอติดตามสัปดาห์หน้า เพราะตนเชื่อว่าตำรวจมีข้อมูลแล้ว
ทนายเดชา กล่าวถึงข้อสันนิษฐานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รวมถึง "โปรดิวเซอร์ยุง" ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สาวเเตงโมพลัดตกบริเวณหัวเรือ เพราะภาพวงจรปิดจากท่าเรือเอกชน พบมีเงาดำคนยืนอยู่หัวเรือ ว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนได้รับข้อมูลจากตำรวจ ทราบว่าสาวเเตงโม ไม่ได้พลัดตกหัวเรือเเน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจะพลัดตกที่ท้ายเรือหรือไม่ มีความเป็นไปได้สูง ดังนั้น ตนจึงรู้สึกเป็นห่วงนายอัจฉริยะ เนื่องจากมีคดีเก่าหลายคดี ตนมองว่าไม่น่าจะไปเเจ้งความในเรื่องนี้ เพราะข้อมูลของนายอัจฉริยะ ไม่เป็นความจริง
ส่วนนางภนิดา เเม่ของเเตงโม หลังจากทราบข้อหาที่ตำรวจเเจ้งกับคนบนเรือ ก็รู้สึกพึงพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะทราบดีแล้วว่าทำงานเต็มที่ ซึ่งเหตุการณ์บนเรือเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ฆาตกรรม / ส่วนนายปอ กับนายโรเบิร์ต ก็มีการโทรศัพท์ ติดต่อมาหานางภนิดาเสมอ ๆ เเต่ไม่ได้คุยกันในรายละเอียดเรื่องคดี เพียงเเต่บอกว่าไปทำบุญที่ไหนมาบ้างเท่านั้น
"เช้านี้ที่ผ่านมา ผมเพิ่งโทรหานายมงคลกิติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เเละผมได้เตือนเขาเรื่องคลิปปลอมหรือหลักฐานเท็จว่าหากจะนำหลักฐานใดมาเผยเเพร่ ควรจะตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เห็นเเค่ไหนก็พูดเเค่นั้นน ยกตัวอย่าง การเห็นขอนไม้เป็นเเตงโม เดี๋ยวจะมีหมายเรียกไปถึงบ้าน เเล้วถูกดันขึ้นรถตู้เหมือนที่ สน.บางนา ผมเตือนในฐานะพี่ชายที่เป็นห่วงน้อง" ทนายเดชา กล่าวทิ้งท้าย
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ กล่าวว่า สำหรับการแจ้งข้อหาของตำรวจ ตนตอบตามตรงว่ายังติดใจ เพราะถ้าประมาททำให้ใครตาย จะต้องมีความชัดเจนของคดี นายปอ เจ้าของเรือ นายโรเบิร์ต คนขับเรือ โดนแจ้งข้อหาประมาท แซน คนเอาเท้าให้แตงโมจับ ทั้ง 3 คนนี้ใครกันทำการประมาทให้แตงโมถึงแก่ความตาย ถ้าดูจากสำนวนคดี ตนมองว่าตำรวจกำลังทำสำนวนคดี โยนความผิดทั้งหมดให้แซน จากเดิม นายปอกับ นายโรเบิร์ต กระทำการประมาทให้แตงโมตาย ตนมองว่าในชั้นศาลถ้าเป็นทนายฝั่งจำเลย สู้ได้สบาย เพราะตำรวจไม่ได้ชี้ชัดว่า ใครประมาททำให้ตายกันแน่ "มันร่วมกันประมาทไม่ได้ ต่างคนต่างประมาท แต่การประมาท เป็นสาเหตุให้ตกน้ำคือใครนี่แหละ"
ทั้งนี้ ตนขอยกตัวอย่าง เช่น คนขับรถสองแถว ขับรถไปส่งนักเรียน แล้วมีเด็กตกรถเสียชีวิต ตำรวจจึงแจ้งข้อหาคนขับรถสองแถว แต่หลังจากนั้นมีข้อเท็จจริงเพิ่มว่า ก่อนที่จะหล่นมีการหยอกล้อกันของเพื่อน แล้วเด็กโดนผลักตกรถสองแถว ตำรวจก็ต้องไปแจ้งข้อหาคนที่ผลักเพื่อน จะไปแจ้งคนขับรถสองแถวไม่ได้ เพราะคนขับขับตามปกติวิสัย ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ หากมองกลับมาที่คดีแตงโม มีข้อเท็จจริงแบบนี้หรือไม่ ถ้ามีคำอ้างลอย ๆ ว่า แซน ใช้ขาให้สาวแตงโมจับ แล้วพลัดตกเรือเสียชีวิตใช่หรือไม่
