"แม่แตงโม" ฟาดหมอพรทิพย์ยุ่งคดีแตงโม เจอสวน "ไม่หิวแสง" แต่คือความมั่นคง (คลิป)

28 มี.ค. 65

วันที่ 28 มี.ค. 65 เวลา 13.40 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาว "แตงโม" พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความส่วนตัว เดินทางมาถึงยังรัฐสภา มีการเตรียมเอกสารหนังสือถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม และขอให้ตรวจสอบการทำงานของ กมธ. ว่ากระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่

แม่แตงโม

หลังจากก่อนหน้านี้ ทางทนายคนเก่าได้มายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม และขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดี มีทางด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เป็นคนรับเรื่อง

แม่แตงโม

นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดใจถึงสาเหตุการเข้ายื่นเพิกถอนหนังสือคำร้องฉบับเก่า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่นายกฤษณะ อดีตทนายความผู้รับมอบอำนาจนำเอกสารมาให้เซ็นเพื่อยื่นของให้คณะกรรมาธิการฯ ร่วมตรวจสอบคดีของแตงโม ขณะนั้นตนไม่ได้อ่านเนื้อหาเอกสาร ไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน หลังจากมีการเปลี่ยนให้ทนายเดชาเข้ามารับรับผิดชอบคดีแทน ทนายเดชาแนะนำว่าเอกสารฉบับดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนจึงกลับมาอ่านทำความเข้าใจ ทราบว่าไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ ทำให้มีการแทรกแซงของแต่ละองค์กร ทนายเดชาจึงแนะนำให้ยื่นขอถอดถอนเอกสารดังกล่าวออก มองว่าทนายกฤษณะเพิ่งทำงานได้ 2 ปี ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน เลยมายื่นเรื่องที่ กมธ. และนำเอกสารมาให้ตนเซ็นชื่อร่วมกับเอกสารอื่น

ภนิดา ศิระยุทธโยธิน

ทั้งนี้ การที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวศพของแตงโมจากการชันสูตรพลิกศพรอบ 2 นั้นเป็นการกระทำทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ เข้าข่ายว่าอยู่นอกเหนืออำนาจ กมธ. หรือไม่ พร้อมย้ำว่าจริง ๆ แล้วตนไม่ต้องการให้ผ่าชันสูตรรอบ 2 เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะนายกฤษณะเป็นคนดำเนินการ

ภนิดา ศิระยุทธโยธินภนิดา ศิระยุทธโยธินภนิดา ศิระยุทธโยธิน

โดยนายสมชาย กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่สามารถบอกให้คุณหมอพรทิพย์หยุดดำเนินการได้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของคุณหมอพรทิพย์ในฐานะที่เป็น กมธ. เพราะตั้งแต่ทางคุณหมอพรทิพย์เข้ามาแล้วต้องการข้อมูลนั้นข้อมูลนี้ ส่วนตัวสงสัยว่าจะเอาไปเพื่ออะไร ทั้งที่ผลการชันสูตรครั้งที่ 1 ก็ชี้แจงมาสอดคล้องกับครั้งที่ 2 ยืนยันว่าตนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจมากที่สุด ไม่ต้องการให้ใครเข้ามาแทรกแซง

ภนิดา ศิระยุทธโยธิน

นายสมชาย แสวงการ ในฐานะประธาน กมธ. ยืนยันว่า คุณแม่เองได้ยืนยันทางปลายสายโทรศัพท์กับทาง กมธ. ในวันที่ก่อนจะนำหนังสือมายื่นเรื่อง ในวันที่ 27 มีนาคม 2565 ตนเองก็ได้สอบถามและย้ำถึงความชัดเจน หลังจากนั้นมีการนำเอกสารมายื่นเรื่อง ทาง กมธ.ก็ได้ดำเนินการยื่นเรื่องตามขั้นตอน

729752

ยืนยันว่า กมธ. ไม่ได้เป็นคนร่างเอกสาร หรือมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดในตัวเอกสารฉบับดังกล่าว ย้ำว่าการยื่นถอนคำร้องในวันนี้ แม่เองมีสิทธิ์และสามารถยื่นเรื่องได้ ส่วนในอนาคตถามว่าหากทางคุณแม่ภนิดาได้ทำเรื่องถอนคำร้องแล้ว กมธ. เองยังมีอำนาจและสิทธิในการตรวจสอบหรือไม่นั้น อาจจะต้องมีการพิจารณาในชั้น กมธ. อีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 4 เมษายนนี้ โดยจะนำเรื่องที่ทางด้านคุณแม่เองได้ยื่นเรื่องในวันนี้เข้าพิจารณาด้วย กฎหมายบางส่วนให้อำนาจ กมธ. สามารถเดินหน้าตรวจสอบต่อได้ หากคดีนั้นเป็นที่สนใจและกระทบต่อสังคม แม้ว่าคุณแม่จะถอนเรื่องออก

336207

ส่วนกรณีที่ทางคุณแม่สอบถามว่าในส่วนของสงสัยว่าทางด้านคุณหมอพรทิพย์ มีอำนาจตามกฎหมายที่จะพูดเรื่องผลชันสูตร หรือ สภาพศพต่อหน้าสื่อมวลชนได้หรือไม่นั้น ในส่วนนี้ทาง กมธ. อธิบายว่าการพูดหรือให้ข้อมูลนั้น ประเด็นหลักยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ไม่กระทบหรือแทรกแซงต่อคดีแน่นอน แต่จะให้ทางตนในฐานะประธาน กมธ. สั่งห้ามพูดเลยหรือไม่นั้น ตามสิทธิเสรีภาพไม่สามารถสั่งห้ามใครได้

321006

ท้ายสุดเมื่อถามว่าหากวันนี้ทางด้านคุณแม่ชี้ชัดว่าไม่อยากให้ทางคุณหมอพรทิพย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคดี หากในอนาคตถ้ามีคนมายื่นให้ตรวจสอบ ทาง กมธ.มีสิทธิจะสั่งห้ามให้ทางคุณหมอพรทิพย์เข้ายุ่งในเรื่องนี้หรือไม่ ส่วนตัวต้องรอเข้าที่ประชุม กมธ.ก่อน เพื่อจะมีการพูดคุย แต่ก็ไม่สามารถระงับการทำงานของท่านได้ เพราะ กมธ. ทั้ง 16 คนต้องทำงานประสานกัน

233736

ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเรื่องปมเข้าเครื่องจับเท็จ หรือตรวจสอบเรือลำที่เกิดเหตุ ตลอดจนเรื่องของร่องรอยบาดแผล และเรื่องของผ้าขาวที่หายไป ตนในตัวแทน กมธ. ยืนบันว่าไม่ได้เป็นการสั่งการ หรือเป็นคำสั่งว่าจะต้องให้เก็บเรือแบบนั้นแบบนี้ หรือต้องเข้าเครื่องจับเท็จตามที่ กมธ.พูด แต่เป็นแค่คำแนะนำเท่านั้น อยากให้มองเจตนารมณ์ที่ชัดเจน

312652

ด้านทนายนายเดชา กล่าวว่า นางการที่แม่ของแตงโมมายื่นถอดถอนเรื่องดังกล่าวเพราะมั่นใจว่ากรรมาธิการฯ บางคนเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกมาให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตการทำงานของตำรวจ และเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานบ่อยมาก ด้วยการก้าวก่ายการทำงาน และไม่ให้เกียรติตำรวจ จนทำให้ตำรวจถูกด่า ดูถูก เหมือนพวกเขาไม่มีศักดิ์ศรี ทั้งยังเสนอสั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ และเรื่องการนำเข้าเครื่องจับเท็จที่จะอาจเกิดผลเสียในทางคดีก็ได้ เหมือนหยามเกียรติศักดิ์ศรีของตำรวจ โดยเฉพาะการตำหนิการเก็บเรือของกลางทำให้ตำรวจเสียหน้า ทั้งที่เรือลำที่เกิดเหตุได้มีการตรวจสอบเก็บทุกอย่างแล้วอย่างสมบูรณ์

อีกทั้งยังข้อใจบางคนที่ทางคุณแม่ให้ไปสังเกตการณ์การผ่าชันสูตร ไม่ใช่ให้ออกมาแถลงข่าวดิสเครดิตการทำงานของแพทย์นิติเวช ทั้งที่ข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงยังมีการออกมาให้ข้อมูลบิดเบือน แถมยังทิ้งข้อสงสัยให้สังคม และเรียกดราม่าทัวร์ลงตำรวจ อีกทั้งมีการดิสเครดิตนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยอ้างว่าบาดแผลตรงใบหน้า หากตำรวจเป็นอิสระ คงออกมาพูดรายละเอียดแล้ว

ซึ่งการพูดดังกล่าวเป็นการทำให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจขาดความน่าเชื่อถือจากสังคม รวมไปถึงอีกทั้งยังมีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ามีทนายดังต่อสายว่ามีตำรวจผู้ใหญ่ไม่ปลื้มเข้ามายุ่งคดีแตงโม ทั้งที่ไม่มีข้อมูล และพยานหลักฐานที่ให้ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ท้ายสุดในเรื่องของกรณีที่ทาง กมธ.ท่านหนึ่งไปให้ข้อมูลว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตะถ่วงไม่ยอมส่งศพไปผ่าชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง เพราะต้องมีการรอมติของคณะกรรมการก่อนหน้านี้ ทั้งหมดคือสาเหตุที่ทางคุณแม่จึงมาขอยกเลิกการมอบอำนาจที่ให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และนายศตวรรษ เศรษฐกร หรือ เต๊ะ ร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพ โดยไม่อนุญาตให้เข้าร่วมสังเกตการณ์การชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 และขอไม่ให้นำผลการชันสูตรมาแถลงข่าวต่อสาธารณะอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส