เมียร่ำไห้ผัวตชด.หายตัวกลางป่า เปิดภาพสุดท้ายเดินแก้ผ้าก่อนล่องหน (คลิป)

จากกรณี ระดมกำลังค้นหา ด.ต.นิกัน อัสพิน อายุ 50 ปี สังกัดกองร้อยตำรวจ ตชด.ที่ 136 (ผบ.หมู่ กก.ตชด.13) หลังออกเวรแล้วหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา นาน 5 วัน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบครั้งสุดท้าย ใส่กางเกงบอกเซอร์ตัวเดียว เดินโซเซหายเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหา ทั้งทางบก-อากาศ พร้อมนำโดรนจับความร้อนมาช่วยค้นหา แต่ยังไร้วี่แวว

วันที่ 26 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังพื้นที่ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จุดตั้งฐานค้นหาผู้สูญหาย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวบนเขาห่างไป 600 เมตร เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่พบหมวก ตชด.ของ ด.ต.นิกัน ผู้สูญหาย ถอดทิ้งไว้อยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตั้งฐานค้นคนติดตามต่อบริเวณนี้

เมื่อไปถึงช่วงเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) และคณะฯ ลงพื้นที่ตามความคืบหน้า ภายในพื้นที่

พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. กล่าว่า กรณีที่เกิดขึ้นเริ่มจาก ด.ต.นิกัน อัสพิน อายุ 50 ปี สังกัดกองร้อยตำรวจ ตชด.ที่136
(ผบ.หมู่ กก.ตชด.13) หายตัวไปอย่างปริศนา หลังออกเวร ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตั้งวันที่ 20 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ช่วงเมื่อเวลา 20.00 น. โดยหลัง ด.ต.นิกัน หายตัวไป ทางครอบครัวได้แจ้งให้ทางเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาทราบ จึงนำไปสู่การออกค้นหา

โดยระหว่างการค้นหา บริเวณบ้านวังโพธิ์ หมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่พบรถ จยย. ของ ด.ต.นิกัน ถูกจอดอยู่ริมฝั่งห่าง จากแม่น้ำแควน้อ ประมาณ 200 เมตร รีสอร์ตริมแม่น้ำ รวมทั้งยังพบเสื้อผ้า รองเท้า และโทรศัพท์มือถือของ ด.ต.นิกัน ถูกวางไว้อยู่ข้างรถ แต่ไม่พบตัว

กระทั่งวันที่ 21 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด บริเวณสถานีรถไฟวังโพธิ์ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค ห่างจากจุดพบรถ จยย. ประมาณ 1.5 กม. ปรากฏภาพ ด.ต.นิกัน เดินโซเซไปมา โดยใส่เพียงกางเกงบอกเซอร์ตัวเดียว ไม่สวมรองเท้า มีผ้าโพกหัวสีดำเดินอยู่ริมทางรถไฟ ก่อนจะเดินหายเข้าไปบริเวณป่าด้านหลังสถานี เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำกำลังกว่า 50 นาย มาร่วมเดินเท้าปูพรมค้นหาบริเวณป่าที่คาดว่า ด.ต.นิกัน จะหลงเข้าไปอยู่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบตัว

ทำให้การค้นหาล่วงเลยจนเข้าสู่วันที่ 23-25 มี.ค.65 ขอเจ้าหน้าที่ระดมกำลังกว่า 100 นาย นำสุนัขดมกลิ่นเดินทางเข้าค้นหา ด.ต.นิกัน โดยมีการประสานขอโดรนจากผู้สื่อข่าวในพื้นที่ช่วยค้นหาทางอากาศ แต่ก็ยังไม่พบตัว พบเพียงร่องรอยการจุดไฟและมีหมวกของ ด.ต.นิกัน ถูกวางทิ้งอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่หมดความหวังที่จะพบตัว จึงได้มีการประสานขอเฮลิคอปเตอร์ จากหน่วยบินตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาร่วมบินค้นหาในพื้นที่ป่าเขา แต่ก็ยังไม่พบร่องรอย จึงได้มีการประสานขอโดรนตรวจจับความร้อนจากสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติแห่งประเทศไทย มาร่วมบินค้นหาในช่วงกลางคืนวันที่ 25 มี.ค. 65 ก็ยังไม่พบเช่นเคย

อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังคงไม่ละความพยายาม ตนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้า ร่วมวางแผนกำหนดพื้นที่ค้นหา อีกทั้ง จะนำโดรนตรวจจับความร้อน ขึ้นบินเพื่อหาตัวของ ด.ต.นิกัน ในรัศมีรอบพื้นที่ป่าเขา ต.ลุ่มสุ่ม สำหรับสาเหตุที่ ด.ต.นิกันหายตัวไปนั้นขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้น ด.ต.นิกัน เคยประสบอุบัติเหตุ รถล้มหัวฟาดพื้นจึงอาจส่งผลให้มีอาการเกี่ยวกับระบบทางประสาท เจ้าตัวเป็นคนเงียบ ๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จึงไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องอะไรในใจหรือไม่

ด้านนางรุ่งอรุณ สุรินเลิศ อายุ 35 ปี ภรรยาผู้สูญหาย กล่าวว่า ตนและ ด.ต.นิกัน คบกันมา 18 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน อาศัยอยู่ภายในพื้นที่บ้านบ่องตี้ หมู่ 1 ต.บ้องตี้บน อ.ไทรโยคโยค จ.กาญนบุรี โดยก่อนหน้านี้ยอมรับว่า ด.ต.นิกัน เคยประสบอุบัติเหตุรถล้มหัวฟาดพื้นสลบนาน 2 วัน เมื่อปี 2554 ทำให้ตั้งแต่นั้นมา ด.ต.นิกัน เริ่มมีอาการทางสมองหลง ๆ ลืม ถึงขั้นเคยจำทางกลับบ้านไม่ได้บ่อยครั้ง จนต้องมีชาวบ้านหรือกลุ่มเพื่อนขับรถมาส่งที่บ้าน อีกทั้งหากเวลาเจ้าตัวดื่มสุรา อาการทางสมองก็จะกำเริบหนัก ถึงขั้นจำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เคยรุนแรง ถึงขั้นหายตัวออกจากบ้านไปนาน 6 วันแบบนี้

กระทั่งวันที่ 19 มี.ค.65 ด.ต.นิกัน ก็ประสบอุบัติเหตุ จยย. ล้มอีก แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ยังไปทำงานได้ตามปกติ โดยวันเกิดเหตุ 20 มี.ค.65 ช่วง 08.00 น. ด.ต.นิกัน ก็ออกจากบ้านไปทำงานที่ ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้าตามปกติ แต่เลิกเวลา 20.00 น. เจ้าตัวไม่ได้เดินทางกลับบ้าน จึงเริ่มผิดสังเกต เลยประสานไปยังกลุ่มเพื่อน และผู้บังคับบัญชาของสามี ให้ช่วยออกติดตาม จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบ

อย่างไรก็ตามขณะนี้ ในฐานะภรรยามีความคาดหวังอยากจะเจอสามีโดยเร็ว ครอบครัวอยากจะเจอแบบมีชีวิต พร้อมทั้งอยากวอนขอเจ้าป่าเจ้าเขาให้ช่วยเปิดทาง ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการค้นหา ติดตามสามีให้พบโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีความกังวลเรื่องสภาพความเป็นอยู่ และอาหารการกินของสามี