ฆ่าอำพรางชายปริศนาห่อไวนิล แม่เทียบรองเท้าเชื่อศพลูกหายตัว หวั่นฆ่าล้างหนี้ (คลิป)

กรณีร.ต.ท.ศุภกร ตันติยาสวัสดิกุล รองสว. (สอบสวน) สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่ว่าจ้างรถไถไปปรับสภาพที่ดินเพื่อเตรียมทำสวน กลับไปพบซากศพของมนุษย์เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ในป่าหญ้ารกกลางที่ดิน บริเวณบ้านบ่อไฟไหม้ หมู่ที่ 4 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นศพของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้า ทับกระสอบปุ๋ยที่มีการนำมาเย็บติดกันเป็นผืนใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ Nike ไม่พบเอกสารระบุว่าเป็นใคร สภาพผิวหนังแห้งติดโครงกระดูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ไม่สามารถตรวจสอบร่องรอยบาดแผลได้ เนื่องจากสภาพศพเปลี่ยนไปมาก

ล่าสุดวันที่ 21 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดที่พบศพ บ้านบ่อไฟไหม้ หมู่ที่ 4 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี รอบ ๆ เป็นป่าเขา สวนยาง มีบ่อน้ำสำหรับทำการเกษตร ห่างจากบ้านของชาวบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นจุดที่ช้างป่าใช้เดินผ่าน

ทีมข่าวเดินทางมาที่บริเวณวัดเขาช่องลม หมู่ที่ 4 ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางเข้าออกเป็นเนินเขา โดยนางอุดม สิริพิทักษ์ อายุ 67 ปี แม่ของผู้สูญหาย เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ธ.ค. 64 นายอาณัติ คนทา หรือ ก้อง อายุ 40 ปี ลูกชายของตนไปดื่มเหล้าสังสรรค์กลับเพื่อน และช่วงกลางคืนยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนไปซื้อเหล้าเพิ่ม ก่อนจะหายตัวไป

หลังจากวันนั้น เพื่อนของลูกชายก็มาทวงรถจักรยานยนต์คืนที่บ้าน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตนจึงทราบว่าลูกชายหายตัวไป ก่อนจะพยายามโทรศัพท์หาแต่ติดต่อไม่ได้ ตนจึงจะเดินทางไปแจ้งความ แต่ได้ไปหาหมอดูก่อนได้รับคำทำนายว่า ลูกชายของตนไม่อยู่แล้ว ตนจึงเชื่อคำทำนาย และเฝ้ารอวันที่จะได้เจอลูกชาย เพราะตนอายุเยอะแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปแจ้งความหรือทำอย่างไร

กระทั่งวานนี้ (20 มี.ค.65) มีพลเมืองดีและชาวบ้านเข้ามาแจ้งว่าพบซากศพ สามีของตนและหลานชายจึงได้ออกไปดู และจำเสื้อผ้าที่สวมใส่บนโครงกระดูกได้ โดยเสื้อผ้าดังกล่าวเป็นของลูกชายใส่ก่อนหายตัวไป คือ เสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินแดง จึงมั่นใจว่าเป็นศพของลูกชายอย่างแน่นอน แต่ต้องรอผลชันสูตรที่แน่ชัดจากเจ้าหน้าที่ก่อน จากสภาพศพที่ถูกเชือกมัดแขนขาไว้ และห่อด้วยผ้าไวนิลดังกล่าว ตนเชื่อว่าลูกชายของตนต้องถูกทำร้าย

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าลูกชายของตนไม่ใช่เด็กดีเท่าไร และข้องเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ประมาณ 20,000 บาท ตนจึงไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากเรื่องใด อย่างไรก็ตาม หากเป็นการถูกทำร้ายตนมองว่าทำเกินกว่าเหตุ เป็นไปได้ตนก็อยากจะทราบเรื่อง และอยากรู้ว่าใครทำ แต่ตอนนี้คงทำได้ฝากความหวังไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตนก็อายุเยอะแล้ว

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของเพื่อนของผู้สูญหาย และเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ผู้สูญหายยืมไปก่อนจะหายตัว ในพื้นที่หมู่ 3 ต.พวา อ.แก่งหางแมว พบว่าห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร โดยนายปรัชญา มงคลทิพย์ หรือ บอย อายุ 27 ปี เพื่อนของผู้สูญหาย กล่าวว่า ในวันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้ชวนให้นายก้อง มานั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่บริเวณริมเขื่อน ห่างจากบ้านของตนประมาณ 1 กม. ขณะที่นั่งดื่มกันนั้นมีน้องชายอายุ 18-19 ปี ของตนนั่งอยู่ด้วย จากนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. ดื่มเหล้าไปประมาณ 3 กลม และเหล้าหมด นายก้องจึงอาสาไปซื้อเพิ่ม โดยขอยืมรถจักรยานยนต์ของตนไปซื้อ เมื่อตนเห็นว่าหายไปนานเลยโทรศัพท์ตามหาพบว่าขึ้นสัญญาณรอสาย แต่ไม่มีใครรับสาย

กระทั่งเช้าวันต่อมา ตนพยายามติดต่อหาเพื่อน แต่ก็ไม่รับสายเช่นกัน จึงไปตามที่บ้านเพื่อทวงรถคืน แม่ของนายก้อง กลับยืนยันว่าไม่เห็นลูกชายเหมือนกัน ตนจึงสอบถามภรรยาเก่าของนายก้อง ยืนยันว่านายก้องไม่ได้มาหา ก่อนจะพากันหาเบาะแสจนเวลาผ่านไปกว่า 3 เดือน จึงมาพบว่าเพื่อนกลานเป็นซากศพเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนตัวคาดว่าอาจจะเป็นร่างของนายก้อง

"ผมไม่ได้สนิทก้บก้อง แต่ชวนมาดื่มเหล้า เพราะเห็นว่าเป็นช่วงสิ้นปีครับ และก้องเพิ่งจะเลิกกับภรรยา เลยเป็นห่วง ซึ่งวันสุดท้ายที่เจอกัน ก้องก็ระบายเรื่องภรรยาเก่าให้ฟัง รวมถึงเรื่องหนี้นอกระบบที่ไปหยิบยืมมา แต่หาเงินคืนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของหนี้สิน ส่วนตัวยังไม่ได้รถจักรยานยนต์คืน ไปแจ้งตำรวจแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่รถยังผ่อนไม่หมด และทุกวันนี้ยังต้องส่งเงินผ่อนรถเดือนละ 1,000 บาท เป็นไปได้ผมก็อยากจะได้รถคืน" นายปรัชญา กล่าวทิ้งท้าย 

อย่างไรก็ตาม นายสมอน สมแสน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.พวา ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.65) เวลาประมาณ 14.00 น. ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปปรับหน้าดินว่า ขณะที่ใช้รถไถปรับหน้าดิน บังเอิญพบกับผ้าไวนิลที่ห่อซากศพเอาไว้ ลักษณะวางไว้บนพื้นทราบว่าเป็นศพ เพราะพบรองเท้าผ้าใบ ทั้งนี้ ในหมู่บ้านมีคนสูญหายอยู่ 1 ราย เป็นผู้ชาย หายไปตั้งแต่ช่วงปีใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเดือน พ.ย.64 ตนเคยได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า บุคคลรายนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติด แต่จะต้องรอผลชันสูตรที่แน่นอนก่อน และในส่วนของหมู่บ้านคงจะทำบุญเพื่อความสบายใจของทุกคน