รวบหนุ่มแฝด สลับตัวทำพาสปอร์ต พบพิรุธหน้าคล้าย แต่ลายนิ้วมือไม่เหมือน

17 มี.ค. 65

ตำรวจ บก.ป.รวบหนุ่มแฝดแสบ สลับตัวลวงเจ้าหน้าที่กงสุล ออกหนังสือเดินทาง พบพิรุธหน้าคล้าย แต่ลายนิ้วมือไม่เหมือน

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.ท.นนทกร นันทะน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป., ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 348/2565 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมเอกสารซึ่งเป็นเอกสารราชการ, ร่วมกันปลอมหนังสือเดินทาง และจัดหาหนังสือเดินทางให้ผู้อื่นนำไปใช้โดยมิชอบ”

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2560 นายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า หนังสือเดินทางของตนกำลังจะหมดอายุ ตนจึงได้ร่วมกันกับ นายยุทธนา ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ให้ไปดำเนินการทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่ สำนักงานการค้าเศรษฐกิจไทย (ไทเป) ไต้หวัน แทนตน เนื่องจากในช่วงดังกล่าว นายณัฐพงษ์ ไม่สะดวกเดินทางไปทำหนังสือเดินทางด้วยตนเอง

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 นายยุทธนา ได้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนของนายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหา พร้อมหนังสือเดินทางเลขที่ ของนายณัฐพงษ์ ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานการค้าเศรษฐกิจไทย (ไทเป) ไต้หวัน โดย นายยุทธนา ออกอุบายว่า ต้องการขอออกหนังสือเดินทางใหม่แทนหนังสือเดินทางฉบับเดิม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลและให้นายยุทธนา กรอกข้อความลงบนเอกสารแบบฟอร์มขอทำหนังสือเดินทาง และพิมพ์คำร้องขอทำหนังสือเดินทางใหม่ ซึ่งนายยุทธนา ได้แสดงตนว่า ตนเองชื่อ นายณัฐพงษ์ พร้อมกรอกลายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของนายณัฐพงษ์ ทั้งหมด และลงลายมือชื่อในช่องลายมือต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าเศรษฐกิจ (ไทเป) ไต้หวัน

1647477076174

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายสำเนาเอกสารไว้ ประกอบคำร้อง โดยนายยุทธนา รับว่าเอกสารถูกต้องแล้ว แล้วจึงได้ทำการสแกนแบบฟอร์มลงในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนมีการถ่ายภาพถ่ายรูปหน้าของนายยุทธนา และพิมพ์ลายนิ้วมือของนายยุทธนา ลงในระบบข้อมูลของผู้ที่มายื่นขอหนังสือเดินทาง

ต่อมา กองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ได้ตรวจพบความผิดปกติ คือ ภาพถ่ายใบหน้า และลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มาออกหนังสือหนังสือเดินทางนั้น ไม่ตรงกันกับนายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหานี้ จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลไปยังกรมการปกครองเพื่อขอตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน ปรากฏพบข้อมูลว่า นายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหา และ นายยุทธนา นั้นเป็นฝาแฝดกัน ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกัน และอาศัยช่องว่างดังกล่าวในการมาออกหนังสือเดินทางแทนกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเพื่อให้หลงเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริง จากนั้นกรมการกงสุล ในฐานะผู้เสียหาย จึงได้มาเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหา ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และนำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส