กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เวลา 21.00 น. ของที่ 27 ก.พ.65 ที่ผ่านมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลักษณะจุดเกิดเหตุเป็นถนนสวนกัน 2 เลน และค่อนข้างมืด พบรถจักรยานยนต์สีดำชมพู ทะเบียน 1 กจ 8596 กทม. ล้มคว่ำได้รับความเสียหายอยู่ริมถนน ใกล้กันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อนางเสวย สระสี อายุ 60 ปี นอนจมกองเลือดในสภาพมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะขนาดใหญ่ ส่วนอีกรายทราบว่าเป็นเด็กทารกเพศชายวัย 9 เดือน ทราบชื่อ น้องเคอร์ฟิวส์ สภาพมีบาดแผลตามใบหน้า
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนางชัชฏา แก้วคำ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล และห่างออกไปไม่ไกลพบรถกระบะสีขาว ทะเบียน 2 ฒฬ 1370 กทม.จอดอยู่ โดยที่คนขับรถมีลักษณะคล้ายมึนเมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่สภ.พระประแดง ผลปรากฏว่ามีปริมาณสูงถึง 209 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จากการสอบถามนางชัชฏา ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ยังให้การสับสนว่า ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์มารู้สึกเหมือนมีรถมาชนจากด้านหลังจนรถจักรยานยนต์และคนกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งตนคิดว่าตนสลบไปนานพอสมควร เมื่อตนฝืนขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของนางเสวย ผู้เป็นแม่ เต็มไปด้วยเลือด ส่วนหลานชายก็มีเลือดเต็มตัว
นายรุ่งเรือง ยงสุข อายุ 51 ปี เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ รถจักรยานยนต์วิ่งมาในซอยตามปกติ ส่วนรถยนต์กระบะขับมาด้วยความเร็วก่อนจะเฉี่ยวชนบริเวณท่อของรถจักรยานยนต์ ทำให้เสียหลักล้มคนซ้อนท้ายศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นยายกับหลาน ส่วนคนขับรถกระบะคันคันก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนเมาสุรา ตนกับชาวบ้านจึงช่วยกันคุมตัวไว้ให้เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ตนจะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพยายหลาน 1 คืน เนื่องจากผู้ตายเป็นคนที่อยู่ในละแวกนี้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวคนขับรถกระบะคันดังกล่าวมาตรวจวัดแอลกอฮอล์พบว่ามีปริมาณสูงถึง 209 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
