สาวไส้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ด่ารุ่นแม่เห้ แค้นมาขอมีดตอนเมา อีกฝ่ายโต้แพ้ยาถูกยั่วยุ (คลิป)

22 ก.พ. 65

กรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอชายแต่งกายด้วยชุดลายพราง คล้ายเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน มีลักษณะคล้ายคนเมาพูดจากร่างใส่ชาวบ้านที่มาขอมีดคืน ถูกเผยแพร่ในโลกอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และส่งต่ออย่างกว้างขวางนั้น

296232

ทีมข่าวได้รับคลิปเต็ม 11.52 นาที เป็นช่วงที่มีการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ กับหญิง 4 คน โดยคลิปเกิดขึ้น จุดที่เจ้าหน้าที่ประจำการช่วงกลางคืน

208496

วันที่ 22 ก.พ. 65 นางสาวกวน เจริญพร้อม อายุ 64 ปี และนางสาวดวงพร เจริญพร้อม อายุ 22 ปี ป้าที่ไปขอมีดคนถ่ายคลิป เล่าว่า เมื่อคืนนี้ ตนเองอยู่ที่บ้าน มีคนงานแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่เข้ามาที่ไร่ และนำมีดหั่นมันไป 3 เล่ม จากนั้นพวกตนพร้อมญาติอีก 3 คน จึงเดินทางไปที่พักของเจ้าหน้าที่ เพื่อทวงถามมีด

เมื่อไปถึงชายที่อยู่ในคลิปก็มาพูดคุย ยังเรียกชื่อป้าว่า "เต๋น" แบบไม่มีคำว่าป้า คนถ่ายคลิปจึงบอกว่าให้เกียรติป้าหน่อย จากนั้นไม่นานชายคนนี้ก็อ้างเหตุการณ์เก่า ๆ ขึ้นมา และยังบอกว่า "ผมจะเอามีดป้าไปทำเหี้-อะไร" ตอนนั้นตนเองโกรธมาก สั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ตนเองจึงบอกว่า "นี่ข้าเป็นรุ่นแม่แล้ว ทำไมพูดแบบนี้" แต่ชายคนนั้นยังบอกว่าอย่าเอาอายุมาอ้าง จากนั้นตนเองจึงพากันกลับโดยไม่ได้มีดกลับมาเลย การมาอ้างว่าแก้ยา แก้แพ้ คงไม่ใช่ ยืนยันว่าเมาเพราะมีกลิ่นแอลกอฮอลล์ชัดเจน ที่ผ่านมาเอือมระอากับพฤติกรรมของชายคนนี้ ชอบข่มขู่ชาวบ้าน และกร่างไปทั่ว อยากให้ออกจากราชการไปเลย

443585

ด้านนายสิทธิศักดิ์ ฉันสิมา นักวิชาการป่าไม้ ปฏิบัติการทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรอุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ ยอมรับว่า ตนเองเป็นชายคนที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเอง พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา เดินทางออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้ ในพื้นที่รับผิดชอบ คือ บ้านปากเหมือง หมู่ 7 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

โดยใช้เวลาการออกตรวจประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วง 20.00-22.00 น. ตรวจตราเสร็จได้นำคณะเจ้าหน้าที่ออกไปซื้อเสบียงในพื้นที่นอกเขตอุทยาน จากนั้นได้นำคณะเจ้าหน้าที่กลับมาพักค้างแรม บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ศร.2 ดงใหญ่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมทั้งตนเองกำลังเตรียมตัวจะหลับพักผ่อน เวลาประมาณ 23.30 น. ได้มีชาวบ้านขับรถยนต์กระบะมาจอดบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ซึ่งพวกตนพักค้างแรมอยู่ และมีหญิงจำนวน 4 คนลงจากรถเดินทางเข้ามาเอะอะโวยวาย กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่หน่วยของตนได้หยิบมีดตัดมันสำปะหลัง 3 เล่มมา โดยกลุ่มหญิงทั้ง 4 คนต้องการที่จะมาทวงมีดดังกล่าวคืน

ตนในฐานะหัวหน้าหน่วย จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ทุกคนมาถามว่ามีใครหยิบมีดตัดมันไป เจ้าหน้าที่ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้หยิบมีดตัดมันมาตามที่ถูกกล่าวหา ตนจึงพยายามชี้แจง และยืนยันว่าไม่มีใครหยิบมีดตัดมันมา แต่หญิงคนดังกล่าวยังไม่เชื่อ และพยายามพูดจายั่วยุกล่าวหาว่าพวกตนหยิบมีดไป จนกลายเป็นเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป ตนยอมรับว่าอาจจะใช้วาจาที่ไม่สุภาพ แต่ก็เป็นการตอบโต้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายหรือกระทำการไม่เหมาะสม

กระทั่งวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 สนได้ทราบข่าวว่ามีการนำคลิปวีดีโอเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุไปเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลมีเดียและข่าวของสำนักข่าวต่าง ๆ สร้างความเสื่อมเสียให้กับตนเองอย่างมาก ตนยอมรับว่าข่าวดังกล่าวเมื่อผู้คนที่ไม่ทราบความจริง และได้ฟังเพียงคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกไปก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดกับเจ้าหน้าที่ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยอมรับว่าบั่นทอนจิตใจ และบั่นทอนกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน และเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยเป็นอย่างมาก จึงอยากชี้แจงให้สังคมได้ทราบความจริง พร้อมทั้งขอโทษสังคมหากตนเองใช้วาจาที่ไม่สุภาพไปบ้าง แต่ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เมา ส่วนสาเหตุที่อาจจะมีลักษณะคล้ายคนเมา เป็นเพราะตนเองทานยาแก้แพ้ไป 2 เม็ดและเตรียมตัวที่จะเข้านอนแล้ว

166536

ทีมข่าวเดินทางไปสำรวจกระท่อมที่เกิดเหตุที่เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจคนและนำมีดไป 3 เล่ม พบว่าเป็นกระท่อมอยู่กลางไร่มัน ไม่มีไฟฟ้า โดยคนงานที่เฝ้ากระท่อมได้พาทีมข่าวไปสำรวจด้านบนกระท่อม พบว่าในห้องมีร่องรอยมีคนอยู่ แต่ได้ทำความสะอาดเศษดินและทรายที่เลอะเมื่อคืนนี้ไปหมดแล้ว เหลือเพียงปลอกมีดตัดมันไว้ 2 ปลอก

890174

นายวีระชาติ รันทด 37 ปี คนงานเฝ้ากระท่อม เผยว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่มาช่วงกลางวันก่อนแล้ว 1 รอบ ต่อมาเมื่อคืนนี้ตนเองกำลังทำฟักทองเชื่อมอยู่ภายในกระท่อม และได้ยินเสียงดัง จึงออกมาดู จึงพบว่ามีเจ้าหน้าที่จำนวน 10 คน ขับรถกระบะมาจอดที่หน้ากระท่อม และจะขอทำหน้าที่ ตัวเองบอกว่าจะให้ขออนุญาตเจ้าของไร่ก่อน แต่กลุ่มเจ้าหน้าที่ไม่ยอมพูดจาหาเรื่อง และพยายามจะขึ้นไปด้านบนให้ได้

เมื่อตนเองเผลอจึงพากันขึ้นไปบนกระท่อมทันที โดยไม่ได้ถอดรองเท้า จากนั้นก็เข้าค้นภายในห้องและจับตนเองนั่งกับพื้น จากนั้นก็เห็นว่ามีการส่งมีดตัดมันออกไปด้านนอกทั้งหมด 3 เล่ม พร้อมกับรื้อค้น และเหยียบที่นอนตนเอง จนเลอะไปหมด และยังมีการข่มขู่ตนเองอีก ยอมรับว่ากลัวมาก ทั้งความอันตรายและกลัวจะถูกยัดสิ่งที่กฎหมายด้วยหรือไม่ หลังจากนั้นก็พากันออกไป

528674

ด้านนายนพรัตน์ เหล็งพั้ง อายุ 33 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้รับแจ้งจากลูกน้องว่ามีเจ้าหน้าที่มาค้นกระท่อม และหยิบมีดไปด้วย จึงให้ผู้หญิงตามไปพูดคุย เพราะหากให้ผู้ชายไปเกรงว่าจะมีเรื่อง ตนเองยังห้ามกลุ่มผู้ชายในชุมชนอยู่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะไปพูดคุยมีการยิงปืนอยู่ที่ทำการอยู่หลายนัด ยืนยันว่าตนเองอยากจะให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวย้ายไปที่อื่น เนื่องจากเป็นอันตรายและก่อความเดือดร้อนให้ชุมชนมานานตั้งแต่สมัยผู้ใหญ่บ้านคนก่อนหน้านี้ หลังจากนี้จะมีการไปแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุดด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส