กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น พาร์ท 2" แชร์ภาพของเด็กหญิงคนหนึ่ง ถูกหนุ่มเพื่อนบ้านต่อยจนกรามแตก เพราะโมโหที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านแล้วท่อเสียงดัง ทำให้ลูกอ่อนตื่นกลางดึก ซึ่งหลังจากก่อเหตุก็รีบหลบหนีออกจากพื้นที่ทันที ทำให้ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเด็กผู้หญิงเช่นนี้ แม้ว่าผู้บาดเจ็บจะมีลักษณะเป็นทอมก็ตาม
ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.คลองหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ภายในซอย 25/2 โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนของหมู่บ้าน ซึ่งบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ห่าง จากบ้านผู้บาดเจ็บ ออกไปประมาณ 7 หลัง
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับนางแรกขวัญ บุษยมา 44 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ปกติแล้วนางสาวว่าน อายุ 15 ปี ลูกสาวของตน จะคอยช่วยเหลือดูแลลูกสาวคนเล็กอีก 2 คน อายุ 3 ขวบ กับ 7 ขวบ เนื่องจากตนเลิกกับสามี ทำให้ต้องออกไปทำงานคนเดียว และตอนนี้ลูกสาวก็เรียนออนไลน์ จึงแบ่งเบาช่วยดูแลน้อง ๆ อยู่ที่บ้าน
ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ ตนยอมรับว่าท่อเสียงดังจริง ๆ แต่ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ของลูกสาว เป็นรถของลูกชายเพื่อนที่ฝากรถจากจังหวัดสุรินทร์มาที่จังหวัดปทุมธานี เพิ่งจะเอามาฝากไว้ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น และในวันเกิดเหตุตนได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ขี่ไปทำงาน ทำให้ลูกสาวของตนไม่มีใช้ มีความจำเป็นจะต้องใช้รถคันดังกล่าวในการขี่รถออกไปซื้อข้าวให้น้อง ๆ
เวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา ลูกสาวโทรศัพท์มาหาว่าถูกเพื่อนบ้านตักทำร้ายด้วยการต่อย จนได้รับบาดเจ็บบริเวณกรามขวา จึงรีบไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าลูกสาวได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณกรามขวาจริง เลือดไหลออกปาก ในขณะที่ผู้ก่อเหตุรีบหลบหนีออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุครอบครัวของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อเข้ามาพูดคุย และยินดีให้ตนดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากรู้จักนิสัยของผู้ก่อเหตุดี และจะรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายทุกกรณี พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่ประกันตัวด้วย ตนก็ไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรกับญาติของผู้ก่อเหตุ แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยรู้จักกันเป็นส่วนตัว และขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะสิ่งที่ลูกสาวถูกกระทำค่อนข้างรุนแรงและเกินกว่าเหตุมาก ๆ
นอกจากนี้ สาเหตุของเรื่องดังกล่าว ตนมองว่าอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดว่า ลูกสาวของตนขี่รถมอเตอร์ไซค์เสียงดังยามวิกาล ซึ่งความเป็นจริงแล้วตอนกลับบ้านมาเวลา 21.00 น. ก็จะปิดบ้านนอน และลูกสาวก็ไม่ได้ไปไหน ตนมองว่าอาจจะเป็นวัยรุ่นกลุ่มอื่น ๆ ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์เสียงดังในยามกลางคืนมากกว่า ในความเป็นจริงแล้วควรที่จะไถ่ถามและพูดคุยกันก่อน หรือเตือนตนก็ได้ ไม่ใช่ไปดักต่อยทำร้ายกันแบบนี้
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้รับแชตการพูดคุย ระหว่างแม่ผู้ก่อเหตุ กับผู้ก่อเหตุ ในลักษณะให้กลับมามอบตัว และรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองก่อไว้
ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติม ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวนายอานันท์ เคาระลึก อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำที่โรงพัก หลังจากที่ภรรยาได้กดดันให้สามีเข้ามอบตัว เนื่องจากไปหลบซ้อนตัวที่บ้านเพื่อน ย่านปทุมธานี
ในระหว่างที่ตำรวจนำตัวนายอานันท์ ส่งให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสอบปากคำนั้น ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยนายอานันท์ กล่าวสั้น ๆ ว่า ตนทำไปเพราะความโมโห เนื่องจากผู้บาดเจ็บขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่อดังผ่านหน้าบ้านตนประจำ ๆ ซึ่งตนมีลูกเล็กอาศัยอยู่ในบ้าน โดยเฉพาะกลางดึกก็ยังจำเสียงได้ว่าคือรถของผู้บาดเจ็บ ซึ่งตนได้เตือนไปแล้ว แต่ไม่มีการปรับปรุงใด ๆ
กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บก็เบิ้ลรถจักรยานยนต์เสียงดัง ทำให้ลูกชายวัย 1 ขวบสะดุ้งตื่น ด้วยความโมโหจึงไปดักต่อยอยู่หน้าบ้าน ตนยืนยันว่าได้ต่อยเข้าไปที่ใบหน้าคู่กรณีเพียงแค่ครั้งเดียว ตอนนี้รู้สึกเครียด และรู้สึกผิด อยากขอโทษผู้บาดเจ็บ และพ่อกับแม่ของตัวเอง ที่สร้างความหนักใจและความเดือดร้อนให้เช่นนี้
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายอานันท์ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ด้วยความโมโหที่สะสมไว้ เนื่องจากมักจะได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ท่อดังผ่านหน้าบ้าน ทำให้ลูกตื่นในยามกลางคืน และกว่าจะนำลูกนอนได้ก็เกือบเช้า จึงลงมือก่อเหตุต่อยนางสาวว่าน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อว่าจะต่อยเพียงแค่ครั้งเดียว เนื่องจากผู้บาดเจ็บขากรรไกรและกรามแตก โดยจะนำผลตรวจร่างกายและผลการรักษามาประกอบในการตั้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาไปยังนายอานันท์ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น
