จับลุงโหดแค้นสาวแทงพุงไล่ฆ่าคาซอย ก๊วนไหว้ขอชีวิต แฉเหตุยัวะหลานหนีเที่ยว (คลิป)

กรณีพ.ต.ท.ณรัฐ บัวเขียว สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงเสียชีวิต ภายในซอยสิงห์เจริญอุทิศ 4 ตากสิน 18 แขวง บุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผบช.น., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ.(191) และพ.ต.อ.ปิยะกรณ์ ศรีวันทา ผกก.สน.บุคคโล

เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างหญิงสาวรายหนึ่งนอนเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา น.ส.สุจิตรา เทพศิรินทร์รัตน์ หรือ เก๋ อายุ 33 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อสีครีม มีเสื้อคลุมสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะสีดำ ต่อมาเวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยแพทย์ชันนสูตร รพ.จุฬาลงกรณ์ เข้าตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะและลำตัว ยังไม่ทราบขนาดแน่ชัด จำนวน 2 นัด 

ล่าสุดวันที่ 13 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยสิงห์เจริญอุทิศ 4 ซอยตากสิน 18 แขวงบุคโล เขตธนบุรี กทม. โดยจุดที่นางสาวสุจิตรา ถูกจริง บริเวณกลางซอยริมทางข้างสังกะสี ยังพบคราบเลือดอยู่บนถนน

จากนั้นทีมข่าวว่าเข้าไปพูดคุยกับนายต้น (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตอนขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เห็นกลุ่มวัยรุ่นวิ่งหนีเข้ามาภายในซอยกันหลายคน ในตอนแรกตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก่อน 2 นัด ในลักษณะของการขี่รถจักรยานยนต์ไล่ยิง จากนั้นเด็กวัยรุ่นก็หลบหนีแอบตามซอกรถที่จอดอยู่ข้างทาง จังหวะนั้นตนแอบหลบแอบอยู่ข้างเสาบ้าน แต่นางสาวสุจิตรา เสียหลักล้ม ซึ่งตนเห็นผู้ก่อเหตุเดินมาจ่อยิงผู้เสียชีวิตอีก 4 นัด พร้อมพูดอวดอ้างบารมีว่า “ให้มันรู้เสียบ้างว่ากูเป็นใคร”

ในขณะนั้นตนตกใจมาก ๆ จึงรีบหันรถกลับเข้าบ้าน เพราะเหมือนมีกลุ่มของผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมาอีกครั้ง ส่วนตนก็กลัวโดนลูกหลงด้วย ตอนนั้นคิดว่าตนต้องตายแล้วแน่ ๆ เพราะยิงใกล้ขนาดนั้น และมองว่าพฤติกรรมแบบนี้โหดมาก ๆ แต่ตนไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้พวกเขามีปัญหาอะไรกันมาก่อน และตนก็ไม่รู้จักทั้ง 2 ฝ่าย

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับภาพกล้องวงจรปิด จับภาพเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุได้ คลิปที่ 1 ความยาวคลิป 1 นาที 19 วินาที จับภาพเด็กวัยรุ่นวิ่งหนีเข้ามาในซอย จากนั้นวินาทีที่ 15 นางสาวสุจิตรา วิ่งล้มลงเสียหลัก นายเสมา ผู้ก่อเหตุ เดินเข้ามาจ่อยิง วินาทีที่ 18 โดยนายภานุสรณ์ ญาติผู้ก่อเหตุ ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

คลิปที่ 2 ความยาวคลิป 42 วินาที จับภาพฝั่งผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน โดยลูกชายผู้เสียชีวิต พร้อมกับนายพีช เพื่อนของลูกชายผู้เสียชีวิต คุกเข่าพนมมือไหว้ขอโทษ จากนั้นชาวบ้านก็เริ่มออกมาดู

คลิปทึ่ 3 ความยาวคลิป 43 วินาที กลุ่มวัยรุ่นที่มากับผู้เสียชีวิต เดินวนไปมาร้องขอให้ชาวบ้าน

คลิปที่ 4 เป็นภาพอีกมุมความยาวคลิป 2 นาที 51 วินาที ปรากฏภาพกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นลูก ๆ ของญาติผู้เสียชีวิตวิ่งหนีเข้ามาในซอยที่เกิดเหตุ เห็นนายต้น ผู้เห็นเหตุการณ์ ขี่รถจักรยานยนต์แอบอยู่ข้างเสา วินาทีที่ 23 เห็นนายเสมา ผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิง นางสาวสุจิตรา

ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามนายแก้ว จันทลักษณ์ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า นายเสมา ผู้ก่อเหตุ เป็นคนค่อนข้างใจเย็น และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อาศัยอยู่กับเด็กหญิงลำดวน ซึ่งเป็นหลานสาว และค่อนข้างที่จะเป็นห่วงหลานมาก ๆ  ที่ผ่านมาตนเห็นว่าหลานของเขาค่อนข้างที่จะดื้อ แต่นายเสมา ก็ไม่เคยตีหลานสาว ค่อนข้างที่จะใส่ใจเด็กหญิงลำดวน ทั้งนี้ ตนทราบแค่ว่าเด็กหญิงลำดวน หายตัวไป แต่ก็ไม่ได้กล้าถามเรื่องส่วนตัวในครอบครัว ซึ่งหลังทราบข่าวเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่านายเสมาหลบหนีไปไหน

ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับเด็กหญิงลำดวน หลานผู้ก่อเหตุ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้หนีออกจากบ้านหรือถูกใครกักขัง แต่เป็นความตั้งใจที่ตนจะออกจากบ้านไปเอง เพราะตนอยากไปอยู่กับเพื่อน เนื่องจากมีความเครียดส่วนตัว และไม่มีความสุขที่จะอยู่บ้าน และบางครั้งก็ถูกตีและถูกตำหนิ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ขอตอบคำถามใด ๆ พาดพิงไปถึงใคร ในส่วนของเพื่อนกลุ่มดังกล่าวตนก็เลือกที่จะเลิกคบแล้ว และหากว่ามีเวลาตนก็ตั้งใจจะเข้าไปขอขมาศพของผู้เสียชีวิต

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยัง สน.บุคคโล เนื่องจากมีรายงานว่า นายเสมา ขจรพันธ์ เข้ามอบตัวตามหมายจับแล้ว ซึ่งทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายเสมา ถึงปมสาเหตุในการก่อเหตุยิง ว่ามาจากการถูกแทงก่อน หรือบันดาลโทสะ แต่นายเสมา มีสีหน้าแววตาที่ค่อนข้างเครียด และไม่ตอบคำถามาสื่อมวลชน ก่อนจะใช้มือซ้ายประครองบาดแผลบริเวณหน้าท้องข้างซ้าย

พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเองนานกว่า 1 ชม. เปิดเผยว่า เบื้องต้นเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าผู้ก่อเหตุมีความผิดจริง และการไปพบผู้ต้องหาที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้าม สน.บุคคโล มีการนำกำลังเจ้าจับกุมตามหมายจับ ไม่ใช่การมอบตัวแต่อย่างใด

ภายหลังที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ได้ประสานขอเข้ามอบตัวมาก่อนหน้านี้ และจากการสอบถามเบื้องต้นนั้น น้องลำดวน หลานสาวที่ไปอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นเด็กที่ผู้ต้องหาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก มีความผูกพันกันมาก เลยคิดว่าผู้เสียชีวิตจะเอาเด็กไปเลี้ยงเอง ซึ่งผู้เสียชีวิตตั้งใจพามาส่งอยู่แล้ว 

แต่ในระหว่างนั้นก็มีปากเสียงกัน เพราะเด็กไม่ได้อยากไปอยู่กับผู้ต้องหา แต่อยากอยู่กับผู้ตาย ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความน้อยใจ เพราะเด็กไม่อยากอยู่ด้วย ในขณะเดียวกันมีพยานในที่เกิดเหตุให้การว่าผู้เสียชีวิตใช้มีดแทงผู้ต้องหาก่อน ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความแค้นใจ และในระหว่างที่กำลังไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผล เจอผู้เสียชีวิตระหว่างทาง จึงใช้ปืนที่พกติดตัวยิงผู้เสียชีวิตทันที ตามหลักฐานกล้องวงจรปิดดังกล่าว 

"ในวันนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนพาผู้ต้องหาไปทำแผลที่โรงพยาบาล และไปดูจุดที่ทิ้งอาวุธปืน ข้างถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ต้องหาในคดีนี้ 2 คน คนแรกเป็นคนที่ใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิต และคนที่ 2 เป็นคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วย โดยจะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาวุธปืนไปในเมืองหรือที่ทางสาธารณะ ส่วนกลุ่มเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนี้จะนัดเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยมีทีมสหวิชาชีพมาประกอบด้วย ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุเริ่มจากฝ่ายผู้ต้องหายั่วยุในโลกโซเชียลฯ กลุ่มผู้เสียชีวิตจึงตามมา สำหรับด.ญ.ลำดวน เป็นลูกของน้องชายของผู้ต้องหาที่ผู้ต้องหาขอมาเลี้ยง" พล.ต.ต.มานพ กล่าว 

เวลาประมาณ 16.00 น. ครอบครัวของนางสาวสุจิตรา เทพศิรินทร์รัตน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิต เดินทางมาพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ 1 รูป บริเวณภายในซอยตากสิน 18 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ เพื่อเดินทางมาอัญเชิญดวงวิญญาณ จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังวัดดาวคะนอง ในพื้นที่เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ภายในศาลาวัดถูกจัดตั้งงานศพของนางสาวสุจิตรา โดยมีญาติพี่น้อง และกลุ่มวัยรุ่นบางส่วน เดินทางมาแสดงความเสียใจ

นายวันชัย เทพศิรินทร์รัตน์ อายุ 37 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมากหลังจากทราบข่าว เนื่องจากเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนรัวยิงบริเวณใบหน้า 4 นัดซ้อน หมายจะให้ตายสถานเดียว และน้องสาวของตนก็ล้มเสียหลักแล้ว จริง ๆ ถ้าโมโหจะสั่งสอนเตะต่อยกระทืบ หรือยิงแค่ขาเพื่อขู่ก็ได้ การจ่อยิงแบบนี้ถือว่าโหดร้ายมาก ๆ 

ทีมข่าวพูดคุยกับเด็กหญิงแตงกวา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนกับเด็กหญิงลำดวน กล่าวว่า ตนกับเด็กหญิงลำดวน ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก เพิ่งรู้จักได้ 2 เดือน โดยมีการแชตข้อความอ้างว่าขออนุญาตผู้ปกครองแล้ว จะมาขออยู่อาศัยเที่ยวเล่นด้วย ตนจึงให้มา พอสอบถามเด็กหญิงลำดวน ก็บอกตนว่าสาเหตุที่ออกจากบ้านเพราะถูกลุงตี ตำหนิ และไม่มีความสุข จึงออกมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนเพื่อความสบายใจ

ทั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าเด็กหญิงลำดวนออกจากบ้านมาเป็นสัปดาห์แล้ว เพราะเขาเพิ่งมาอยู่ที่บ้านตนได้ 1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ทราบว่าไปพักบ้านเพื่อนคนไหน จากนั้นพี่สาวของเด็กหญิงลำดวน ทักแชตข้อความมาหาเด็กหญิงแตงโม อายุ 11 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวตน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และหาว่ากักขังเด็กหญิงลำดวน ก่อนจะท้าทายให้ออกไปตบกัน ทำให้แม่ของตนไม่พอใจ จึงรีบพาตัวไปส่งเด็กหญิงลำดวน แต่ก็มีปากเสียงกัน จนถูกผู้ก่อเหตุยิงเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากแม่เป็นทุกอย่างในชีวิตของตน เพราะแม่เลิกกับพ่อไปนานแล้ว ซึ่งตนมองว่าคนก่อเหตุโหดเหี้ยมมาก ๆ และตนขอยืนยันว่าจะไม่อโหสิกรรมให้ ไม่มีวันให้อภัย ส่วนเรื่องมีดตนยอมรับว่าแม่พกมีดไปจริง แต่ที่แทงผู้ก่อเหตุก่อน เพราะกลุ่มของผู้ก่อเหตุรุมกระทืบพี่ ๆ ของตนก่อน