กรณีการเสียชีวิตของ น้องอั่งเปา เด็กหญิงวัย 7 เดือน ถูกหามส่งโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา ด้วยอาการกะโหลกร้าว สมองบวม เลือดคั่งในสมอง มีเลือดออกในม่านตา กระดูกนิ้วชี้ข้างซ้ายหัก บริเวณช่องท้องมีรอยช้ำ และอวัยวะเพศฉีกขาด
กระทั่งน้องอั่งเปา จะเสียชีวิตในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 65 ซึ่งครอบครัวฝั่งพ่อคาใจเชื่อว่าเด็กต้องถูกทำร้าย และพุ่งเป้าความสงสัยไปที่เเม่เด็กกับพ่อเลี้ยง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 13 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดราษฎร์บูรณะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สถานที่ฌาปณกิจศพน้องอั่งเปา ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสารภี คงเจริญ อายุ 58 ปี สัปเหร่อที่ทำหน้าที่เผาศพ เปิดเผยว่า ทางครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตนำศพมาทำพิธีที่วัดเห่งนี้ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 65 เวลา 15.00 น. ซึ่งศพมาถึงที่วัดสวดอภิธรรม 1 คืน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 65 เวลา 13.00 น. ทำพิธีฌาปณกิจ และเวลา 15.00 น. เก็บกระดูก
สำหรับบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีผู้มาร่วมงานประมาณ 10 คน เเต่ละคนอยู่ในอาการเสียใจ โดยเฉพาะเเม่เด็ก ร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดเวลา ตั้งเเต่วันที่นำศพมาวัดจนถึงตอนเก็บกระดูกก็ยังร้องไห้ ตนยังช่วยปลอบใจด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนจะฌาปนกิจทางญาติ ๆ ได้นำเอกสารมายื่นให้วัดตามระเบียน เป็นสำเนาใบมรณบัตร ระบุสาเหตุการตายว่า "เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นหนา กะโหลกศีรษะเเตก"
ทั้งนี้ หลังจากที่ตนเห็นใบมรณบัตรก็รู้สึกเเปลกใจ จึงถามเเม่เด็กว่า "ลูกไปโดนอะไรมา" เเม่เด็กก็บอกว่า "ไกวเปลเเรงไปหน่อย ลูกตกเปลหลายครั้ง เเต่ไม่เคยพาลูกไปหาหมอ"
ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.ศิริลักษณ์ ผาพา ญาติของเเม่น้องอั่งเปา ซึ่งเป็นคนที่มีความสนิทสนมกับเเม่เเละยายของน้องอั่งเปา เปิดเผยว่า หลังจากน้องอั่งเปาคลอด ตนก็ช่วยเลี้ยงจนถึงอายุ 6 เดือน เนื่องจากเเม่เด็กอายุยังน้อย เลี้ยงลูกไม่เป็น ตนก็ช่วยสอนการอุ้ม เเละสอนการไกวเปล ซึ่งตอนที่อยู่ด้วยกันที่เเม่เด็กไกวเปล ไม่เคยเห็นน้องอั่งเปาตกเปลเเม้เเต่ครั้งเดียว เเต่หลังจากเเม่น้องอั่งเปาไปมีสามีใหม่ เเล้วพาน้องอั่งเปาไปเลี้ยงเอง ตนก็ไม่ทราบว่าพวกเขาเลี้ยงกันอย่างไร
ส่วนที่เเม่เด็กอ้างว่ารอยช้ำ ๆ ตามร่างกายมาจากการตกเปล หรือตกเตียงนั้น ตนไม่เชื่อเพราะเคยช่วยเลี้ยงน้องอั่งเปาเหมือนกัน จึงทราบดีว่าเปลดังกล่าวความสูงจากพื้นไม่เกิน 10 เซนติเมตร เป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะกะโหลกเเตก หรือเลือดออกในสมองได้ และตนก็ไม่เชื่อว่าการนั่งรถจักรยานยนต์ จะทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดได้
น.ส.ศิริลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 65 ตำรวจเชิญตนไปให้ปากคำที่โรงพัก ทราบว่านายโจ พ่อเลี้ยงน้องอั่งเป่า ให้การกับตำรวจอ้างว่ารอยช้ำในตัวน้องอั่งเปา เกิดจากการที่เเม่เด็กเป็นคนตี ซึ่งตนก็สอบถามเเม่เด็ก ยอมรับว่าตีลูกจริง เเต่ตีไม่เเรง ตีเบา ๆ เท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะช้ำ ดังนั้นจึงฝากไปถึงเเม่เด็ก "พี่อยากให้ออมพูดความจริง อยากให้ออมปกป้องลูกตัวเอง อย่าปกป้องคนอื่น"
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า ผลชันสูตรที่ระบุว่าเด็กตายด้วยอาการกะโหลกร้าว สมองบวม เลือดคั่งในสมอง มีเลือดออกในม่านตา กระดูกนิ้วชี้ข้างซ้ายหัก บริเวณช่องท้องมีรอยช้ำ แต่พ่อเลี้ยงอ้างว่าเด็กตกเปลนั้น ตนก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าคำพูดของพ่อเลี้ยงเป็นจริงหรือไม่
แต่สำหรับผลชันสูตรนั้น แพทย์สามารถแยกแยะได้ว่าอาการบาดเจ็บดังกล่าวเกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากถูกกระทำ โดยแพทย์จะดูจากตำแหน่งของบาดแผลกับความสอดคล้องของสถานที่เกิดเหตุ และต้องดูร่องรอยการบาดเจ็บที่สมอง เพราะหากถูกทำร้ายนั้น จะพบบาดแผลฟกช้ำ เลือดออกที่เยื้อหุ้มสมอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่อวัยวะเพศฉีกขาด ซึ่งพ่อเลี้ยงอ้างว่าเกิดจากการซ้อนรถมอเตอร์ไซค์นั้น อาจจะเป็นไปได้ยากมาก ๆ เพราะโอกาสที่อวัยวะเพศจะกระแทกกับตัวรถนั้น มีโอกาสน้อยมาก ๆ เพราะเบาะรถถูกออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่
