กำลังจะก้าวเข้าสู่ 43 กะรัต ในวันที่ 10 ม.ค. ที่จะถึงนี้แล้ว สำหรับแม่หม้ายสวยแซ่บอย่างบุ๋ม ปนัดดา ซึ่งเจ้าตัวก็ขอจัดงานปาร์ตี้วันเกิดล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ดูจากในอินสตาแกรม คงจะสนุกสุดเหวี่ยงเลยทีเดียว
ล่าสุด (7 ม.ค. 62) ได้เจอสาวบุ๋ม ก็เลยถามถึงโมเมนต์ปาร์ตี้วันเกิดที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงบ้าง แอบเห็นมีน้ำตาซึมด้วย เล่าให้ฟังหน่อยค่าาา
“จริง ๆ แล้วเกิดวันที่ 10 ม.ค. แต่ในวันเกิดเราตั้งใจจะเข้าวัด ทำบุญ ตักบาตร ตามสไตล์บุ๋ม แต่บังเอิญตั้งแต่อยู่วงการมา 18 ปี ไม่เคยจัดปาร์ตี้วันเกิดให้แฟนคลับเลย ส่วนใหญ่จะไปทำกิจกรรมวันเด็ก บริจาคให้กับผู้พิการซ้ำซ้อน แต่ในปีนี้รู้สึกว่าเราทำงานมาหนักขนาดนี้ เราทำคนเดียวไม่ได้หรอก ต้องขอบคุณทีมงาน ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ขอบคุณพรีเซนเตอร์ที่ดูแลเรามาจนเรามีตังไปช่วยเหลือคนอื่น เราก็เลยอยากจัดงานเพื่อขอบคุณเขา“
จัดเป็นครั้งแรก ?
“ถ้าใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ“
มีโมเมนต์น้ำตาไหลด้วย ?
“ใช่ แฟนคลับร้องเพลงให้ เพลงสิ่งสำคัญ แล้วมีแฟนคลับมาจากทั่วประเทศไทย“
กี่ชีวิต ?
“เกือบ ๆ ร้อยคน แล้วพอมีคนเยอะ ๆ ร้องเพลงให้ มันก็เลยรู้สึกตื้นตัน น้ำตามาเฉยเลย“
มีกิจกรรมสนุกสนานเยอะเลย ?
“เยอะมาก โดยเฉพาะได้เจอผู้ใหญ่หลายท่านที่ไม่คิดว่าเขาจะมา บางคนบินจากต่างประเทศมาหา เพื่อมางานเรา เมื่อวานเลยเป็นวันที่ตื้นตันมาก“
เป็นวันเกิดที่ประทับใจที่สุดเลยไหม ?
“ประทับใจมากค่ะ เพราะปกติเราจะเป็นผู้ให้ แต่ปีนี้เรากลับกลายได้เป็นผู้รับ ก็รู้สึกดี ขอบคุณแฟนคลับทุกคนจริง ๆ“
มีของขวัญอะไรพิเศษไหม ?
“ชอบทุกชิ้นเลย แต่เหมือนลูกสาวจะชอบมากกว่า น้องเขาก็จะชอบเปิดดูแล้วก็บอกว่าอันนี้ของหนู เขาตื่นเต้นกว่าแม่อีก เห็นเขามีความสุขเราก็ดีใจแล้ว“
ปีนี้อยากได้อะไรไหม ?
“ตั้งใจเข้าวัดทำบุญค่ะก็เลยจัดงานวันเกิดก่อนวันจริง วันที่ 10 จริง ๆ ก็ขออยู่เงียบ ๆ ขอทำบุญ ขอกราบพระ ขอนั่งสมาธิเงียบ ๆ พอแล้ว“
ขออัปเดตถึงเรื่องหัวใจสักหน่อย ว่าตอนนี้มีคนมาดามใจหรือยัง ?
“ตอนนี้ก็ใช้คำว่าโสดได้เต็มปากเต็มคำแล้วมั้งคะ เพียงแต่ว่ากับคุณเอกเราก็ยังเจอกันอยู่ ยังคุยกันอยู่ ยังมีไปทานข้าวกันอยู่ มันตัดกันไม่ได้หรอกค่ะ เรามีอะไรต้องรับผิดชอบร่วมกันอีกเยอะ ที่สำคัญพอเป็นสถานะที่โสดทั้งคู่ เราก็ไม่ต้องมานั่งคาดหวังกัน พอเขาเป็นสามีเราก็คาดหวังว่าเขาต้องดูแลเราอย่างนั้นเขาต้องดูแลเราอย่างนี้ แต่พอต่างคนต่างอยู่และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน กลับมีความสุขในการคบหากันมากกว่า“
แบบนี้ก็อาจจะกลับไปเป็นสามี - ภรรยากันเหมือนเดิม ?
“เขาก็อยากรีเทิร์นนะ แต่บุ๋มก็บอกเขาไปคำเดิมว่าจะดูแลเรายังไง ยกตัวอย่างง่ายๆช่วงที่เป็นสามีภรรยากัน เราบอกเขาว่าวันนี้อาบน้ำหมานะ แล้วเขาก็กลับใช้คำว่าลืม เราก็มองว่าเรื่องแค่นี้ทำไมถึงลืม ฉันทำงานเหนื่อยนะ ฉันทำงานหนักนะ แต่เขากลับมองว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องซีเรียส คือความผู้ชายอะ มันมองกันคนละมุม เพราะเป็นผัวปุ๊บเราก็ต้องคาดหวังว่าผัวต้องดูแล แต่พอไม่ใช่ผัวจะทำ ไม่ทำไม่เกี่ยวกับบ้านฉันแล้ว ฉันก็ต้องดูแลของฉันเอง แล้วมันก็ไม่ต้องทะเลาะกัน ฉันก็ไม่เครียด มันก็แฮปปี้กว่า“
อีกฝั่งเดินหน้าง้อเต็มที่ ?
“ไม่เห็นจะเต็มที่เลย ไม่รู้ว่าเต็มที่หรือเปล่า เขาก็ใช้คำว่าอยากกลับมา เราก็บอกเขาว่ายังไง ถ้าเขายังแก้โจทย์ตรงนั้นไม่ได้ก็กลับมาไม่ได้หรอก“
ถ้าวันหนึ่งเขาสามารถแก้ได้เราก็พร้อมกลับไป ?
“คงต้องถามคนในบ้านว่ายังไง เพราะการคบกันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแล้ว“
เรามีเปิดใจให้คนอื่นบ้างหรือยัง ?
“ไม่ไหวค่ะ มีมาบอกว่าชอบ อยากจีบ เราก็ตอบไปว่า แผลเรายังสดอยู่ พอมีคนมาพูดแบบนี้ก็เลยรู้ตัวว่าเรายังไม่พร้อม ยอมรับว่ามีพี่หลายคนเข้ามาให้ความเมตตา เขาใช้คำว่าพี่ยินดีดูแลบุ๋มนะ เราก็ขอบคุณ“
แบบนี้น่าจะตอบโจทย์เพราะเขาพร้อมดูแลเรา ?
“คนเรามันต้องศึกษากันพี่ไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปื่อย มีลูกสาวมีครอบครัวที่ต้องดูแล เราก็มีงานเยอะเราไม่สามารถดูแลใครได้เต็มที่ เหมือนแม่บ้านคนอื่น ๆ เขา“
หรือเพราะเปิดโอกาสให้พี่เอกแก้ตัวเลยยังไม่เปิดใจให้ใคร ?
“ไม่ใช่ คือเรามีใครเข้ามาเราก็แฮปปี้ เพียงแต่เรายังไม่มีเวลาให้ใครเลย ตอนนี้ก็ขอโสดแบบสวย ๆ ช่วยคนก่อนค่ะ“